รีวิว realme X50 5G จอใหญ่ 120Hz ขุมพลัง Snapdragon 765G แรม 8GB กล้องหน้าคู่ แบตอึด 4200mAh ชาร์จไว 30W ในราคาหมื่นต้น ๆ!

รีวิว realme X50 5G จอใหญ่ 120Hz ขุมพลัง Snapdragon 765G แรม 8GB กล้องหน้าคู่ แบตอึด 4200mAh ชาร์จไว 30W ในราคาหมื่นต้น ๆ!

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟน 5G สเปกครบ จอใหญ่ กล้องสวย แบตอึด รองรับชาร์จไว ในงบหมื่นต้น ๆ วันนี้เรามีบทความรีวิว realme X50 5G สมาร์ตโฟนน้องใหม่ล่าสุดสเปกไม่ธรรมดามาฝากให้ได้ชมกัน

realme X50 5G มาพร้อมจอใหญ่ 6.57 นิ้ว อัตรา Refresh Rate สูง 120Hz คมชัดระดับ Full HD+ สัดส่วนต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 90.4% ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 765G ความเร็ว 2.4GHz แรม 8GB คู่ความจุ 128GB

กล้องหลัง AI 4 ตัว สุดคมชัด 48MP พร้อมโหมด Nightscape 3.0 ถ่ายภาพกลางคืนสว่างสวยคมชัด ทำงานลื่นไหลบน Android 10 ครอบทับ realme UI มีสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมฟีเจอร์ Face Unlock ปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

แบตเตอรี่จุใจ 4200mAh รองรับชาร์จเร็ว Dart Charge 30W ผ่านพอร์ต USB Type-C ใช้ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติจากป่าและน้ำแข็ง ฝาหลังวัสดุกระจกโค้งมนแบบ 3 มิติ สะท้อนสีสวยงามเปล่งประกาย ดูหรูหรา

realme X50 5G มีให้เลือก 2 สี คือ Ice Silver และ Jungle Green ราคาจำหน่ายเพียง 12,990 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป

เพื่อน ๆ สามารถเป็นเจ้าของได้ผ่าน realme Brand Shop, Banana, BKK, KingKongPhone, TG FONE, Jaymart, IT City, CSC, Lazada และ Shopee รับฟรี! ของแถมเครื่องทำความชื้น และบัตร VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่า 5,990 บาท

ข้อมูลสเปก realme X50 5G

Features	realme X50 5G
วันเปิดตัว :	– กรกฏาคม 2563
ราคา :	– 12,990.- (ณ วันที่ 31 ก.ค. 63)
OS :	– Android 10 ครอบทับ realme UI 1.0
หน้าจอ :	– หน้าจอ IPS LCD
	– ขนาด 6.57 นิ้ว
	– ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล
	– Refresh Rate 120Hz
	– Corning Gorilla Glass 5
CPU :	– Snapdragon 765G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.4GHz
GPU :	– Adreno 620
RAM :	– 8GB
ROM :	– 128GB
กล้องหลัง :	– 48MP + 8MP + 2MP + 2MP
	– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.3 + f/2.4 + f/2.4
	– LED flash
	– PDAF
	– HDR
	– Panorama
กล้องหน้า :	– 16MP + 2MP
	– ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.4
Video :	– 4K@30fps, 1080p@30/60fps
Battery :	– 4200mAh รองรับ Dart Charge 30W
ขนาด :	– 163.8×75.8×8.9 มม.
น้ำหนัก :	– 202 กรัม
รองรับซิม :	– Dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 4G LTE
	– 5G
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4/5 GHz
	– Bluetooth 5.1
	– USB Type-C
	– NFC
GPS :	– GPS
	– A-GPS
	– Glonass
	– BDS
Sensor :	– Fingerprint
	– Accelerometer
	– Gyro
	– Proximity
	– Compass
สี :	– Ice Silver
	– Jungle Green

แกะกล่อง realme X50 5G

realme X50 5G บรรจุมาในกล่องสีเหลืองขนาดกะทัดรัด ตรงกลางระบุชื่อรุ่น X50 5G เด่นชัด ถัดลงมาด้านล่างเป็นชื่อแบรนด์ realme

