เปิดตัวแล้ว!!! iPhone 6s มาพร้อมเทคโนโลยี Force Touch และฟีเจอร์ใหม่ ระบบสัมผัส 3D Touch พร้อมเปรียบเทียบราคาและสเปค

เปิดตัวแล้ว!!! iPhone 6s มาพร้อมเทคโนโลยี Force Touch และฟีเจอร์ใหม่ ระบบสัมผัส 3D Touch พร้อมเปรียบเทียบราคาและสเปค

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เป็นไปตามที่คาดการกันไว้ สำหรับการเปิดตัว iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา ณ อาคาร บิล เกรแฮม ซิวิค ออดิโทเรียม ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยภายในงานนอกจากจะเปิดตัว iPhone 6S แล้ว ยังได้เปิดตัว iPhone 6S Plus รุ่นหน้าจอใหญ่อีกรุ่นหนึ่ง และเปิดตัว iPad Pro ไอแพดรุ่นใหม่ ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่อีกด้วยค่ะ

ในส่วนของรูปร่างตัวเครื่อง iPhone 6s ยังคงไม่แตกต่างจาก iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เท่าไร ยกเว้นสีใหม่แกะกล่องอย่าง สีชมพู Rose Gold ที่น่าจะถูกใจบรรดาสาวๆ โดยเฉพาะอีกด้วย ทำให้ตอนนี้ iPhone 6s มีให้เลือก 4 สี คือ 1.สีขาว 2.สีดำ 3.สีทอง 4.สีชมพู Rose Gold

นอกจากทางด้านสีสันที่เพิ่มมาใหม่นั้น หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัวเทคโนโลยี Force Touch บน Apple Watch กันไปแล้ว ล่าสุด เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ ก็ได้ถูกใช้บน iPhone 6S ด้วยเช่นกัน พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง 3D Touch ที่ช่วยทำให้การใช้งานสนุกมากขึ้นกว่าเดิม

3D Touch มาพร้อมกับ 2 ฟีเจอร์ใหม่ ที่มีชื่อว่า Peek และ Pop ที่ทำให้เพื่อนๆ ผู้ใช้สามารถดูคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องเปิดขึ้นมาจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น แอพฯ อีเมล การกดเบาๆ (Peek) เป็นการดูตัวอย่างเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าหากออกแรงกดเพิ่ม (Pop) จะเป็นการเปิดอีเมลนั้นๆ ซึ่งสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ กับแอพฯ อื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น Safari, Photo รวมไปถึง Apple Maps อีกด้วยค่ะ

เราไปดูข้อมูลในส่วนของสเปค และ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้าใน iPhone 6s เบื้องต้นกันเลยค่ะ

ข้อมูล สเปคในเบื้องต้นของ iPhone 6s

– ขนาดตัวเครื่อง 138.3×67.1×7.1 มิลลิเมตร
– น้ำหนักตัวเครื่อง 143 กรัม
– หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326ppi)
– ใช้วัสดุเป็น อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น
– กระจกหน้าจอ ที่มาพร้อมกับขั้นตอนการผลิตแบบ ion‑exchange ให้ความแข็งแรงมากขึ้น
– ชิปประมวลผล Apple A9 (64-bit) พร้อมชิป M9 motion coprocessor
– รองรับระบบสัมผัสแบบใหม่ 3D Touch
– มาพร้อมกับ Taptic Engine ตอบสนองการสัมผัส
– กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อม True Tone flash
– กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม Ratina Flash
– รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดระดับ 4K
– รองรับการถ่ายภาพในโหมด Live Photos
– Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
– 2nd Generation Touch ID ที่สามารถสแกน ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น

การเปลี่ยนแปลงทางด้านดีไซน์​ของ iPhone 6s

สำหรับในด้านของดีไซน์ นั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่นัก แต่ตัวเครื่องจะมีความหนา มากขึ้นกว่า iPhone 6 เล็กน้อย และมีน้ำหนักมากขึ้นจากเดิมพอสมควร โดยตัวเครื่องมีความหนาอยู่ที่ 7.1 มิลลิเมตร ในขณะที่ iPhone 6 มีความหนาเพียง 6.9 มิลลิเมตร เท่านั้น ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 143 กรัม ในขณะที่รุ่นก่อนหน้า มีน้ำหนักอยู่ที่เพียง 129 กรัมเท่านั้น นอกจากนี้ ด้านหลังของตัวเครื่อง ของ iPhone 6s นั้น จะมีการสกรีนตัวอักษร S อยู่ด้านหลังอีกด้วยค่ะ

iPhone 6s มาพร้อมกับ สีใหม่ Rose Gold

จากเดิมที่มีให้เลือกเพียง 3 สี เท่านั้น ล่าสุดทาง Apple ก็ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่อย่างสีชมพู Rose Gold เข้ามาให้ได้เลือกซื้อกัน สวยงามถูกใจสาวๆ แน่นอนค่ะ

iPhone 6s มาพร้อมกับวัสดุ อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 และกระจก ion-exchange

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงของ iPhone 6s นั่นก็คือในเรื่องของวัสดุที่นำมาใช้ โดยตัวเครื่อง iPhone 6s นั้นผลิตด้วย อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่มีความแข็งแรงมากกว่าเดิมพอสมควร นอกจากนี้ กระจกหน้าจอยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตแบบ ion-exchange ซึ่งส่งผลให้ตัวกระจกเองมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมพอสมควรเลยทีเดียว

iPhone 6s มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A9 และ M9 motion coprocessor

สำหรับชิปประมวลผล Apple A9 นั้นเป็นชิปประมวลผลแบบ 64 บิต รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple โดยมีความเร็วของหน่วยประมวลผลมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 70% และ หน่วยประมวลผลกราฟฟิคมีความเร็วมากขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 90% เลยทีเดียว

ส่วน ชิป M9 นั้นก็สามารถประมวลผลการเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ชิป M9 ยังมีส่วนช่วยให้ Siri สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ

iPhone 6s มาพร้อมกับเทคโนโลยี 3D Touch

เรียกได้ว่าเป็นวิธีการควบคุมการใช้งานแบบใหม่ นอกเหนือจากการ แตะ ปัด หรือแม้แต่การ หนีบหรือกางนิ้วที่คุ้นเคย แต่สำหรับ 3D Touch นั้นจะเป็นเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับรับรู้น้ำหนัก ที่กดลงบนหน้าจอ เพื่อการควบคุมที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ ระบบการควบคุมใหม่ ที่เรียกว่า Peek & Pop ที่สามารถตอบสนองการใช้งานตามน้ำหนักที่กดลงบนหน้าจอได้อีกด้วย

iPhone 6s มาพร้อมกับ Taptic Engine

สำหรับ Taptic Engine นั้นเป็นการตอบสนอง การกดลงบนหน้าจอโดยการสั่นเบาๆ ตามน้ำหนักที่กดลงไปบนหน้าจอ ซึ่งจะช่วยให้ทราบว่า กำลังกดด้วยน้ำหนักเท่าไหร่ ซึ่งแต่เดิมนั้น Taptic Engine ได้ถูกนำมาใช้งานบน Apple Watch เพื่อตอบสนองการสัมผัสแบบ Force Touch นั่นเอง

iPhone 6s มาพร้อมกับกล้อง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

สำหรับ iPhone นั้นเรียกได้ว่า จำนวนความละเอียดของกล้องหลัง ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมานานพอสมควร และในที่สุด iPhone 6s นั้นก็มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านพิกเซลเรียบร้อยแล้ว โดยกล้องดิจิตอลด้านหลังของ iPhone 6s นั้นสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดสูงสุดถึงในระดับ 4K เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายภาพในโหมด Live Photos ที่ช่วยให้รูปภาพนั้นดูมีชีวิตขึ้นมาได้ โดยเมื่อเปิดการใช้งาน Live Photos ตัวเครื่องจะทำการบันทึกเหตุการณ์ก่อนหน้า เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้ออกมาเป็น Animation ที่สวยงามเหมือนกับรูปภาพนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งเลยทีเดียว

iPhone 6s กับ กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และ Retina Flash

สำหรับกล้องหน้าของ iPhone 6s นั้นก็มีความละเอียดเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าพอสมควร โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล ในขณะที่รุ่นก่อนหน้ามีความละเอียดอยู่ที่เพียง 1.2 ล้านพิกเซลเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Retina Flash ที่พร้อมจะเปลี่ยนหน้าจอ Retina ให้เป็นไฟแฟลช ในโทนที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เมื่อต้องการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าในสภาวะแสงน้อยอีกด้วย

iPhone 6s กับ 2nd Generation Touch ID

สำหรับ iPhone 6s นั้น จะยังมาพร้อมกับการปรับปรุง ระบบ Touch ID ให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย 2nd Generation Touch ID นั้น จะช่วยให้สามารถตรวจจับลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

iPhone 6s จะมาพร้อมกับ iOS 9

แน่นอนเลยค่ะว่า iPhone 6s นั้นก็จะมาพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง iOS 9 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย

ราคา และวันวางจำหน่าย ของ iPhone 6s

สำหรับราคา iPhone 6s ในต่างประเทศนั้น จะยังคงเป็นราคาเดียวกันกับเมื่อตอน iPhone 6 เปิดตัว ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศราคาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด คาดว่าราคาจะเป็นดังนี้

ราคา iPhone 6S ในไทย (อย่างไม่เป็นทางการ)

– iPhone 6S รุ่น 16 GB ราคา 24,900 บาท
– iPhone 6S รุ่น 64 GB ราคา 28,900 บาท
– iPhone 6S รุ่น 128 GB ราคา 32,900 บาท

ราคา iPhone 6S Plus ในไทย (อย่างไม่เป็นทางการ)

– iPhone 6S Plus รุ่น 16 GB ราคา 28,900 บาท
– iPhone 6S Plus รุ่น 64 GB ราคา 32,900 บาท
– iPhone 6S Plus รุ่น 128 GB ราคา 36,900 บาท

ในส่วนของวันวางจำหน่ายในประเทศไทย คาดกันว่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคมนี้ ขณะที่ฝั่งอเมริกา และกลุ่มประเทศแรก จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กันยายนนี้ค่ะ

อย่างไรก็ดี ข้อมูลราคา และวันวางจำหน่ายในไทยที่แจ้งให้ทราบนี้ ยังไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ เพื่อนๆ ที่สนใจก็อดใจรอกันอีกสักนิดและคอยติดตามข้อมูลกันต่อไป ส่วนจะมีข้อมูลอะไรอัพเดทเพิ่มเติมเราจะมาแจ้งให้ทราบแน่นอนค่ะ

เปรียบเทียบ iPhone 6 vs iPhone 6S

Features	iPhone 6	iPhone 6S
วันเปิดตัว :	– 9 กันยายน 2557	– 9 กันยายน 2558
ราคา :	– 24,900.-   (16GB)	– 24,900.-   (16GB)
	– 28,900.- (64GB)	– 28,900.- (64GB)
	– 32,900.- (128GB)	– 32,900.- (128GB)
ระบบปฏิบัติการ	– iOS 8	– iOS 9
หน้าจอ :	– จอภาพ Retina HD	– จอภาพไวด์สกรีน แบ็คไลท์แบบ LED
	– Multi-Touch	– Multi-Touch
	– ขนาด 4.7 นิ้ว	– ขนาด 4.7 นิ้ว
	– IPS	– IPS และ Taptic Engine
	– ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล	– ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล
	– คุณสมบัติการดึงจอลงเพื่อแตะ	– คุณสมบัติการดึงจอลงเพื่อแตะ
CPU :	– Apple A8 (64-bit) Dual Core	– Apple A9 (64-bit) –   M9 motion coprocessor
	– M8 motion coprocessor
RAM :	– 1GB	– 2GB
ความจำตัวเครื่อง:	– 16 GB	– 16 GB
	– 64GB	– 64GB
	– 128 GB	– 128 GB
	– 8 ล้านพิกเซล	– 12 ล้านพิกเซล (iSight)
	– รูรับแสงขนาด ƒ/2.2	– รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
	– Flash	– Live Photos
	– Auto Focus	– Flash True Tone
	– Touch Focus	– Auto HDR
กล้องหลัง :	– Geo-Tagging	– Auto Focus พร้อม Focus Pixels
	– Face Detection	– ฟิลเตอร์ Hybrid IR
	– Shake Reduction	– Geo-Tagging
	– Smile Detection	– Face Detection
	– Panorama	– Shake Reduction
		– Panorama
กล้องหน้า :	– 1.2 ล้านพิกเซล	– 5 ล้านพิกเซล
	– รูรับแสงขนาด ƒ/2.2	– Retina Flash
		– รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
Video :	– HD 1080 x 1920 พิกเซล	– 4K 3840 x 2160 พิกเซล
		– HD 1080 x 1920 พิกเซล
ขนาด :	– 138.1 x 67.0 x 6.9 มม.	– 138.3 x 67.1 x 7.1 มม.
น้ำหนัก :	– 129 กรัม	– 143 กรัม
Battery :	– 1,810 mAh	–
รองรับซิม :	– Nano-SIM	– Nano-SIM
ระบบเครือข่าย	– GSM 850/900/1800/1900 MHz	– GSM/EDGE
	– UMTS 850/900/1900/2100 MHz	– UMTS/HSPA+
	– 2G: EDGE/GPRS	– DC-HSDPA
	– 3G: HSDPA 42 , HSUPA 5.76 Mbps	– CDMA EV-DO Rev. A
	– 4G: LTE DL 150 Mbps, LTE UL 50 Mbps	– 4G LTE
	–   WiFi 802.11 a/b/g/n/ac	– 802.11a/b/g/n/ac พร้อม MIMO
	– Bluetooth 4.0	– Bluetooth 4.2
ระบบเชื่อมต่อ	– รองรับ NFC	– รองรับ NFC
	– USB Port	– USB Port
	– ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร	– ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
GPS :	– Assisted GPS	– Assisted GPS
	– GLONASS	– GLONASS
Sensor :	– Touch ID	– 2nd Generation Touch ID
	– Accelerometer	– Barometer
	– Ambient light	– 3D Touch
	– Proximity	–  Peek & Pop
	– Three-axis gyroscope	– Taptic Engine
	– Barometer	– Accelerometer
		– Ambient light
		– Proximity
		– Three-axis gyroscope
	– ทอง	– ชมพูกุหลาบ
สี :	– เทา	– ทอง
	– เงิน	– เทา
		– เงิน

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.thaimobilecenter.com