รีวิว Samsung GALAXY Note 3 Neo DUOS สองซิมจอใหญ่ มีปากกา ราคาประหยัด

น้องเล็กรุ่นใหม่ในตระกูล Samsung Galaxy Note 3 ที่น่าจับตามอง คือรุ่น Galaxy Note 3 Neo DUOS ราคาประหยัดลงมาเหลือเพียง 17,800 บาท กับสเปคที่ลดลง แต่คงไว้ในส่วนที่จำเป็นกับชีวิตประจำวัน

หน้าจอเล็กลงเหลือ 5.5 นิ้ว แต่รองรับการใช้งาน 2 SIM ลดสเปคลงทั้งในส่วนของ CPU, ROM, กล้องถ่ายภาพ และการเชื่อมต่อที่ตัด NFC ออกไป

ยังคงมีปากกาเหมือนเดิม ลูกเล่นของปากกาก็ยังเหมือนกับรุ่นใหญ่

มาดูสเปคแบบละเอียดกันก่อน

ความละเอียดหน้าจอลดลงจาก Full HD เหลือ HD ส่วนแบตเตอรี่มีให้มากถึง 3,100 mAh ใช้งานได้ยาวนานแน่นอน กล้องถ่ายภาพก็ไม่ได้แย่นัก ความละเอียดลดลง แต่ก็ยังใช้งานได้ดี

ลูกเล่นยังคงมีมากมายเกือบเท่ารุ่นใหญ่ ครบครันทุกอย่างที่จำเป็นต้องมี

จุดเด่นของตระกูล Galaxy Note ที่เหนือกว่าตระกูล Galaxy S ของซัมซุงเอง ก็คือลูกเล่นอันมากมายและชาญฉลาดของปากกา S-Pen ถ้าใช้งานปากกานี้บ่อย จะรู้ว่ามีประโยชน์และคุ้มค่าจริงๆ

ดีไซน์ด้านหน้าของ Galaxy Note 3 Neo DUOS ดูคล้ายกับรุ่นใหญ่ แม้ราคาต่ำกว่า ก็ยังดูดี

ตัวเครื่องสีขาว ก็ยังมีลวดลาย Texture ที่ดูสวยงาม

หน้าจอชนิด Super AMOLED สีสันสวยงาม สดใส

ใต้จอภาพมีปุ่มโฮม เมนู และย้อนกลับ เหมือนทุกรุ่นของซัมซุง

ของจอภาพแคบ ทันสมัย ลดขนาดความกว้างของตัวเครื่อง ทำให้จับถือได้ถนัด

ความบางของตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ยังคงไว้เช่นเดิม พกพาได้สะดวก

ขอบตัวเครื่องเป็นสีเงิน เป็นรอยได้ยากกว่าแบบโครเมียมที่ใช้ใน Galaxy Note 3 รุ่นใหญ่

ตำแหน่งปุ่มก็ยังเหมือนเดิม ฝั่งขวามีเพียงปุ่มเปิด-ปิด

ฝั่งซ้ายมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ฝาหลังเป็นพลาสติกเหนียว ขึ้นรูปผิวเลียนแบบหนังเย็บ มีกล้องและไฟแฟลชที่ดูหรูหราน้อยลง

ด้านบน เป็นช่องต่อหูฟัง ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน ตัดพอร์ตอินฟราเรดที่ใช้เป็นรีโมทคอนโทรลออกไป

โลโก้ซัมซุงโครเมียมแวววาว ดูหรูหรา บนผิวที่ทำลวดลายคล้ายหนัง

สีใหม่ที่เพิ่มเข้ามา คือสีเขียวอ่อน ซึ่งไม่มีใน Galaxy Note 3 รุ่นใหญ่

ที่ฝาหลังมีคำว่า DUOS หมายถึงรองรับการใช้งานสองซิมการ์ด

ตำแหน่งของปากกา ก็ยังเหมือนเดิม ดึงออกมาได้ง่าย แน่นหนา ไม่หลวมหลุด ช่องต่อ USB 2.0 เหมือนกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป ใช้สาย microUSB มาตรฐาน ไม่ใช่ USB 3.0 อย่างที่รุ่นใหญ่ใช้กัน

ก็ถือเป็นความแปลกใหม่ ต้องดูกันต่อไปว่าสีเขียวแบบนี้จะได้รับความนิยมแค่ไหน

ในส่วนของซอฟต์แวร์ เหมือนกับรุ่นใหญ่เกือบทั้งหมด เริ่มมาดูกันตั้งแต่ Home screen ไปจนถึง App drawer