ส่วนด้านหลังกล่องบรรจุ มีข้อมูลโมเดลรุ่น, สีตัวเครื่อง, รุ่นความจุ RAM และ ROM, เลข IMEI เครื่อง พร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ ระบุเอาไว้

สำหรับฟีเจอร์เด่น ๆ ที่ระบุเอาไว้ ได้แก่ มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 765G พร้อมระบบระบายความร้อน Liquid Cooling, หน้าจอลื่นไหลมีอัตรา Refresh Rate สูง 120Hz พร้อมฝังกล้องหน้าคู่บนจอแสดงผล, แบตเตอรี่ความจุสูง 4200mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว Dart Charge 30W และกล้องหลัง 4 ตัว คมชัดสุด 48MP มีเลนส์ Ultra-Wide สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง

อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย

– realme X50 5G ตัวเครื่องสี Ice Silver
– สายชาร์จ USB Type-C
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ Dart Charge 30W
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสกันรอยซิลิโคนแบบใส
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน

โดยเคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่อง เป็นเคสซิลิโคนแบบใสค่ะ

Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dart Charge กำลังไฟ 30W สามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 55 นาที ในขณะที่เล่นเกมหนักสามารถชาร์จได้เกือบ 70% ในเวลาเพียง 30 นาที พร้อมรองรับการป้องกันความปลอดภัย 5 ชั้น ตั้งแต่หัวชาร์จ, สายชาร์จ และเครื่องสมาร์ตโฟน

ทำความรู้จัก realme X50 5G

ด้านหน้า ใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว อัตราการ Refresh Rate สูงสุด 120Hz หน้าจอมีความลื่นไหลขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนที่มีอัตราการ Refresh Rate ขนาด 60Hz

อัตราส่วนจออยู่ที่ 20:9 บนความละเอียด 2400×1080 พิกเซล หรือระดับ Full HD+ และสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องมากถึง 90.4% ใช้หน้าจอได้อย่างลื่นไหล ทัชกันแบบลื่น ๆ เลยค่ะ

ครอบกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 หน้าจอปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits สามารถปรับโหมดสีหน้าจอได้ 2 แบบ ได้แก่ Vivid Mode และ Gentle Mode พร้อมรองรับฟีเจอร์ OSIE ปรับสีสันหน้าจอให้มีความสดใส และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพที่แสดงบนหน้าจอ

ด้านหน้าส่วนบน ฝังกล้องหน้าเลนส์คู่ไว้บนจอแสดงผล (In-Display) บริเวณมุมซ้ายบน

ขอบจอบางเฉียบ เหนือหน้าจอมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เดี๋ยวเราค่อยไปชมกันอีกครั้งในหัวข้อโหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพค่ะ

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับค่ะ

ด้านหลัง ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยี Optical Plating แบบใหม่ ให้การสัมผัสที่นุ่มลื่นและจับถนัดมือ เครื่องพิมพ์ลายโลหะล้ำสมัยถูกนำมาใช้สลักลวดลายขนาดเล็กนับพันบริเวณฝาหลังของตัวเครื่อง ก่อให้เกิดการกระทบของเส้นแสงโค้งมนที่ร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างงดงาม มีความสว่างที่เพิ่มขึ้น 60% และความอิ่มตัวของสีที่สูงขึ้นถึง 50% ฝาหลังมีความสวยงาม

โดยใช้ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติอย่างป่าและน้ำแข็ง มาด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Ice Silver ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธารน้ำแข็งขั้วโลกเหนืออันแพรวพราว

และ Jungle Green ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพงไพรเขียวชอุ่มที่เปี่ยมด้วยความลึกลับและสรรพชีวิต ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่ในป่ามหัศจรรย์ ฝาหลังใช้วัสดุกระจกโค้งมนแบบ 3 มิติ มีการสะท้อนสีเปล่งประกายสวยงาม

ตัวเครื่องมีขนาดกำลังดี ถือจับกระชับมือ พกพาง่าย แต่ตัวเครื่องจะเกิดรอยนิ้วมือได้ง่ายหน่อย เนื่องจากใช้วัสดุที่มีความเงางาม

ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วยเลนส์กล้องหลัง 4 ตัว จัดวางกันในโมดูลแนวตั้งกรอบสีเงิน ถัดมาฝั่งขวาติดกันเป็นไฟแฟลช LED พร้อมข้อความสกรีนระบุไว้ว่า AI Quad Camera

เลนส์กล้องหลังนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย แต่เมื่อสวมใส่เคสจะราบพอดีกันเลยค่ะ

ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงสกรีนชื่อแบรนด์ realme และข้อความลิขสิทธิ์ค่ะ

ด้านบนตัวเครื่อง มีเพียงรูไมโครโฟน

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ถาดซิมการ์ด, รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง

โดยถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ 2 ช่อง ใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM แต่ไม่รองรับ microSD Card ค่ะ

ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มพาวเวอร์ขนาดใหญ่ในลักษณะเว้าเล็กน้อย

โดยบนปุ่มพาวเวอร์ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แบบ Capacitive เอาไว้ สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างฉับไว ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น มีความปลอดภัย และตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น เพียงกดปุ่มแค่ครั้งเดียวตัวเคลื่องก็จะปลดล็อกทันที

การแคปภาพหน้าจอ กดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ค่ะ

ทดสอบประสิทธิภาพ

เมื่อนำ realme X50 5G ที่มาพร้อม Snapdragon 765G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.4GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 620 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ realme UI 1.0 บนพื้นฐาน Android 10 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu AI Benchmark, Geekbench 5 และ CPU-Z พบว่าสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมไปได้ถึง 2 แสนกว่าเลยทีเดียว

ทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 606 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1704 คะแนน

ข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 2236MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 99.06GB แต่รุ่นที่เรานำมาทดสอบให้ชมกันนั้นเป็นรุ่นความจุ RAM 6GB + ROM 128GB ส่วนที่วางจำหน่ายจะเป็นรุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 128GB ค่ะ

มาดูกันที่การทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกม และความบันเทิงกันบ้าง โดยเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง PUBG MOBILE มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ พบว่าสามารถเล่นได้แบบลื่น ๆ ไม่มีกระตุก หรืออาการสะดุดเลย จอสีสดคมชัดดี ภาพสวยสมจริง ระบบทัชสกรีนลื่นไหล

ในส่วนของความบันเทิง ผู้ที่ชื่นชอบการรับชมวิดีโอ, YouTube, ดูหนัง, ดูซีรีย์ต่าง ๆ ด้วยขนาดหน้าจอที่กว้าง 6.57 นิ้ว ไร้รอยบากใด ๆ อัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องสูงสุด 90.4%

จะรับชมแบบ Full Screen ก็ทำได้สบาย ๆ ทำให้รับชมได้แบบเต็มตา ไม่มีอะไรมาบดบังรายละเอียดบนหน้าจอเลยค่ะ

Interface

หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น แต่สำหรับใครที่ลงทะเบียนฟีเจอร์ Face Unlock หรือสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องแล้ว ก็จะปรากฏไอคอนบนหน้าจอ

หลังจากที่เราปลดล็อกหน้าจอแล้ว จะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าใช้งานได้ภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องถูกจัดวางเป็นระเบียบไม่รก และ UI แบบใหม่จาก realme ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ให้สีสันที่สดใสมากยิ่งขึ้น สามารถปรับแต่งไอคอนได้เอง หากปัดหน้าจอขึ้นด้านบนจะพบกับหน้ารวมเมนูการใช้งานทั้งหมด

เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings มีเมนูแถบแจ้งเตือน และสามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และตั้งค่าการใช้งานหน้าจออื่น ๆ ได้ หรือหากต้องการลบแอปฯ ก็ให้กดค้างไปที่แอปฯ นั้น ๆ แล้วจะปรากฏข้อความให้ลบ

ศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีให้ใช้งานครบครัน อาทิ แผนที่, Google Chrome, Gmail, YT Music หรือ YouTube เป็นต้น และสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้จาก Google Play หรือ App Market

