รีวิว Garmin Vivoactive HR นี่ล่ะ Multi Sport Watch ที่สุดของคนรักกีฬาตัวจริง

รีวิว Garmin Vivoactive HR นี่ล่ะ Multi Sport Watch ที่สุดของคนรักกีฬาตัวจริง

สวัสดีครับ แฟนๆ ninethaiphone ทั้งหลาย ต้องขอบอกเลยว่าในโลกยุค Digital Intrend ทุกวันนี้นั้น นอกจาก Smartphone ที่ถือเป็นของติดตัวเพื่อใช้ในการติดต่อกันผ่าน Social Network แล้ว สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายที่รักใส่ใจสุขภาพ มักจะหันมาสวมใส่ Smart Watch แทนที่นาฬิกาข้อมือแบบปกติ และในวันนี้เอาเราขอมานำเสนอ Smart Watch สำหรับผู้ที่รักชื่นชอบการออกกำลังกาย จนได้ชื่อเรียกว่าเป็น Multi Sport Watch กันกับ รีวิว Garmin Vivoactive HR รุ่นต่อยอด Vivoactive โดยมีฟังก์ชั่นวัด Heart Rate ในตัว ลองมาดูกันเลยดีกว่าว่ามันมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

เริ่มจาก Unboxing แกะกล่อง ออกมาพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมดที่มีมาให้ จะพบตัวเรือน สมุดคู่มือ และสายชาร์จที่ปลายเป็น USB Port หากต้องการชาร์จปลั๊กไฟบ้าน สามารถใช้หัวชาร์จโทรศัพท์ Smartphone มาใช้ได้

Garmin Vivoactive HR มากับสีดำทั้งเรือน มีดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย และทันสมัย รูปทรงแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสใน Vivoactive ปรับมาเป็นสี่เหลี่ยมผืนหน้า แนวตั้ง ในรุ่น Vivoactive HR เรือนนี้

มองจากด้านหน้าเป็นจอสัมผัสขนาด 0.80″ x 1.13″ ความละเอียด 148x205px มีปุ่ม 2 ปุ่ม ได้แก่ Back (ซ้าย) และ Enter

ด้านหลัง Sensor HR และ ตำแหน่งชาร์จไฟ

ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งจะเป็น ช่องสำหรับล๊อกกับตัวแท่นชาร์จ (ด้านขวาจะมี Serial No.ด้วย)

สำหรับตัวสายซิลิโคน ใส่สบายกระชับข้อมือ ไม่บาดมือ ใส่วิ่ง ใส่ว่ายน้ำ ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ตัวสายมาตรฐานนั้นให้มารองรับได้ถึงข้อมือขนาด 195 มม. ขณะที่น้ำหนักนั้น 47.6 กรัม ซึ่งถือว่าไม่หนัก และไม่เทอะทะ แต่อย่างใด หากคนที่คุ้นชินกับการใส่นาฬิกาแฟชั่นอย่าง G-Shock มาก่อนจะรู้สึกว่าเบากว่า และไม่เกะกะ

ปุ่มที่มี 2 ปุ่ม ซ้าย-ขวา นั้น

ปุ่มซ้าย คือ ปุ่ม Back (ย้อนกลับ) : เมื่อกดปุ่มซ้ายค้างไว้ จะขึ้นโหมด ห้ามรบกวน, ล๊อกอุปกรณ์, ปิดเครื่อง

ปุ่มขวา คือ ปุ่มเลือกสำหรับเข้าแอปกีฬา และ เมนู เมื่อกดปุ่มขวา จะเป็นการเข้าแอปกีฬา : เมื่อกดปุ่มขวาค้างไว้ จะเป็นการเข้าเมนู ซึ่งสามารถเข้ามาเซ็ทตั้งค่าต่างๆ ของตัวเครื่องได้

เมื่อเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรก จะต้องทำการเซ็ทค่าต่างๆ ให้เรียบร้อย ทั้ง ภาษา, วันเกิด, น้ำหนัก, หน่วยวัด, สวมมือข้างไหน เป็นต้น

ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ ของ Vivoactive HR

• หน้าจอสี แบบสัมผัส มีความละเอียดคมชัด แสดงผล Chroma มองชัดกลางแจ้ง
• กันน้ำ 5 ATM (50 ม.) รองรับใส่ว่ายน้ำ
• มี GPS (หากเปิด GPS ต่อเนื่องอยู่ได้ 10 ชม.) Track การเดิน-วิ่งของเราได้
• มี App ออกกำลังกายหลากหลายชนิด
• มีฟังก์ชั่นนำทาง นำทางกลับบ้านได้จากการบันทึกตำแหน่ง GPS
• สามารถ Custom Watchface และ โหลด App เพิ่มเติมมาติดตั้งได้
• รองรับภาษาไทย
• แบตเตอรี่ใช้ได้นานถึง 8 วัน ในโหมดนาฬิกา/การติดตามกิจกรรมหากเปิด GPS จะอยู่ได้ 13 ชั่วโมง

การชาร์จประจุสามารถชาร์จได้รวดเร็ว และชาร์จได้กับ PC หรือจะเสียบเข้ากับหัวชาร์จไฟมือถือก็ได้

Vivoactive HR รุ่นนี้ แน่นอนว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ การวัด Heart Rate แบบ Optical ที่ข้อมือ

หน้าจอวัด HR ที่เป็น Widget นั้น จะแสดงผลเป็นกราฟย้อนหลัง 4 ชม. และ บอกค่าสูง ต่ำ ไปจนถึง Recovery HR ด้วย

และหาก กดที่หน้าจออีกครั้ง จะแสดงค่า RHR เฉลี่ย 7 วันหลังสุดด้วย

นอกจากนี้ ในการออกกำลังกาย ต่างๆ ที่มีการแสดงผลค่า HR จะมีการบอกโซนระบุ ไว้ด้วย ว่าเราได้ออกกำลังกายจนหัวใจเราเต้นไปถึงระดับโซนไหน แล้ว ซึ่งการคำนวณโซนนั้น จะขึ้นกับการที่เราตั้งค่าผู้ใช้ตั้งแต่แรกว่า อายุเท่าไร ระบบก็จะคำนวนโซนให้อัตโนมัติ หรือ เราจะเข้ามาเซ็ทโซน HR ด้วยตัวเองก็ได้ ซึ่งใน App ออกกำลังนั้นสามารถเซ็ทให้แสดงโซนเป็นสีได้

หน้าจอ Watchface พื้นฐานที่มากับเครื่อง มีให้เลือก 2 รูปแบบ Modern และ Traditional ซึ่งสามารถ Custom พื้นหลัง และโทนสีได้ นอกจานี้จะมีแถบ Move Bar มาคอยเตือนการขยับร่างกายด้วย ถ้าคุณอยู่เฉยๆไม่มีกิจกรรมใดๆ แถบบาร์เล็กๆ นี้จะโผล่ขึ้นมาแจ้งเตือน หรือจะตั้งสั่นเตือนให้มีการขยับก็ได้

หากรู้สึกไม่โดนกับ Watchface พื้นฐานที่ให้มากับเครื่องล่ะก็ เข้าไปที่ Garmin Connect IQ เลย มีให้คุณเลือกโหลดรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายให้

Activity Tracker ที่ติดตั้งมาให้ใน Widget พื้นฐาน โดยคุณสามารถใช้นิ้วสัมผัสโดยการปัดหน้าจอขึ้น-ลง ได้แก่

• Steps นับก้าว (ตั้งเป้าหมายจำนวนก้าวในแต่ละวันได้) บอกระยะ และจำนวนชั้น (ก้าวขึ้น)

จะมี Move Bar แสดงขึ้นหากไม่มีการเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับ Watchface พื้นฐาน

• กีฬาล่าสุด ซึ่งจะบอกการออกกำลังล่าสุดของคุณ ซึ่งบอกข้อมูลเป็นวงกลม 3 วง ได้แก่ ระยะทาง, เวลา, Pace พร้อมบอกระยะทางรวมล่าสุดทั้งสัปดาห์ให้ด้วย
• แคลอรี่ วันนี้ใช้พลังงานไปทั้งหมดเท่าไร แบ่งเป็น ช่วงพัก, ใช้งาน
• หัวใจเต้น
• นาทีความเข้มข้นของการออกกำลัง
• วันของฉัน จะสรุป จำนวนชั้น, ก้าว, นาทีความเข้มข้น
• พยากรณ์อากาศ
• แจ้งเตือน, ควบคุมเพลง, ปฏิทิน, พยากรณ์อากาศ ทั้งหมดนี้ จะต้องเชื่อมต่อกับ Garmin Connect Mobile
• เซ็นเซอร์ Lights สำหรับไฟเรดาร์ Varia เพื่อความปลอดภัยผู้ปั่นจักรยานโดยเฉพาะ
• ฟังก์ชั่นควบคุมกล้อง VIRB (Action Cam ของ Garmin)

App กีฬาที่ติดตั้งให้มาเป็นพื้นฐาน ที่สามารถเลือกใช้ได้ โดยการกดปุ่มขวามือ ได้แก่

• วิ่ง
• วิ่งในร่ม
• เดิน
• เดินในร่ม
• ว่ายน้ำ
• จักรยาน
• จักรยานในร่ม
• กอล์ฟ
• พายเรือ
• พายในร่ม
• SUP กระดานพาย แบบยืน
• Ski/Snow Board (สกีภูเขา)
• XC Ski สกีแบบ Cross Country
• Find My Phone

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งแอป อื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง Connect IQ Store ซึ่งมีให้เลือกอีกมาก

ในการใช้ App กีฬาพื้นฐานของเครื่อง ผู้เขียนขอหยิบยกมา 4 ฟังก์ชั่น เพื่ออธิบาย ดังนี้

Walk/Run (Out Door)

ข้อมูลที่บันทึกได้จากฟังก์ชั่น Walk/Run ได้แก่ จำนวนก้าว, ระยะทาง, เวลา, Pace, ความเร็ว, แคลอรี่, Heart Rate, Cadence, อุณหภุมิ, ระยะขึ้น-ลง ฯลฯ เป็นต้น

โดย Out Door นี้สามารถเปิดระบบ GPS เพื่อวัดระยะทางและบอกความเร็วขณะวิ่งได้แม่นยำขึ้น รวมถึงสามารถแสดงผล Tracking ลงบนแผนที่ได้ด้วย

 

Walk/Run Indoor (Treadmill)

โดยข้อมูลที่บันทึกได้จากวิ่งลู่ไฟฟ้า จะเหมือน Outdoor แต่การคำนวณ ระยะทาง และความเร็วมาจาก เซ็นเซอร์การวัดของเครื่อง ซึ่งผู้ทดสอบพบว่า มันคลาดเคลื่อนพอสมควร จากการวิ่งบนลู่เป็นเวลา 20 นาที ที่ระดับความเร็ว 8.5 กม./ชม. Vivoactive HR นี้ จะได้ค่าระยะทางมากกว่า ที่ลู่วิ่งไฟฟ้าแสดงผล ราวๆ 1 กม.

ซึ่งอาจต้องไปปรับค่าระยะก้าวของเราใหม่ใน Garmin Connect หรือ ต้องเซ็ทการวัดค่าจากตัวเครื่องใหม่ ตั้งแต่ ตอนเปิดเครื่องแรกๆ โดยให้ออกไปวิ่ง หรือ เดินข้างนอกพร้อมเปิด GPS เป็นเวลา 20 นาที

Swim

การใช้งานว่ายน้ำนั้น หน้าจอจะแสดงผลแค่หน้าเดียว เพราะไม่ต้องการให้ใช้ระบบหน้าจอสัมผัส

และไม่สามารถเปิด GPS และ วัด Heart Rate ได้

การเซ็ทขนาดของสระที่ว่าย มีให้เลือกได้แก่ 25/50 ม. เป็นต้น นอกจากนี้ยังกำหนดขนาดสระเองได้ หากไม่มีในตัวเลือก

สำหรับข้อมูลที่บันทึกได้จากการว่ายน้ำ ได้แก่ ระยะทาง, เวลา, Pace, Stroke, Swolf, ความยาว, อุณหภูมิ, แคลอรี่ เป็นต้น

การใช้งานว่ายน้ำนั้น การวัดระยะ ถือว่าทำได้หน้าพอใจ เมื่อว่ายในท่าฟรีสไตล์ปกติ พบว่าคลาดเคลื่อนไม่มากนัก แม่นยำดี แต่เมื่อว่ายท่ากบ (Breaststroke) พบว่าคลาดเคลื่อนไปมากพอสมควร

น่าเสียดายที่ไม่สามารถเปิด GPS ได้ เพื่อจะได้ Tracking ลง Map และจะได้ระยะทางที่แม่นยำยิ่งขึ้น

 

Row Indoor

โดยข้อมูลที่บันทึกได้จากพายในร่ม ได้แก่ เวลา, แคลอรี่, HR เฉลี่ย+ สูงสุด, Stroke

ซึ่งข้อมูลนั้น ถือว่าไม่ละเอียดมากนัก บอกได้เพียงระยะ Stoke ของการพายเท่านั้น ซึ่งเครื่อง Row Indoor จะสามารถแสดงระยะทางได้ ซึ่งจะบอกถึงความเร็ว, Pace ฯลฯ ได้ด้วย

ในด้านของการ Sync ข้อมูลเข้ากับ Garmin Connect ทำได้ทั้งบน Smartphone (ระบบ Android และ IOS) หรือบน PC โดย Sync ผ่าน Garmin Express โดยทั้ง 2 จะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วย

บน Smartphone เมื่อเชื่อมต่อเข้ามา และ Sync ข้อมูลเรียบร้อย จะพบหน้า Snapshot บอกข้อมูลเบื้องต้น ดังภาพด้านบน

นอกจากนี้การตั้งค่า Notification จะสามารถแจ้งเตือนได้หลายโปรแกรม อาทิ

 

ในส่วนของหน้าจอ Garmin Connect บน PC จะสามารถเลือกดู และแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้มากกว่าบน Smartphone ซึ่งภาพด้านบน คือ ตัวอย่างข้อมูลเชิงลึกขณะว่ายน้ำด้วย App Swim ของตัวเครื่อง

การเข้า Connect IQ Store เพื่อโหลด Application, Data Field, Watch Face, Widget มาติดตั้งบน Vivoactive HR ทำได้ทั้งโหลดผ่านมือถือ หรือจะต่อสายเข้ากับ PC เชื่อมต่อทาง Garmin Express ก็ได้เช่นกัน

*การอัพเดท Software จะต้องทำผ่าน Garmin Express บน PC เท่านั้น

สรุป Garmin Vivoactive HR จัดได้ว่าเป็น Smart Watch ที่ครบเครื่องมากที่สุดรุ่นหนึ่ง มากับดีไซน์ที่ดูเรียบแต่ลงตัวสวมใส่ได้ทุกสถานการณ์

จุดเด่น คือ รองรับการเล่นกีฬาหลากชนิด จนเรียกได้ว่าเป็น Multi Sport Watch เมื่อคุณสวมใส่ Vivoactive HR แล้วจะทำให้คุณอยากออกกำลังกายบ่อยขึ้น

ตระกูล Vivo Series มีจุดเด่นที่รองรับการว่ายน้ำ ซึ่งน้อยเรือนจะกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น Vivoactive HR จึงพร้อมใส่ตลอด 24 ชม. ทุกสถานการณ์

แบตเตอรี่อึดอยู่ได้นานหลายวัน หากต้องออกทริปไปต่างจังหวัด หรือแม้แต่ต่างประเทศเกือบสัปดาห์ (ไม่เปิด GPS) และถ้าปิดเครื่องนอนด้วยแล้วอยู่ทะลุสัปดาห์ได้อย่างสบายๆ

จุดเด่น

• กันน้ำได้แบบสมบูรณ์แบบ รวมไปถึงใส่ว่ายน้ำออกกำลังกาย
• หน้าจอสี แบบสัมผัส ที่มองชัดแม้อยู่กลางแดด
• เป็น Multi Sport Watch ที่มี App กีฬาให้เลือกออกกำลังกายได้อย่างหลากหลาย
• สามารถโหลด App, Widget, Watchface มาติดตั้งเพิ่มเติมได้
• สำหรับผู้ที่ชอบการตีกอล์ฟ สามารถโหลด Golf Course ได้
• มีฟังก์ชั่นการนำทาง ซึ่งจะช่วยพาคุณกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับนักเดินป่า
• แบตเตอรี่อยู่ได้นานหลายวัน เดินทางไปเที่ยวไม่ต้องพกสายชาร์จไปด้วยให้เกะกะ และชาร์จประจุกลับได้รวดเร็ว

 

จุดที่อยากให้ปรับปรุงเพิ่มเติม

• ข้อมูลบน Snapshot ในหน้าจอมือถือ น่าจะสามารถแชร์ค่าลง Facebook ได้
• App Swim น่าจะเปิด GPS ได้ ถ้าวัด HR ได้ด้วยจะดียิ่งขึ้น
• ช่วง Sync ข้อมูลบน Samrtphone นั้นค่อนข้างช้า และบางครั้ง พยากรณ์อากาศ ไม่แสดงผล

Garmin Vivoactive HR สนนราคา 9,990 บาท สามารถซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Garmin ทั่วประเทศ หรือแวะไปเยี่ยมชมกันได้ที่โชว์รูม Garmin โดยตรง ณ อาคารสาทรนคร ชั้น 22
ภณ เพียรทนงกิจ Tester