รีวิว OPPO R7s ความลงตัวครั้งใหม่ทั้งดีไซน์ ประสิทธิภาพ และราคา

รีวิว OPPO R7s ความลงตัวครั้งใหม่ทั้งดีไซน์ ประสิทธิภาพ และราคา

ส่งท้ายปี 2015 ด้วย OPPO R7s ถือเป็นความลงตัวที่สมบูรณ์แบบมากกว่ารุ่น OPPO R7 Lite และ OPPO R7 Plus ที่จำหน่ายไปก่อนนี้ไม่นานนัก  ด้วยดีไซน์ที่สวยกว่า, บางกว่า, ให้ RAM มากถึง 4GB, ตัวเครื่องอะลูมิเนียมสีทองและสี Rose Gold ยอดฮิตในยุคนี้, ROM เร็วลื่น, บวกกับราคาที่สมเหตุสมผล คือ 14,990 บาท จึงน่าจับตามองว่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีของ OPPO ในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปี 2016

สเปคทางเทคนิค

• ตัวเครื่อง ยาว 151.8 mm กว้าง 75.4 mm หนา 6.95 mm เบาเพียง 155 g
• สีที่มีให้เลือก Golden กับ Rose Gold
• ระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.1 ครอบทับ Android 5.1
• CPU Qualcomm MSM8939 Octa-core
• GPU Adreno 405
• RAM 4GB
• พื้นที่ 32GB (รองรับ microSD 128GB)
• Battery แบบถอดไม่ได้ ความจุ 3070mAh ชนิด Li-Polymer
• หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ชนิด AMOLED
• ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 pixels)
• กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4
• ใส่ถุงมือหรือมือเปียกก็สั่งงานหน้าจอได้
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 กับ f/2.4 ตามลำดับ
• Dual-SIM : MicroSIM Card กับ NanoSIM Card
• รองรับ Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac แต่ไม่มี NFC

อุปกรณ์ภายในกล่อง OPPO R7s

• ตัวเครื่องและหูฟังแบบ Earbud
• สาย microUSB
• ที่ชาร์จแบบ VOOC
• เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
• เคสใสและเอกสารแนะนำการใช้งาน

ที่ชาร์จเป็นแบบ VOOC ที่ชาร์จเร็วเหลือเชื่อ เพราะจ่ายกระแสได้สูงเป็นพิเศษ ไฟจึงเต็มเร็ว

น่าแปลกที่ให้หูฟังแบบ Earbud ในขณะที่แบรนด์อื่นส่วนใหญ่ให้แบบ In-ear

เคสใสแบบนิ่มและค่อนข้างบาง แถมมาในกล่อง พร้อมใช้ทันที ไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม

เมื่อสวมใส่เคสแล้ว ก็ยังโชว์ความงามของตัวเครื่องได้เหมือนเดิม ความงามไม่ได้ลดทอนลง

ตัวเครื่องที่รีวิวในบทความนี้ เป็นเครื่องสี Golden  เนื่องจากสี Rose Gold อยู่ในระหว่างการผลิต จะวางจำหน่ายในภายหลัง

ด้านหน้าตัวเครื่อง เป็นกระจกโค้ง 2.5D สีขาว ขอบรอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีทอง ดูหรูหรา พอร์ต microUSB อยู่ตรงกลางด้านล่าง มีช่องลำโพงและไมโครโฟนขนาบข้าง

ด้านข้าง ฝั่งซ้าย มีปุ่ม Volume

ด้านข้าง ฝั่งขวามีช่องใส่ซิมการ์ดและปุ่ม Power

แม้ว่าตัวเครื่องจะบางเฉียบ แต่ก็ยังมีช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน ไม่ได้ตัดทิ้งไป

ด้านหลังเกือบทั้งหมดเป็นอะลูมิเนียมสีทอง ดูเรียบหรู

โลโก้ออปโป้ สลักลึก แวววาว กล้องถ่ายภาพ ก็มีไฟแฟลชอยู่ใกล้ ๆ

หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้วแต่ขอบจอค่อนข้างแคบ ทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่เกินไป จับได้พอดีมือ

ภาพพื้นหลังในหน้าจอ Lock screen จะสุ่มเปลี่ยนอัตโนมัติไปเรื่อย ๆ ทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อ

หน้าตา UI ของ ColorOS ที่น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เปลี่ยนแปลงไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับ OPPO รุ่นปี 2013-2014

ทดสอบประสิทธิภาพ ด้วย Antutu Benchmark ทำคะแนนได้ 37743 เทียบกับระดับราคาเฉียด 15,000 บาท คาดหวังไว้ว่าจะทำคะแนนได้ดีกว่านี้ (เกิน 4 หมื่น)

ซอฟท์แวร์ ColorOS

Lock screen |  Notification Center

Music Player แบบใหม่  |  Dialer ที่มาพร้อมระบบเดาชื่อที่ช่วยให้ค้นหาบุคคลได้ง่าย

เปลี่ยน Theme ได้หลากหลาย  |  แอปฯ ที่ติดตั้งจะโชว์บนหน้า Home screen เหมือน iPhone เพราะไม่มี App drawer แสดงรายการแอปฯ

เมนูการตั้งค่าหลัก  |  Software มีอัพเดตบ้างตามโอกาส

ColorOS เวอร์ชั่น 2.1.0i  |  Gesture สั่งงานในขณะหน้าจอดับอยู่ได้ด้วย

Gesture สั่งงานในขณะใช้งานปกติ  |  โหมดประหยัดพลังงานที่แนะนำให้เปิดใช้

พื้นที่หน่วยความจำที่คงเหลือในขณะเพิ่งแกะกล่อง

เครื่องคำนวณ มีฟังก์ชั่นเยอะ น่าสนใจ เมื่อปรับใช้หน้าจอในแนวนอน

เครื่องคำนวณพื้นฐาน เมื่อใช้งานหน้าจอในแนวตั้งตามปกติ

เมนูปรับแต่งการตั้งค่าเสียงและการแสดงผล

ปรับเปลี่ยน Font และ Font size ได้  |  เปลี่ยน Wallpaper หน้าจอ ทำได้ง่ายกว่า iPhone

เลือก Widget ที่ OPPO มีให้มาวางบน Home screen  |  จัดการไฟล์ในเครื่องที่แบ่งตามหมวดหมู่ ค้นหาง่าย ไม่กระจายตาม Folder

หรือจะเลือกมุมมองให้เรียงตาม Folder ก็ได้เช่นกัน หากรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลมีการจัดเก็บอย่างไร

มาลองกล้องถ่ายภาพกันบ้าง มีโหมดและลูกเล่นที่น่าสนใจมากมาย

OPPO ยังคงเน้นเรื่องกล้องถ่ายภาพเช่นเดิม  มีลูกเล่นสนุก ๆ ให้เลือกใช้หรือติดตั้งเพิ่มได้มากมาย  ปรับตั้งค่าได้ละเอียดเพื่อให้ผู้ใช้ประทับใจในภาพถ่ายมากที่สุด

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

ทดลองปรับตั้งค่า Selfie ในระดับ Strong ซึ่งจะทำให้ใบหน้าเนียนมากที่สุดในแบบที่เกินจริงไปมาก แต่สาว ๆ หลายคนกลับชื่นชอบกล้องหน้าของ OPPO กันทั้งนั้น  ทดลองถ่ายภาพในสภาวะแสงในร้านอาหารตอนกลางคืน  ภาพที่ได้ดูสว่างสวย เก็บรายละเอียดภาพได้บ้าง แต่ไม่คม

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ทดสอบแล้วน่าประทับใจ ถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดี ถ่ายมาโครในระยะใกล้ก็ถือว่าทำได้ดี

สรุป

สำหรับผู้ที่กำลังสนใจสมาร์ทโฟนที่ระดับราคาหมื่นกลาง ๆ  OPPO R7s เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ  ด้วยดีไซน์และประสิทธิภาพที่โดดเด่นดี  OPPO R7 Plus อาจจะใหญ่เกินไป  OPPO R7 Lite สเปคอาจยังไม่โดนใจ  ก็จะมาลงตัวที่ OPPO R7s พอดี  ทั้งสวย บางเบา ถ่ายภาพได้สวย RAM ที่มากพอสำหรับเผื่ออนาคต รองรับแอปพลิเคชั่นและเกมหนัก ๆ ได้สบาย  เสียดายที่ไม่ได้ทดสอบความร้อนในขณะเล่นเกม เพราะเป็นการรีวิวทดสอบในระยะเวลาจำกัด ภายในงานปาร์ตี้ของ OPPO

สิ่งที่ประทับใจ

• ดีไซน์สวย บางเบากว่าที่คิด วัสดุดูดี กระจกขอบโค้ง
• แบตเตอรี่อึด และยังชาร์จไฟได้เร็วมาก
• หน้าจอ Full HD ให้สีสันสดใส
• ซอฟท์แวร์ลื่นไหลดีมาก ไม่มีอาการหน่วงเลย ตอบสนองเร็ว
• กล้องหลัง ให้ภาพที่สว่างสวย
• มี Theme ให้เลือกเปลี่ยนมากมาย

ข้อสังเกต

• ในกล่องแถมเคสใส แต่ไม่ได้แถมฟิล์มกันรอยหน้าจอ
• น่าผิดหวังกับภาพของกล้องหน้า

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

• LG G4
• Huawei P8 Premium
• Sony Xperia M5
• Samsung Galaxy A8
• Samsung Galaxy S6
• Vivo X5 Pro
• Sony Xperia Z3