หากกดค้างไปที่ปุ่ม Home บนหน้าจอ หรือปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง จะปรากฏหน้า Google Assistant สามารถค้นหาสิ่งต่าง ๆ ด้วยเสียงได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็ว

พวกเครื่องมือการใช้งานมีมาให้ใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศ

เครื่องคิดเลข, แอปฯ วัดสภาพอากาศ, นาฬิกาปลุก

รองรับการโคลนโทรศัพท์ที่สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วทำง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ

มาพร้อม Game Space ใช้ตั้งค่าต่าง ๆ ขณะเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็น ปิดกั้นการแจ้งเตือน, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, ตั้งค่าโหมดเกม, ตั้งค่าแบตเตอรี่ เป็นต้น

เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง

หน้าจอสามารถปรับโทนความสว่าง และอุณหภูมิสีของหน้าจอได้ มีโหมดกลางคืนใช้งานหน้าจอแบบโทนสีมืด และรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าที่โหมดถนอมสายตาตอนกลางคืน เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งาน

รองรับโหมดสีจอภาพได้ 2 แบบ ได้แก่ Vivid Mode และ Gentle Mode พร้อมปรับอัตราการ Refresh Rate ได้สูงสุด 120Hz และรองรับฟีเจอร์ OSIE ปรับสีสันหน้าจอให้มีความสดใส และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพที่แสดงบนหน้าจอ

ด้านระบบรักษาความปลอดภัย realme X50 5G รองรับทั้งสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และสแกนใบหน้าเลยค่ะ ซึ่งก่อนลงทะเบียนจะต้องตั้งรหัสผ่าน หรือรูปแบบก่อนนะคะ สำหรับสแกนลายนิ้วมือเคลมไว้ว่าปลกล็อกได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.25 วินาที

หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ๆ, หน้าแสดงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสมาร์ตโฟน ถัดมาเป็น realme Lab ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเบต้าได้

รองรับ Smart Lock ระบบปลดล็อกสมาร์ตโฟนรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ PIN, รูปแบบ, รหัสผ่าน, การสแกนนิ้วมือ, สแกนใบหน้าในการ Unlock เครื่อง

Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส และทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง เป็นต้น

รองรับโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยระบบจะปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อหยุดการทำงานอันเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว, มีการลดความสว่างของหน้าจอลง, ปิดการสั่นสะเทือนเมื่อแตะไปที่ไอคอนต่าง ๆ สามารถเลือกการประหยัดพลังงานได้ และการใช้โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง เป็นต้น โดยอายุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10% ลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนบายด์ข้ามคืน 35%

ส่วนนี้เป็นไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์

รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

มีฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ สามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ ใช้ 3 นิ้วลากบนหน้าจอ และกดไปที่ปุ่ม Recent Apps เป็นต้น

หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะปรากฎหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ การเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง พร้อมรองรับฟังก์ชัน Split Screen และการล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ค้างไว้อีกด้วย

เมื่อกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องจะเป็นการเรียกใช้งาน Google Assistant ง่าย ๆ และรวดเร็ว หรรือหากกดค้างไว้นาน 3 วินาที จะขึ้นเมนูให้รีสตาร์ทตัวเครื่อง และปิดเครื่องปรากฏขึ้นมาค่ะ

หากเสียบสาย USB Type-C เข้ากับตัวเครื่องแล้วเสียบเข้าเครื่อง PC จะสามารถถ่ายโอนรูปภาพ ไฟล์ และข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ realme X50 5G รองรับ Dart Charge 30W เมื่อเสียบสายชาร์จจะปรากฏไอคอนดังรูปขึ้นมา และจากการทดสอบพบว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มโดยใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

เริ่มที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้ากันก่อนเลยค่ะ โดย realme X50 5G มาพร้อมกล้องหน้าเลนส์คู่แบบเจาะรู เซ็นเซอร์หลักใช้ Sony IMX471 ความละเอียด 16MP + เลนส์ถ่ายภาพ Portrait คมชัด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.4

มาพร้อมโหมดการใช้งานมากมาย อาทิ HDR ทำให้ภาพสวยคมชัด, โหมด Nightscape Selfie เซลฟี่สวยแม้แสงน้อย เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันเลยค่ะ

เริ่มที่โหมด Nightscape Selfie รองรับการปรับตั้งค่าสวยเนียนและรายละเอียดอื่น ๆ ด้วย AI Beauty สามารถปรับได้ทั้งผิวเรียบเนียน, ใบหน้าเรียว, ดวงตากลมโต, จมูกเรียวเป็นสัน, รูปคาง, ใบหน้าเล็ก, เสริมแต่งให้ใบหน้าสวยขึ้น มีเลือดฝาด และแบบ 3 มิติ โหมดนี้เหมาะสำหรับใช้เซลฟี่ในที่แสงน้อย ภาพที่ได้จะมีความสว่างมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อยู่

ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie Nightscape

ถัดมาเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ รองรับการบันทึกที่ความละเอียดระดับ Full HD หรือ 1080p และ HD หรือ 720p พร้อม AI Beauty ที่สามารถปรับค่าผิวสวยเนียนได้สูงสุด 100 ระดับ

รองรับการปรับหน้าชัดหลังเบลอได้ตามใจชอบ เบลอฉากหลังเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอ และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR ให้ภาพสวยคมชัดมากยิ่งขึ้น, ปรับค่าสวยเนียนทันใจด้วย AI Beauty ได้มากถึง 100 ระดับ และรองรับฟิลเตอร์สีสวย ๆ เช่นเดียวกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty Mode

ปรับ Beauty ระดับ 50

ปรับ Beauty ระดับ 100

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode

โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังละลาย หรือ Bokeh รองรับการปรับค่าผิวสวย AI Beauty

สามารถปรับความเบลอได้เอง พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีมากมาย

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

ปรับเบลอระดับ 50

ปรับเบลอระดับ 100

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter

โหมดถ่ายภาพพิเศษของกล้องหน้า มีให้เลือกใช้งาน 3 โหมด ได้แก่ ถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Motion รองรับการบันทึกที่ระดับ 1080p/120fps

ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo

เซลฟี่แบบ Panorama มุมมองกว้างขึ้น และถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse ค่ะ

มาต่อกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดย realme X50 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48MP (Main Sensor) + 8MP (Ultra Wide-Angle) + 2MP (Portrait) + 2MP (Macro) ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.3 + f/2.4 + f/2.4 เซ็นเซอร์หลักให้ความละเอียดสูงถึง 8000×6000 พิกเซล

เลนส์ Ultra Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 119 องศา เลนส์ Portrait พร้อมฟิลเตอร์ B&W และเลนส์ Macro ถ่ายภาพในระยะใกล้ 4 ซม. พร้อม LED flash รองรับ PDAF โฟกัสได้รวดเร็ว มีโหมดการใช้งานมากมาย อาทิ โหมด Nightscape 3.0 สำหรับถ่ายภาพช่วงกลางคืน, Chroma Boost ช่วยปรับให้ภาพสีสันสดใสมากขึ้นแบบอัตโนมัติ, Portrait Mode ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลออย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้บุคคล หรือวัตถุโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันเลยค่ะ

โหมด Nightscape 3.0 สำหรับถ่ายภาพกลางคืนได้สวยคมชัด มีโหมดขาตั้งกล้องรับแสงได้นานถึง 50 วินาที พร้อม Ultra Nightscape ถ่ายภาพในที่แสงน้อย ความสว่างเพียง 1Lux ให้ภาพมีความสว่างคมชัดมากยิ่งขึ้น และสามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่า

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Nightscape

โหมดบันทึกวิดีโอ อัตราเฟรมบันทึกวีดีโอระดับ 4K, 1080p และ 720p อัตราเฟรม 60fps และ 30fps รองรับการเปิดไฟแฟลช, กันสั่นพิเศษ UIS และ UIS Max, ซูมได้สูงสุด 10 เท่า

รองรับ AI Beauty และปรับ Bokeh ได้สูงสุด 100 ระดับ เพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นให้วิดีโอ พร้อมฟิลเตอร์สีต่าง ๆ

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดไฟแฟลช, HDR ภาพสวยคมชัดขึ้น, รองรับการซูม 10 เท่า และรองรับ Chroma Boost เพิ่มสีสดให้กับภาพถ่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ตัวอย่างภาพถ่าย Chroma Boost : ปกติ (บน) & Chroma Boost (ล่าง)

รองรับ AI Beauty, ฟิลเตอร์สี และเปิดใช้งานไฟแฟลช LED

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty Mode

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode

โหมด Portrait ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่จะช่วยให้บุคคล หรือวัตถุดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น สามารถปรับระดับความเบลอได้เองถึง 100 ระดับ โดยจะได้ภาพหน้าชัดหลังละลายแบบเป็นธรรมชาติ

รองรับ AI Beauty และปรับฟิลเตอร์สี

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

ปรับเบลอระดับ 50

ปรับเบลอระดับ 100

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter

โหมด 48MP ถ่ายภาพด้วยความละเอียดคมชัดสูงสุด 48MP พร้อมเปิดใช้งาน Chroma Boost เพิ่มสีสดให้แก่ภาพถ่าย

ตัวอย่างภาพถ่าย 48MP

โหมดการใช้งานพิเศษ เริ่มที่ Google Lens เป็นเทคโนโลยีการจดจำภาพที่พัฒนาโดย Google ออกแบบมาเพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องกับวัตถุที่ระบุ โดยใช้การวิเคราะห์ภาพตามเครือข่าย

โหมดถ่ายวิดีโอ Time Lapse ซูมได้ 10 เท่า, ระบบสแกนข้อความ

โหมดถ่ายภาพ Macro ถ่ายได้ใกล้สุดในระยะ 4 ซม. พร้อมรองรับการเปิดใช้งาน Chroma Boost

ตัวอย่างภาพถ่าย Macro

โหมดบันทึกวิดีโอ Slo-Mo รองรับที่ระดับ 720p/240fps และ 1080p/120fps เปิดไฟแฟลช LED เพิ่มความสว่างได้ค่ะ

ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก realme X50 5G

---

สรุป

• สมาร์ตโฟน 5G สเปกครบครัน จอลื่น กล้องชัด แบตอึดชาร์จไว ในราคาหมื่นต้น ๆ

• หน้าจออัตรา Refresh Rate 120Hz ขนาด 6.57 นิ้ว บนความคมชัดระดับ Full HD+ ครอบกระจก Corning Gorilla Glass 5

• ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ realme UI 1.0

• ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 765G ขนาด 7 นาโนเมตร แรม 8GB คู่ความจุ 128GB

• กล้องหลัง AI 4 ตัว คมชัดสุด 48MP มีทั้งเลนส์ Portrait, Ultra-Wide และเลนส์ Macro บันทึกวิดีโอ 4K พร้อมโหมด Nightscape 3.0 และโหมดอื่น ๆ อีกเพียบ

•  กล้องหน้าเลนส์คู่ 16MP + 2MP พร้อม AI Beauty ปรับสวยเนียนทันใจ

• แบตเตอรี่ความจุสูง 4200mAh รองรับชาร์จเร็ว Dart Charge 30W ผ่านพอร์ต USB Type-C พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัย 5 ชั้น

• รองรับ 4G LTE และ 12 คลื่นความถี่ 5G ทั่วโลก มีฟีเจอร์ Smart 5G สลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G กับ 5G ได้อัตโนมัติ ทำให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น และลดการใช้พลังงาน รองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual Channel สลับการเชื่อมต่อระหว่างอินเทอร์เน็ต และ Wi-Fi อัตโนมัติ

• ติดตั้งสแกนลายนิ้วมือบนปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่อง ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

ข้อสังเกต

• ไม่มีหูฟังแถมมาให้ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์
• บอดี้ใช้วัสดุเงางาม ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย
• ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ 2 ช่อง ใช้งาน 2 ซิมการ์ด แต่ไม่รองรับ microSD Card

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

• Huawei nova 7 SE
• OPPO Reno2
• Samsung Galaxy A71
• Vivo V19
• Xiaomi Mi 9T Pro

ขอขอบคุณ realme Thailand

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng