รีวิว vivo V5 Plus สมาร์ทโฟนเซลฟี่ขั้นสุด! กล้องหน้าเลนส์คู่ 20MP พร้อมโหมด “Bokeh” ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ

รีวิว vivo V5 Plus สมาร์ทโฟนเซลฟี่ขั้นสุด! กล้องหน้าเลนส์คู่ 20MP พร้อมโหมด “Bokeh” ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ หลังจากที่ vivo แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำได้เปิดตัว vivo V5 สมาร์ทโฟนกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา (ชมรีวิว) โดยได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องผสานกับฟีเจอร์การใช้งานที่โดดเด่นตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

อีกทั้งมีราคาวางจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายจึงไม่แปลกใจนักที่สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะมีกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ล่าสุด vivo เดินหน้าสานต่อความสำเร็จนี้ด้วยการเปิดตัว vivo V5 Plus สมาร์ทโฟนอัพเกรดอีกหนึ่งรุ่น ที่ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา

โดย vivo V5 Plus ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปกล้องหน้าเลนส์คู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลก มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 13,990 บาท มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Perfect Selfie” ภายใต้สโลแกน Camera & Music รวมสุดยอดนวัตกรรมการถ่ายภาพ และการฟังเพลงในแบบที่ไม่เหมือนใครเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันตอบสนองถึงมือผู้ใช้ทุกคน

ซึ่งทาง vivo แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำจับมือกับ Sony ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมกล้องเลนส์คู่บนสมาร์ทโฟนก้าวไปสู่อีกระดับ ด้วยระบบเซ็นเซอร์กล้องหน้า Sony IMX376 ขนาด 1/2.78” ค่ารูรับแสง f/2.0 ระบบเลนส์ 5P ความละเอียดสูง 20 ล้านพิกเซล มาพร้อมแสงแฟลช Selfie Softlight เอฟเฟกต์แสงระดับสตูดิโอ

และเลนส์ตัวที่สองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับฟังก์ชั่น Bokeh Mode การถ่ายภาพโบเก้ หรือหน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Shot Refocus ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกจุดโฟกัสหลังถ่ายภาพเสร็จได้เองอีกด้วย ขณะที่กล้องหลังจะมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ PDAF

ด้านระบบเสียง Hi-Fi ใช้ชิปเสียงคุณภาพ AK4376 สัดส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนมากถึง 115dB ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 625 แบบ octa-core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยความจำ RAM 4GB ความจุ 64GB ด้วยระบบการจัดการ Smart Engine ทำงานลื่นไหลด้วยแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ล่าสุด Funtouch OS 3.0 บนพื้นฐาน Android 6.0 Marhsmallow

ดีไซน์บาง 7.26 มม. หน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้ว จอขอบโค้งครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าเดิมด้วยความจุ 3160mAh ชาร์จไวด้วย Dual Chip Charging มีโหมดถนอมสายตาระบบกรองแสงสีฟ้าขณะใช้งานยามค่ำคืน หรือตอนกลางวัน และฟังก์ชัน Smart Split 2.0 ใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอ

ด้านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสามารถปลดล็อกได้ไวในพริบตาเพียง 0.2 วินาที เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปชมรีวิว vivo V5 Plus เครื่องนี้กันเลยค่ะ และหากเพื่อนๆ เห็นว่าบทความรีวิวนี้มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อเครื่อง ก็อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์บทความเป็นกำลังใจให้แอดมินกันด้วยนะคะ 🙂

ข้อมูลสเปค vivo V5 Plus

Features	vivo V5 Plus
วันเปิดตัว :	– มกราคม 2560
ราคา :	– 10,990.- (ณ วันที่ 16 ส.ค. 60)
ระบบปฏิบัติการ :	– Android 6.0 Marshmallow ครอบทับ Funtouch  OS 3.0
หน้าจอ :	– หน้าจอ IPS LCD
	– ขนาด 5.5 นิ้ว
	– ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล (Full HD)
	– ขอบโค้ง 2.5D
	– Gorilla Glass 5
	– Multitouch
CPU :	– Snapdragon 625 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz
GPU :	– Adreno 506
RAM :	– 4GB
ความจำตัวเครื่อง :	– 64GB
	– microSD สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :	– 16 ล้านพิกเซล
	– เซ็นเซอร์ Sony IMX376
	– ค่ารูรับแสง f/2.0
	– LED flash
	– phase detection autofocus
	– Geo-tagging
	– touch focus
	– face detection
	– panorama
	– HDR
กล้องหน้า :	– Dual 20 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล
	– ค่ารูรับแสง f/2.0
Video :	– 2160p@30fps
Battery :	– 3160mAh รองรับ Fast Charging
ขนาด :	– 152.58 × 74 × 7.26 มม.
น้ำหนัก :	– 158.6 กรัม
รองรับซิม :	– Hybrid Dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
	– 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz
	– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
	– Bluetooth 4.0
	– micro USB 2.0
	– OTG
	– 3.5mm jack
	– ชิปเสียง Hi-Fi AK4376
GPS :	– A-GPS
	– GLONASS
Sensor :	– Fingerprint
	– accelerometer
	– gyro
	– proximity
สี :	– ทอง
	– ดำ

สำรวจนอกกล่อง vivo V5 Plus

vivo V5 Plus ถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ดูพรีเมียม โชว์คอนเซ็ปต์ “Perfect Selfie” เผยให้เห็นดีไซน์บอดี้สุดบางเฉียบด้านหน้ากล่อง และลักษณะการจัดวางของเส้นเสาสัญญาณด้านหลังตัวเครื่อง ด้านหน้ามีกล้องเลนส์คู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Selfie Softlight และสัญลักษณ์สนับสนุน 4G LTE

ด้านหลังกล่องชูจุดเด่นเบื้องต้นของ vivo V5 Plus ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าเลนส์คู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล การชาร์จแบตเตอรี่แบบ Fast Charging หรือมาพร้อมหน่วยความจำ RAM 4GB ความจุภายในตัวเครื่อง 64GB เป็นต้น ขณะที่ด้านหลังกล่องส่วนล่างมีการระบุเลข IMEI รหัสโมเดล เฉดสีตัวเครื่อง วันและสถานที่ผลิต รวมไปถึงเบอร์ติดต่อ Call Center สำหรับวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ทาง ninethaiphone จะนำ vivo V5 Plus เครื่องสีทองมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยค่ะ

แกะกล่อง vivo V5 Plus

พรีเมียมตั้งแต่เปิดกล่อง ตัวเครื่องสมาร์ทโฟนรวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ถูกบรรจุเก็บห่ออย่างดี แยกสัดส่วนกันอย่างเป็นระเบียบ มีกล่องย่อย 2 กล่อง สำหรับบรรจุอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่, หูฟัง และบรรจุคู่มือการใช้งาน, เคสซิลิโคน และฟิล์มกันรอยที่แถมมาให้

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน vivo V5 Plus สีทอง
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สายชาร์จ microUSB
– หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
– คู่มือการใช้งาน
– เคสซิลิโคนแบบใส
– ฟิล์มกันรอยแบบใส
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด

Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ vivo V5 Plus รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual Charging Engine มีระบบป้องกันการชาร์จแบตเตอรี่หมดห่วงเรื่องความปลอดภัย INPUT 100-240V และ OUTPUT 5V-2A สายชาร์จ microUSB 2.0 และหูฟังมีสมอลทอร์คเสียงคมชัด

ตัวเครื่องหลังใส่เคสซิลิโคนสีขาวแบบใส ป้องกันรอยได้รอบตัวเครื่อง

ทำความรู้จัก vivo V5 Plus

ด้านหน้า vivo V5 Plus ดีไซน์หน้าจอ IPS LCD ใหญ่เต็มตาขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ขอบนูน 2.5D จอขอบโค้ง และขอบจอแคบเป็นพิเศษเพิ่มความสบายในการสัมผัส

ด้านหน้าส่วนบน เริ่มจากฝั่งซ้ายประกอบไปด้วยเลนส์กล้องคู่ตัวที่สองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, เลนส์คู่ตัวแรกความละเอียด 20 ล้านพิกเซล Sony IMX376 ขนาด 1/2.78” ค่ารูรับแสง f/2.0 ระบบเลนส์ 5P รองรับการถ่ายภาพ Bokeh และโหมด Shot Refocus

ถัดมาเป็นลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา, Light sensor เซ็นเซอร์วัดสภาพแสง Proximity sensor เซ็นเซอร์ปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา และขวาสุดคือแฟลช Selfie Softlight ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย

ด้านหน้าส่วนล่าง เริ่มจากฝั่งซ้ายประกอบไปด้วยปุ่มการใช้งานแบบสัมผัส ได้แก่ ปุ่มมัลติทาสก์, ปุ่มโฮมที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฉับไวปลดล็อกตัวเครื่องภายใน 0.2 วินาที และปุ่มย้อนกลับ

ด้านหลัง ตัวเครื่องดูโล่งสบายตาผิวสัมผัสตัวเรียบด้าน Sleek Brilliant Design สะท้อนเงา ดีไซน์สวยโค้งมนรับกระชับมือ บอดี้โลหะแบบ Unibody งานประกอบแน่นหนาไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง ตัวเครื่องมีขนาด 152.58x74x7.26 มิลลิเมตร น้ำหนัก 158.6 กรัม เส้นเสาสัญญาณพาดไว้ที่ส่วนบน และล่างของตัวเครื่อง

ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วยเลนส์กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อม LED flash และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ PDAF รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K Ultra HD และซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพ

ด้านหลังส่วนล่าง เป็นการสกรีนข้อความระบุถึงดีไซน์ตัวเครื่องที่ถูกออกแบบโดย vivo

ด้านบนตัวเครื่อง เรียบด้านไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ

ด้านล่างตัวเครื่อง เริ่มจากฝั่งซ้ายประกอบไปด้วยช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.0 สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 3160mAh รองรับเทคโนโลยี Dual Charging Engine, ลำโพงคุณภาพระบบเสียง Hi-Fi Audio ชิปเสียงระดับ AK4376 สัดส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนมากถึง 115dB

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nano SIM และ microSD Card สูงสุด 256GB แต่ต้องเลือกว่าจะใช้งาน 2 ซิมการ์ด หรือใช้งานซิมเดียวแล้วอีกช่องใส่ microSD Card

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับรีสตาร์ทการใช้งาน หรือเปิด-ปิดตัวเครื่อง

การแคปภาพหน้าจอ สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยการกดไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่อง + ปุ่มโฮมที่ฝังสแกนลายนิ้วมือ

ทดสอบประสิทธิภาพ

vivo V5 Plus เมื่อนำไปทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น AnTuTu สามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 62728 คะแนน ถือว่าได้คะแนนสูงพอสมควร สำหรับสมาร์ทโฟนเน้นเซลฟี่ราคาหมื่นกลาง

สำหรับ vivo V5 Plus ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 625 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกทำงานได้ดีด้วย Adreno 506 หน่วยความจำ RAM 4GB ความจุ 64GB รองรับหน่วยความจำภายนอก microSD Card สูงสุด 128GB รันบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow) ครอบทับ Funtouch OS 3.0 เวอร์ชั่นล่าสุด การประมวลผลต่างๆ ภายในตัวเครื่องประมวลผลเร็วทำงานได้ดีไม่มีสะดุด การเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ 4G LTE ไหลลื่นดีเยี่ยม

ซอฟต์แวร์

หน้าจอ Lock screen เริ่มจากมุมล่างซ้ายมือสามารถเข้าถึงเมนูโทรศัพท์ใช้สนทนา ลูกศรชี้ขึ้นบริเวณกึ่งกลางสำหรับเลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อกเครื่อง ส่วนทางด้านขวาจะเป็นการเข้าสู่โหมดกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อปลดล็อกหน้าจอด้วยการใช้นิ้วปัดหน้าจอขึ้นจะนำเข้าสู่หน้า Home screen มีมาให้จำนวน 2 หน้า ที่สามารถเพิ่มเติมได้ในภายหลัง แอพฯ ที่ติดมากับตัวเครื่องมีให้ใช้งานอย่างครบครัน มีไม่เยอะเกินไปกำลังพอเหมาะ และสามารถดาวน์โหลดแอพฯ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store

เมนูการตั้งค่าพื้นฐานภายในตัวเครื่อง

รันบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow) ครอบทับ Funtouch OS 3.0 เวอร์ชั่นล่าสุด ทำงานได้ลื่นไหลดีมาก

ระบบเสียง Hi-Fi ประสิทธิภาพชิปเสียง AK4376 ถูกปรับแต่งจนมีรูปแบบเฉพาะตัว มีโหมดการใช้งานให้เลือกเปิดใช้งานร่วมกับแอพฯ เสียงต่างๆ สัดส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนมากถึง 115dB และที่สำคัญระบบเสียง Hi-Fi จะใช้งานได้เฉพาะตอนเสียบหูฟังเท่านั้น และการเปิดโหมดดังกล่าวกินพลังงานมากพอควร

การตั้งสแกนลายนิ้วมือจำเป็นต้องลงทะเบียนลายนิ้วมือ และตั้งรหัสผ่านในแบบอื่นๆ ก่อน สามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ ปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างฉับไวจริงๆ ค่ะ

ในส่วนนี้เป็นการตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง เราสามารถสำรองและคืนค่าข้อมูลได้จากเมนูดังกล่าว

การสำรองและคืนค่าข้อมูลมีทั้งแบบรีเซ็ตตัวเครื่อง และแบบลบข้อมูลทั้งหมดที่เราใช้งาน และดาวน์โหลดเพิ่มเติมออกจากตัวเครื่อง ส่วนทางด้านการตั้งค่าแบตเตอรี่มีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงให้เปิดใช้งานด้วย

ตัวจัดการไฟล์ในตัวเครื่อง สามารถตั้งรหัสผ่านความเป็นส่วนตัวแก่แอพฯ ที่ต้องการได้

นอกจากนี้ภายในตัวเครื่องมีการระบุข้อมูลติดต่อบริการหลังการขายตามประเทศ จังหวัด และเขต พร้อมที่อยู่ email เบอร์โทรติดต่อ และที่อยู่อย่างชัดเจน

การโทรสนทนา และส่งข้อความปุ่มกดตัวใหญ่กำลังดีใช้งานสะดวก มีอีโมจิน่ารักๆ ให้เลือกใช้งานเพียบ

สำหรับการโทรหากต้องการรับสายเลื่อนวงกลมตรงกลางหาโทรศัพท์สีเขียว แต่หากไม่สะดวกรับสายให้เลื่อนไปที่โทรศัพท์สีแดง นอกจากนี้ระหว่างสนทนาเราสามารถบันทึกเสียง, พักสายสนทนา, ปิดเสียง, เข้าถึงรายชื่อสมุดโทรศัพท์, เปิดลำโพง หรือเพิ่มสายเข้าร่วมวงสนทนาได้ค่ะ

ในส่วนของเครื่องมือการใช้งานหลักๆ ประกอบไปด้วย เครื่องคิดเลขตัวอักษรใหญ่มาก

โน้ต และเครื่องบันทึกเสียง

เข็มทิศ และปฏิทินออแกไนเซอร์ขั้นพื้นฐาน

นาฬิกามีเข็มสีแดงเดินเป็นวินาที สามารถตั้งเวลาได้ทั่วโลก จับเวลา และตั้งเวลาในการใช้งานค่ะ

ศูนย์รวมแอพฯ Google มีให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ หรือยูทูป เป็นต้น

สามารถดาวน์โหลดแอพฯ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store มีทั้งแบบเสียเงิน และฟรี ส่วนทางด้านเว็บเบราว์เซอร์ต่างๆ ก็มีมาให้ใช้กันอย่างครบครัน

หรือจะเข้าถึง Google ได้อย่างรวดเร็วทันใจด้วยการกดปุ่มโฮมค้างไว้เพียงครู่เดียวเท่านั้นค่ะ

ธีมภาพพื้นหลังต่างๆ มีลายน่ารักๆ ให้เลือกเปลี่ยนกันได้ตามใจชอบที่ iTheme

ภายในตัวเครื่องสามารถปรับค่าการใช้งานต่างๆ ได้เอง อาทิ แบบตัวอักษร รูปแบบในตัวเครื่อง หรือวอลเปเปอร์ เป็นต้น ส่วนทางด้าน vivo Cloud ผู้ใช้งานสามารถสำรองข้อมูล ผู้ติดต่อ ข้อความ และบุ๊คมาร์ก โดยข้อมูลต่างๆ จะถูกเก็บรักษาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง เมื่อทำการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ในครั้งต่อไป แค่ทำการล็อกอินข้อมูลก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกประการ

EasyShare เป็นการถ่ายโอนไฟล์ หรือทำสำเนาไปยังสมาร์ทโฟนอีกเครื่อง

iManager เป็นการจัดการพื้นที่ต่างๆ ภายในเครื่องให้ลื่นไหลขึ้น ด้วยการล้างข้อมูลขยะต่างๆ ในตัวเครื่อง หรือตั้งค่าการรับส่งข้อมูล รายละเอียดของข้อมูล รวมไปถึงการตั้งค่าเกี่ยวกับการใช้บริการเครือข่ายด้วย

สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ เพื่อปลุกหน้าจอ และเข้าใช้งานมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น SmartWake การวาดตัวอักษรที่กำหนดผ่านหน้าจอที่กำลังสลีป, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, เปิด/ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ และการเตือนอัจฉริยะ เป็นต้น

Smart Split 2.0 ฟังก์ชั่นใช้งานหลายหน้าจอ ซึ่งมีจำนวน 4 แอพฯ เท่านั้นที่รองรับฟังก์ชั่นดังกล่าว ได้แก่ ข้อความ, Facebook, LINE และ WhatsApp จะทำงานในลักษณะแจ้งเตือนด้วยไอคอนที่เป็นป็อปอัพ เมื่อมีการแจ้งเตือนจากแอพฯ ที่เปิดใช้งานอยู่จึงจะมีป็อปอัพเด้งขึ้น

ในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าบันทึกหน้าจอ และการเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตาที่จะปรับให้โดยอัตโนมัติ

เมื่อกดปุ่มมัลติทาสก์จะปรากฏหน้าแอพฯ ที่ใช้งานไปทั้งหมด สามารถลบเพื่อเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ได้ง่ายๆ ด้วยการกดไปที่รูปกากบาท หรือสไลด์แอพฯ ขึ้น

เมื่อสไลด์หน้าจอด้านล่างขึ้นจะพบกับ Quick settings ที่มีให้ตั้งค่า และเลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ Wi-Fi, ฟีเจอร์ถนอมสายตา, ไฟฉาย, Bluetooth, GPS, โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง หรือกล้องถ่ายภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้ในหน้า Quick settings เมื่อกดไปที่วงกลมที่มีจุด 3 จุดด้านใน เราสามารถกำหนดได้เองว่าจะใช้งานอะไรบ้างในหน้าดังกล่าว

เมื่อทำการสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบแถบแจ้งเตือนต่างๆ และในส่วนของการปิด-เปิดเครื่อง หรือการรีสตาร์ทเครื่องทำได้ด้วยการกดปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค้างไว้ค่ะ

สำหรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงจะรองรับแค่นาฬิกาปลุก, รายชื่อเบอร์โทร, โทรศัพท์สนทนา และข้อความเท่านั้นค่ะ

สำหรับการเปลี่ยนย้ายตำแหน่งของแอพฯ หน้าจอโฮมสกรีน ทำได้ด้วยการกดค้างไปยังแอพฯ ที่ต้องการ แล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้เลย

เราสามารถบันทึกหน้าจอในรูปแบบไฟล์วิดีโอ, แคปหน้าจอแนวยาว, เลือกจับภาพในแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือภาพหน้าจอเป็นรูปทรงต่างๆ ได้

ส่วนของกล้องหลังมีเมนูให้เลือกใช้งานหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาถ่ายภาพ, รูปทรงของภาพถ่าย, การถ่ายโดยใช้นิ้วแตะหน้าจอ หรือถ่ายด้วยการสั่งงานผ่านท่าทาง, การเปิด-ปิดเสียงชัตเตอร์ และการแชร์ location ของสถานที่ถ่ายภาพ, เปิดตั้งค่า HDR หรือเปิด-ปิดแฟลชระหว่างถ่ายภาพ เป็นต้น

โหมดการถ่ายภาพต่างๆ

รองรับการถ่ายภาพพาโนราม่าในแนวกว้าง

กล้องหลังก็มีโหมดใบหน้าสวยปรับค่าความขาวผิวเนียนอมชมพูเช่นเดียวกับกล้องหน้า แต่จะไม่มีโหมดการภาพโบเก้เหมือนกับกล้องหน้าค่ะ

มีโหมดฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย

ถัดไปเรามาดูกันที่ฟังก์ชั่นกล้องหน้ากันบ้าง สำหรับส่วนนี้แน่นอนว่าต้องใช้งานที่โหมดใบหน้าสวยที่มีการตั้งค่าผิวนวล ผิวอมชมพู และผิวขาวให้เลือกปรับได้ตามใจชอบ

ตั้งค่าการถ่ายภาพทั่วๆ ไป มีให้เลือกใช้งานเลนส์กล้องคู่แบบมาตรฐาน และกล้องคู่แบบ HD, ถ่ายภาพแบบสะท้อน หรือเพิ่มลายน้ำบนภาพถ่าย เป็นต้น กล้องหน้าสามารถถ่ายภาพพาโนรามา ใบหน้าสวย ถ่ายภาพแบบธรรมดา และถ่ายวิดีโอได้ค่ะ

การเปิดใช้งาน Enhanced Beautification เพิ่มความงามของภาพถ่าย

ไฮไลต์ของเจ้าตัว vivo V5 Plus อยู่ที่กล้องหน้าสามารถถ่ายภาพโบเก้หน้าชัดหลังเบลอได้ แถมยังมีโหมด Shot Refocus ปรับโฟกัสภาพถ่ายในอัลบั้มได้เองในภายหลัง แต่การใช้งานโหมดนี้ขณะถ่ายต้องเปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพโบเก้ด้วยนะคะ ทั้งนี้ยังสามารถปรับตั้งค่าผิวนวล ผิวอมชมพู ผิวขาว เปิดใช้งาน HDR เพิ่มเติมแสงขณะถ่ายภาพ รวมไปถึงค่ารูรับแสงได้เองอีกด้วย

กล้องหลังของ vivo V5 Plus สามารถซูมภาพได้ไกล 4 เท่า และภาพถ่ายที่ได้ยังคงมีความคมชัดดีค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก vivo V5 Plus

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก vivo V5 Plus

กล้องหน้าเลนส์คู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX376 ขนาด 1/2.78” ค่ารูรับแสง f/2.0 ชุดเลนส์ 5 ชิ้น และเลนส์ตัวที่สองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพออกมาได้สวยเนียนมาก (ก. ไก่ล้านตัว) เก็บรายละเอียดเส้นผมได้ดี จากภาพเลือกปรับค่าผิวนวล ค่าอมชมพู และปรับผิวขาวกึ่งกลางเท่านั้น

โหมด Shot Refocus ปรับโฟกัสภาพถ่ายในอัลบั้มได้เองในภายหลัง สามารถปรับหน้าชัดหลังเบลอ หรือหน้าเบลอหลังชัดก็ได้ โดยตั้งค่ารูรับแสงมีให้เลือกปรับตั้งแต่ F0.95 – F16

จุดเด่น

– กล้องหน้าเลนส์คู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (20MP + 8MP) รุ่นแรกของโลก
– กล้องหน้าใช้เลนส์ Sony IMX376 ขนาด 1/2.78” ค่ารูรับแสง f/2.0 ชุดเลนส์ 5 ชิ้น พร้อมแฟลช Selfie Softlight ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย
– เซลฟี่กล้องหน้าสวยเนียนคมชัดมาก เก็บรายละเอียดได้คมชัด
– กล้องหน้าสามารถถ่ายภาพโบเก้หน้าชัดหลังเบลอได้
– มีโหมด Shot Refocus ปรับโฟกัสภาพถ่ายในอัลบั้มได้เองในภายหลัง
– กล้องหน้า-หลังสามารถปรับโฟกัสแสง เลือกปรับผิวนวล ค่าอมชมพู และปรับผิวขาวได้เอง ฟังก์ชันการใช้งานเพียบ ถูกใจคนชอบถ่ายภาพ ชอบเซลฟี่แน่นอนค่ะ
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อม LED flash และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ PDAF รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K Ultra HD
– ดีไซน์การออกแบบสวยทันสมัย ตัวเครื่องบาง 7.26 น้ำหนักเบา
– บอดี้โลหะแบบ Unibody วัสดุแข็งแรงทนทาน ขอบเครื่องโค้งมนกระชับมือ
– หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว แบบ Full HD ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ครบเครื่อง ระบบทัชสกรีนลื่นไหล
– ชิปเสียงคุณภาพ Hi-Fi AK4376 เสียงละเอียดชัดเจนดังกังวาน
– ปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
– ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด Funtouch OS 3.0 บนพื้นฐาน Android 6.0 Marhsmallow
– หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB ความจุ 64GB รองรับ microSD card สูงสุด 256GB
– แบตเตอรี่ใช้งานได้นานความจุ 3160mAh รองรับ Fast Charging เทคโนโลยี Dual Chip Charging ชาร์จไวจริง
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– มีหูฟัง เคสซิลิโคนใส และฟิล์มกันรอยแถมให้
– มีฟังก์ชัน Smart Split 2.0 ใช้งาน 2 หน้าจอ
– สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE
– รองรับ USB OTG เชื่อมต่อข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง
– ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน กล้องสวย ดีไซน์โดดเด่น เหมาะสำหรับคนชอบเซลฟี่
– ราคาเอื้อมถึงได้ ไม่แพงมาก

ข้อสังเกต

– การแคปหน้าจอต้องใช้ 2 มือในการกดปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่อง + ปุ่มโฮม
– ตัวเครื่องเป็นแบบ Unibody ไม่สามารถถอดฝาหลัง หรือแบตเตอรี่ออกได้เอง
– ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่
– การถ่ายโบเก้ถ้าปรับไม่ดีภาพจะดูลอยๆ

สรุป

โดยรวมแล้วต้องบอกเลยว่า vivo V5 Plus แจ่มกว่าเจ้า V5 อยู่หลายขั้น ด้วยกล้องหน้าเลนส์คู่คุณภาพความละเอียด 20 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอสุดเก๋ แถมยังมีโหมด Shot Refocus เลือกปรับหน้าชัดหลังเบลอภาพในอัลบั้มได้อย่างลงตัว ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเน้นถ่ายภาพ เน้นเซลฟี่ห้ามพลาดรุ่นนี้เด็ดขาดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

ด้านแบตเตอรี่ใช้งานได้นานพร้อมรองรับ Dual Chip Charging เทคโนโลยีชาร์จไว หน้าจอ Full HD ขนาดใหญ่เต็มตา ดูหนังเล่นเกมกันแบบจุใจ เพิ่มอรรถรสอีกขั้นด้วยชิปเสียง Hi-Fi มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วตามคำโฆษณา ด้านการประมวลผลลื่นไหลดีมาก ค่าตัวหมื่นกลางๆ น่าลงถ้าเทียบกับสเปคการใช้งานที่ใส่มาให้ ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ควรค่ากับการจับจองค่ะ

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

– Acer Predator 8
– Asus Zenfone 3
– Alcatel Idol 4s
– iPhone SE
– Huawei P9
– Huawei MediaPad M3
– Huawei GR5 2017
– Lenovo P2
– OPPO F1s
– Samsung Galaxy A9 Pro (2016)
– Samsung Galaxy J7 Prime
– Sony Xperia XA Ultra
– vivo V5
– vivo V3Max
– ZTE Axon 7 mini

ขอขอบคุณ บริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด