Huawei P40 Series บุกเบิก Visionary Photograph ยุคแห่งการถ่ายภาพอย่างเหนือระดับด้วยสมาร์ทโฟน

Huawei P40 Series บุกเบิก Visionary Photograph ยุคแห่งการถ่ายภาพอย่างเหนือระดับด้วยสมาร์ทโฟน

มาพร้อมเซ็นเซอร์กล้อง CMOS ใหญ่ที่สุดของหัวเว่ย เพื่อมอบนวัตกรรมการถ่ายภาพคมชัดระดับ Super Definition ในทุกสภาพแสงด้วยกล้องที่ทรงประสิทธิภาพ รองรับการใช้งาน 5G สมรรถนะสูง และดีไซน์ที่ปราดเปรียวล้ำสมัย

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เปิดตัว Huawei P40 Series สมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ล่าสุดทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Huawei P40 Pro+, Huawei P40 Pro และ Huawei P40 ซึ่งทั้งหมดนี้มาพร้อมกับดีไซน์ล้ำสมัยและนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพที่เหนือระดับ เพิ่มความเป็นไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดให้กับการถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ทโฟน

Huawei P40 Series ยังคงความยอดเยี่ยมด้านการถ่ายภาพอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ด้วยเซนเซอร์กล้องขนาดใหญ่ 1/1.28 นิ้วที่มีเทคโนโลยี pixel binning (การรวมพิกเซล) รูปแบบใหม่ ให้ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ถึง 2.44μm จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงเมื่อถ่ายภาพในที่มืดได้อย่างน่ามหัศจรรย์

และด้วยดีไซน์กล้อง Periscope ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้น ทำให้สามารถซูมแบบออพติคัลได้สูงสุดถึง 10 เท่า สมาร์ทโฟนเรือธงตัวนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 990 5G ซึ่งรองรับเครือข่ายสมรรถนะสูงทั้ง 5G และ Wi-Fi 6 Plus ในขณะที่ตัวเครื่องมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามและกะทัดรัด พร้อมหน้าจอแบบ Huawei Quad-curve Overflow Display ซึ่งให้ความรู้สึกลื่นไหล ไร้รอยต่อ ทั้งยังตอบสนองต่อการใช้งานอย่างไร้ที่ติ

ริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ระบุว่า “สมาร์ทโฟน Huawei P Series มุ่งที่จะมอบงานดีไซน์ที่ก้าวล้ำและฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมียมสำหรับการถ่ายภาพให้ทุกคนได้สัมผัส ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สะท้อนถึงศักยภาพของเราในการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและเหมาะสมสำหรับทุกคน

ด้วยเซ็นเซอร์กล้องอันเยี่ยมยอด เลนส์จาก Leica ชิปเซ็ตทรงประสิทธิภาพ และระบบ Huawei XD Fusion Engine ทำให้ Huawei P40 Series สะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับ Super Definition ในทุกสภาพแสงเพื่อให้ผู้ใช้ได้แสดงออกถึงมุมมองของตนเองในแบบที่สร้างสรรค์ยิ่งกว่าที่เคย” 

พลิกโฉมดีไซน์

Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+ มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Huawei Quad-curve Overflow Display ได้รับแรงบันดาลได้จากศิลปะการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ ขอบจอทั้ง 4 ด้านเป็นดีไซน์โค้งมน เสมือนผิวน้ำที่ไหลเอ่อท้นจากริมขอบแก้ว ขอบนอกซึ่งบางเป็นพิเศษและทำมุมโค้งมน สร้างดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกเสมือนไร้ขอบ ซึ่งจะทำให้การรับชมภาพผ่านจอได้ความรู้สึกสมจริง

ทั้งยังถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการจับหรือถือตัวเครื่องตามหลักการยศาสตร์ จึงถนัดมือ ไม่ลื่นหลุด ขณะเดียวกันก็ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ได้รับการพัฒนาด้านการยืนยันตัวตนโดยอาศัยข้อมูลทางชีวมิติ (biometric) ให้เร็วขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์

ในแง่ของดีไซน์ภายนอก Huawei P40 Pro และ Huawei P40 มีทั้งผิวกระจกชนิดเงาและชนิดด้าน โดยผิวกระจกชนิดเงามีด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Ice White, Deep Sea Blue และ Black ส่วนผิวกระจกชนิดด้านมีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Blush Gold และ Silver Frost ให้ความรู้สึกงามสง่าแบบคลาสสิกทุกองศา

ขณะที่ด้านหลังตัวเครื่องของ Huawei P40 Pro+ จะเป็นแผ่นเซรามิกนาโนเทคโนโลยีที่ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยงดงาม ทั้งยังผ่านกระบวนการเผาและเคลือบอย่างดีเพื่อให้แน่ใจว่าจะคงทนถาวร พร้อมดีไซน์ที่ไร้กาลเวลาและทนทานอย่างน่าเหลือเชื่อ ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์นี้จะมีด้วยกัน 2 สีที่รับรองว่าจะไม่ซ้ำใคร ได้แก่ White Ceramic และ Black Ceramic

นวัตกรรมการถ่ายภาพระดับ Super Definition สำหรับทุกสภาพแสง

Huawei P40 Series ใช้ระบบกล้องถ่ายรูป Ultra Vision Leica สุดล้ำสมัย โดยมีให้เลือกทั้งในแบบ 3 กล้อง, 4 กล้อง และ 5 กล้อง เริ่มจาก Huawei P40 ที่มอบภาพถ่ายคุณภาพเยี่ยมด้วยเลนส์มุมกว้างพิเศษ (ultra wide-angle), เลนส์มุมกว้าง (wide-angle) และเลนส์ซูม (telephoto)

ส่วน Huawei P40 Pro ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยระบบกล้อง Leica 4 เลนส์ ที่มีเลนส์มุมกว้างพิเศษแบบ Ultra Wide Cine Camera ที่เหนือชั้นยิ่งกว่า พร้อมด้วยกล้อง Time-of-Flight (ToF) และระบบ SuperSensing Zoom ที่ซูมได้มากที่สุดถึง 50 เท่า

ขณะที่รุ่นท็อปอย่าง Huawei P40 Pro+ ขนชุดเลนส์ซูมแบบ SuperZoom Array มามอบประสบการณ์การซูมที่เหนือกว่าทุกกล้องสมาร์ทโฟน รองรับการซูมแบบออพติคัลถึง 10 เท่า และซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุดถึง 100 เท่า

เซ็นเซอร์ Huawei Ultra Vision Sensor ซึ่งจะมีอยู่ในสมาร์ทโฟนทุกตัวในรุ่น P40 Series นั้นเป็นสุดยอดวิศวกรรมที่จะปฏิวัติเทคโนโลยีเซ็นเซอร์กล้องในระดับพิกเซล เซ็นเซอร์ดังกล่าวมีขนาด 1/1.28 นิ้วตามแนวทแยงมุม รองรับเทคโนโลยี Pixel binning ที่มีขนาดพิกเซลอยู่ที่ 2.44μm  รวมทั้งรองรับ Full Pixel Octa PD AutoFocus เพื่อการโฟกัสภาพความเร็วสูงในทุกสภาพแสง ทั้งยังมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine ที่จะประมวลผลจากข้อมูลภาพที่ได้จากกล้องทุกตัว เพื่อนำมาผสมผสานให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงสุด

Huawei P40 Pro โดดเด่นด้วยเลนส์ซูมที่จับภาพระยะใกล้ได้ราวกับอยู่ใกล้ ด้วยการซูมภาพแบบออพติคัลที่ 5 เท่า ผสานการซูมแบบไฮบริดที่ 10 เท่า และการซูมแบบดิจิทัลที่สูงสุดถึง 50 เท่า นอกจากนี้ ยังนับเป็นครั้งแรกที่เลนส์ซูมออพติคัลของ Huawei P40 Pro มาพร้อมกับฟิลเตอร์สีแบบ RYYB ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงและช่วยให้ภาพที่ถ่ายขณะซูมมีคุณภาพที่ดีขึ้น

ส่วนไฮไลท์ของ Huawei P40 Pro+ คือฟีเจอร์ SuperZoom 100 เท่าที่มาพร้อมกับดีไซน์เลนส์แบบ Periscope ที่สะท้อนแสงถึง 5 ครั้ง ขยายระยะการเดินทางของแสงในเลนส์ได้สูงสุดถึง 178 เปอร์เซ็นต์ จึงช่วยให้ซูมแบบออพติคัลแท้ได้ถึง 10 เท่า ส่วนกล้องหลัก Ultra Vision Wide Camera ใช้ระบบกันสั่นในตัวเลนส์ มาพร้อมฟีเจอร์ SuperZoom ซึ่งทำงานร่วมกับ AI ผสานทั้งระบบกันสั่นแบบออพติคัล OIS (Optical Image Stabilization) และระบบกันสั่นแบบ AI หรือ AIS (AI Image Stabilization) เข้าไว้ด้วยกัน มอบความเสถียรให้กับการถ่ายภาพและวิดีโอที่ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น

สกินโทน (skin tone) และผิวสัมผัส (texture) ของวัตถุที่ถูกถ่าย จะได้รับการปรับแต่งด้วย Multi-spectrum Colour Temperature Sensor เซ็นเซอร์อุณหภูมิสี และอัลกอริทึม AI AWB ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำของสีวัตถุได้ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ อัลกอริทึมระดับสูงที่มีระบบเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) นี้ ทำให้ AI สามารถเข้าไปปรับแต่งแสงและรายละเอียดของภาพถ่ายบุคคลได้แบบเรียลไทม์

Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+ มาพร้อมกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และกล้อง IR Depth Camera ที่รองรับการโฟกัสอัตโนมัติและการถ่ายภาพโบเก้ (bokeh) ซึ่งจะทำให้ได้ภาพถ่ายใบหน้าที่ยอดเยี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ยอีกด้วย และยังมีฟีเจอร์ IR Face Unlock ที่จะช่วยให้สามารถปลดล็อกหน้าจอได้แม้อยู่ในสภาวะที่มีแสงน้อย

นอกจากนี้ Huawei P40 Series ยังได้แนะนำฟีเจอร์ใหม่ Huawei Golden Snap ซึ่งประกอบด้วย AI Best Moment ที่จะใช้ AI ในการเลือกภาพช็อตที่ดีที่สุดออกมาจากภาพเคลื่อนไหวที่กล้องเก็บไว้ AI Remove Passerby และ AI Remove Reflection ที่สามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการและตัดแสงสะท้อนที่รบกวนออกไปจากภาพได้ ให้ผู้ใช้ได้ภาพที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องปรับแต่งเอง

กล้องถ่ายวิดีโอสุดทรงพลัง ขนาดกะทัดรัด

กล้องวิดีโอ Ultra Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ของ Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+มีระยะห่างระหว่างเลนส์และเซ็นเซอร์ (focal length) เทียบเท่ากับ 18 มม. ในเลนส์ทั่วไป มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.54 นิ้ว ที่รองรับอัตราส่วนภาพแบบ 3:2 โดยมีเทคโนโลยี SedecimPixel Fusion ติดตั้งมาพร้อมกับกล้องเพื่อรองรับ Pixel Binning แบบ 16 ต่อ 1 สามารถสร้างซูเปอร์พิกเซลขนาดใหญ่ถึง 4.48μm ได้ จึงช่วยเพิ่มความไวแสงได้มากถึง ISO 512000 และยังสามารถถ่ายวิดีโอที่ 7680 เฟรมต่อวินาที (fps) ในโหมด Ultra Slow-Motion

Huawei P40 Series สามารถถ่ายวิดีโอแบบโบเก้ (Bokeh) ได้แบบเรียลไทม์ โดยทำงานด้วยหลักการเดียวกับเลนส์ที่มีช่องรับแสงกว้าง จึงสามารถเพิ่มมิติและโฟกัสให้กับวัตถุหลักที่ถูกถ่ายได้ด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ ในขณะที่เลนส์ซูม ก็สามารถเก็บวิดีโอความละเอียดสูงขณะซูมได้คมชัด ทั้งยังรองรับการถ่ายวิดีโอ Time-lapse ที่ความละเอียดระดับ 4K ส่วนฟีเจอร์ Directional Audio Zoom ใน Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+ ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บเสียงจากระยะไกลได้อย่างชัดเจน

อุปกรณ์ที่รวมการเชื่อมต่อ 5G ไว้อย่างครบครัน

Huawei P40 Series ทั้งสามรุ่นใช้ชิปเซ็ต Kirin 990 5G ที่จะสามารถมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G แบบไร้ที่ติ ด้วยความสามารถในการรองรับคลื่นสัญญาณ 5G ได้ครบถ้วนทุกย่าน รวมถึงประสิทธิภาพ AI และฟังก์ชันควบคุมการใช้พลังงานอันชาญฉลาด และด้วยหน้าจอ 90Hz ที่คมชัดและตอบสนองไว รวมถึงรองรับการแสดงผลกราฟฟิคขั้นสูง มอบประสบการณ์การเล่นเกมส์ที่เหนือระดับให้แก่ผู้ใช้ Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+

นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 Plus ที่คลื่นความที่ 160MHz จึงรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ความเร็วสูง ดาวน์โหลดและโอนถ่ายข้อมูลออนไลน์ได้สูงสุดที่ 2,400Mbps สำหรับ Huawei P40 Pro+ เหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความสามารถในการรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายที่รวดเร็วสูงสุดด้วยกำลังไฟ 40W กับฟีเจอร์ Huawei Wireless SuperCharge ทั้งยังมาพร้อมชิปเซ็ตอัจฉริยะที่มาพร้อมกับระบบทำความเย็น SuperCool แบบ 4-in-1 จึงมอบสมรรถนะได้แรงเต็มพิกัดแบบไม่ต้องกลัวเครื่องร้อน

ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดมอบฟีเจอร์ต่างๆ มากมายเพื่อช่วยพัฒนาชีวิตยุค AI แบบไร้รอยต่อ หนึ่งในนั้นคือ Huawei MeeTime ที่รองรับวิดีโอคอลระดับ Full HD 1080p มอบภาพวิดีโอที่คมชัด แม้โทรจากสถานที่ทีมีแสงน้อยหรือบริเวณจุดอับสัญญาณ โดยผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอสมาร์ทโฟนให้กับบุคคลอื่นระหว่างโทรวิดีโอคอล รวมถึงสามารจดโน้ตบนหน้าจอได้ในเวลาเดียวกัน

ฟีเจอร์ Huawei Share ทลายกำแพงอันเป็นอุปสรรคในการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ ด้วยความสามารถในการแชร์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ด้วย Huawei Share ผู้ใช้จะสามารถสตรีมดนตรีไปยังลำโพงไร้สาย เชื่อมต่อไฟล์พรีเซนเทชั่นขึ้นหน้าจอ รวมถึงเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ได้เพียงแค่สัมผัสตัวเครื่องสมาร์ทโฟนกับอุปกรณ์นั้นๆ ฟังก์ชันการทำงานพร้อมกันบนหลายหน้าจอนี้ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถตอบรับโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลผ่านคอมพิวเตอร์ได้ เปิดไฟล์หรือลิงค์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟน โดยใช้แอปพลิเคชันและโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

หัวเว่ยทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักพัฒนาทั่วโลก เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาแอปพลิเคชันในระดับประเทศ และนานาชาติ บน Huawei AppGallery ซึ่งเป็นแอปสโตร์อย่างเป็นทางการของหัวเว่ย ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงระดับคุณภาพที่หลากหลาย ในหมวดต่างๆ ครอบคลุมทั้งบริการ Huawei Video, Huawei Music และ Huawei Reader ที่ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์แถวหน้าจะทยอยเพิ่มเติมอย่างไม่หยุดยั้งให้แก่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย

ราคาและแหล่งจำหน่าย

Huawei P40 Series จะเริ่มวางจำหน่ายในบางประเทศ โดยมีรายละเอียดและราคา ดังนี้

• Huawei P40 Pro+ รุ่น RAM 8GB + ROM 512GB สี White Ceramicm, Black Ceramic ราคา 1,399 ยูโร
• Huawei P40 Pro รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB สี Silver Frost, Ice White, Deep Sea Blue, Blush Gold, Black ราคา 999 ยูโร
• Huawei P40 รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB สี Silver Frost, Ice White, Deep Sea Blue, Blush Gold, Black ราคา 799 ยูโร

นอกจาก Huawei P40 Series หัวเว่ยยังขนขบวนสมาร์ทดีไวซ์มาร่วมเปิดตัวในครั้งนี้อีกหลากหลายชิ้น ประกอบด้วย Huawei Watch GT2e, Huawei Sound X และ แว่นตาอัจฉริยะ S/S 2020 Huawei x Gentle Monster เพิ่มเติมกลุ่มผลิตภัณฑ์สุดล้ำของหัวเว่ยให้ครบครัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ชีวิตดิจิทัลยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่