ใส่ Folder จัดกลุ่มในหน้า App drawer ได้ และ Widget ก็มีให้ใช้มากมายตามสไตล์ซัมซุง

สะดวกด้วยปุ่มลัดสำหรับเปิดปิดฟังก์ชั่นทั้งหมด

เมนูหลัก แบ่งออกเป็นหมวดหมู่

เมนูการจัดการซิมการ์ด

เมนูตั้งค่าการสั่งงานและตั้งค่าทั่วไป ดูเยอะแต่ใช้งานง่าย ไม่สับสน แบ่งกลุ่มไว้ดี

ช่วงแรกมาพร้อมกับ Android 4.3 เหลือพื้นที่หน่วยความจำไว้ให้ผู้ใช้อีกมากมาย

โหมดประหยัดพลังงานที่แนะนำให้เปิดไว้ ตั้งค่าจอภาพให้เหมาะสม ก็ช่วยลดการใช้แบตเตอรี่ได้

เปลี่ยนหรือย้ายตำแหน่งปุ่มใน Notification Panel ได้ ถัดไปเป็นเมนูการโทรที่เหมือนกับซัมซุงทั่วไป

เมนูของกล้องถ่ายภาพ ปรับแต่งตั้งค่าได้ละเอียดมาก

ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด Full HD ไม่ถึงกับ 4K

โหมดใช้งานหรือ Scene ถ่ายภาพ มีให้เลือกใช้มากมาย แอพพลิเคชั่นเล่นเพลงไม่มีลูกเล่นอะไรเท่าไร

บันทึกการก้าวเดินและเก็บข้อมูลด้านสุขภาพในชีวิตประจำวัน ก็ยังมีไว้แบบเต็มฟังก์ชั่น แอพพลิเคชั่นบันทึกเสียงก็มีมาให้ ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม

Memo ด้วยปากกา หรือสั่งงานด้วยเสียง ทำได้เหมือนรุ่นใหญ่

แปลภาษา และฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ก็มีเช่นเดิม ไม่ได้ตัดทิ้งไป

การจัดการอัลบั้มภาพถ่าย โดยใช้ปากกา เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องทำบนคอมพิวเตอร์ ทุกอย่างจบใน Note 3

ปฏิทินนัดหมาย ใช้ร่วมกับปากกาเพื่อมาร์คได้ และ Weather รายงานและพยากรณ์อากาศได้แม่นยำ สวยงาม เข้าใจง่าย

ทดสอบการถ่ายภาพ

เริ่มต้นด้วยการทดสอบกล้องด้านหน้า มีการตรวจจับเพื่อโฟกัสใบหน้า ถ่ายย้อนแสงก็ปรับให้สว่างโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องปรับอะไร เพราะซอฟต์แวร์รู้ว่าเป็นใบหน้า ก็จะปรับระดับแสงให้ตามความเหมาะสม

กล้องด้านหลัง คมชัด โฟกัสแม่นยำ แต่อาจมี White Balance ที่เพี้ยนไปบ้างตามสภาพแสงที่แปลก หรือสถานที่นั้นมีหลอดไฟหลายสี

กล้องหน้าและหลัง ถือว่าน่าประทับใจสมราคา มีความฉลาดในการวัดแสงและโฟกัสที่แม่นยำดี ไม่ว่าใครถ่ายก็ได้ภาพที่สวยงาม

สรุป

Samsung Galaxy Note 3 Neo DUOS ราคาต่ำกว่ารุ่นใหญ่ถึง 6-7 พันบาท แม้ว่าลดสเปคบางอย่างลงไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีลูกเล่นเยอะมากที่สุดในระดับราคานี้ ครบครันด้วยลูกเล่นที่สำคัญ แบตเตอรี่ใช้ได้นาน กล้องถ่ายภาพคุณภาพดี ตอบสนองได้ดีทั้งการใช้งานส่วนตัว งานธุรกิจ และความบันเทิง

ข้อสังเกต

• ดูหรูหราน้อยลง
• ไม่มีฝาหลังเป็นอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้หลากหลายสีอย่างที่มีในรุ่นใหญ่
• เคสมีแบบให้เลือกน้อย
• มีลูกเล่นที่ดูเกินความจำเป็นเยอะ
• มีแอพพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็นติดมากับเครื่องจำนวนมาก ลบออกไม่ได้

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^