สรุปงาน WWDC 2014

สำหรับงาน WWDC 2014 ที่เฝ้ารอกันมาหลายเดือนนั้น ก็ได้เสร็จสิ้นพิธีการไปเรียบร้อยแล้ว กับข่าวลือต่างๆมากมายก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเปิดตัวอะไรใหม่ๆ อย่างเช่น iPhone 6 บ้าง iPhone 5S 8GB บ้าง หรือ iOS 8 บ้าง สุดท้ายแล้ว ก็เป็นจริงไม่ทั้งหมด อย่าง iPhone รุ่นใหม่ๆก็ไม่ได้มีพูดถึงในงานเลยซักกะติ๊ดเดียว หลายคนก็แห้วกันไป เดี๋ยวเราจะมาสรุปให้ดูกันว่า งาน WWDC 2014 นี้ ได้พูดถึงอะไรบ้าง

OS X รุ่นใหม่ “Yosemite“

– มีการเปิดตัว OS X รุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Yosemite ซึ่งเป็นชื่อของอุทยานแห่งชาติในสหรัฐฯ ออกเสียงเป็นภาษาไทยว่า โย-เซ-มิ-ตี
– Yosemite มีการออกแบบใหม่ ให้คล้ายคลึงกับ iOS ทำให้ดูเรียบและแบนขึ้น รวมไปถึง icon ก็เปลี่ยนแปลงหน้าตาใหม่
– Notification Center มีการเปลี่ยนให้เหมือนกับ iOS โดยเพิ่มแท็บ Today ที่ใช้แสดงข้อมูลปฏิทิน, การแจ้งเตือน, สภาพอากาศ และอื่นๆ
– สามารถเพิ่ม Widget ใหม่ๆ ได้จาก Mac App Store
– iCloud เก็บไฟล์ได้ทุกประเภท รองรับได้ทั้ง OS X และ iOS เชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์บนบัญชี iCloud เดียวกัน
– เปลี่ยนหน้า interface อีเมล์ใหม่ และสามารถใส่ข้อความลงไปในภาพถ่ายไฟล์แนบได้โดยไม่ต้องมา edit ภาพจากโปรแกรมข้างนอก
– Safari บน OS X มีการเปลี่ยนหน้าตาใหม่
– Airdrop ของ OS X 10.10 Yosemite รองรับการทำงานร่วมกันของทั้ง OS X และ iOS สามารถลากไฟล์ไปไว้ที่ Airdrop แล้วส่งไฟล์ได้เลย
– มีฟีเจอร์ Instant Hotspot ที่เพียงแค่นำ iPhone มาวางไว้ใกล้ๆเครื่อง Mac ก็สามารถต่อ Hotspot ได้โดยไม่ต้องไปตั้งค่าที่ Setting ใน iPhone เลย และบน Mac ก็มีการแสดงข้อมูลความแรงของสัญญาณ และยังบอกอีกด้วยว่าแบตเตอรี่ว่าเหลือเท่าใด
– รองรับการโทรเข้า – ออก SMS, MMS จาก iPhone ที่ใช้ iOS 8 ซึ่งสามารถแจ้งเตือนบนหน้าจอ Mac ที่มุมขวาบน ได้ว่ามีสายโทรศัพท์ หรือการแจ้งเตือนการติดต่อใดๆจาก iPhone อีกทั้งยังสามารถรับสายได้จากเครื่อง Mac เลยอีกด้วย

สำหรับ OS X Yosemite นี้ ได้ปล่อยให้นักพัฒนาทั้งหลายสามารถทดลองใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปจะเปิดให้อัพเกรดได้ช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

iOS 8

– หน้าตา iOS 8 ยังคงเหมือนกับ iOS 7
– หน้า LockScreen มีการปัดการแจ้งเตือนเพื่อเลือกตัวเลือกได้
– สามารถตอบกลับข้อความที่มีการแจ้งเตือนได้ทันที โดยไม่ต้องกดเข้าไปที่ตัวแอพพลิเคชั่น
– หลังจากกดปุ่ม home 2 ครั้ง จะทำการเข้าสู่หน้า Multitasking และในหน้า Multitasking นี้จะเพิ่มเติมในส่วนของการโทรออก และ Facetime ได้เลย
– ในหน้า e-mail มีการเพิ่มลูกเล่นในการปัดนิ้วไป ซ้าย-ขวา เลือกได้ว่าจะลบหรือจะปักหมุด e-mail
– Spotlight สำหรับ search สามารถค้นหาข้อมูลได้กว้างขวางขึ้นจากตอนแรก iOS 7 ที่ทำได้เพียงหาข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นและ e-mail เท่านั้น แต่ของ iOS ค้นหาได้จากทั้ง Wikipedia, iTunes Store, App Store และอื่นๆ
– คีย์บอร์ด iOS 8 ฉลาดขึ้นตรงที่สามารถเดาคำศัพท์ล่วงหน้าที่เราจะพิมพ์ได้ด้วย แถมยังรองรับภาษาไทยด้วยนะ
– เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของ Message สามารถอัดเสียงส่งเป็นข้อความเสียงได้ รวมไปถึงส่งเป็นไฟล์วิดิโอ อีกทั้งยังสามารถคุยเป็นกลุ่มใน Message ได้ด้วย ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับแอพแชทอย่าง LINE เลยทีเดียว
– เพิ่มฟีเจอร์ HealthKit ที่ทำให้ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพผู้ใช้งานได้มากขึ้น
– ฟีเจอร์ Family Sharing สามารถแชร์ให้กับครอบครัวได้สูงสุดไม่เกิน 6 คน เกี่ยวกับการซื้อของบน App Stores หรือ iTunes Store ช่วยให้ทางครอบครัวได้รับทราบก่อนจะมีการซื้อแอพฯใดๆ และยังแชร์รูป หรือ Location ให้ได้ด้วย
– Photos มีลูกเล่นเพิ่มเติม และยังใส่ Filter ได้เยอะขึ้น เทียบเคียงกับแอพฯแต่งรูปทั้งหลายได้เลย
– ปรับปรุง Siri ใหม่ สามารถใช้งานได้โดยการพูดคำว่า “Hey, Siri” และยังค้นหาเพลงผ่าน Shazam จาก Siri ได้ด้วย
– ปรับราคา iCloud ใช้ฟรีได้ 5 GB แต่ถ้าเกินนี้จะคิดราคา 20 GB = 30 บาทต่อเดือน, 200 GB = 120 บาทต่อเดือน
– ผู้พัฒนาแอพฯ สามารถขายแอพฯเป็นชุดได้
– ฟีเจอร์ใหม่ Extensibility สามารถส่งข้อมูลข้ามแอพฯได้
– รองรับ Keyboard จาก 3rd Party สามารถใช้งาน keyboard ได้หลากหลายยิ่งขึ้น
– Touch ID นำไปใช้งานใน App Store ได้
– Metal เครื่องมือพัฒนาเกม ประมวลผลเร็วขึ้น ภาพสวยขึ้น
– เพิ่มภาษา Swift สำหรับนักพัฒนา มีความเร็วในการประมวลผลมากขึ้น
– เปิดตัว HomeKit ระบบสำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

iOS 8 นี้ได้ปล่อยให้นักพัฒนาดาวน์โหลดเวอร์ชั่น Beta ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ใช้งานทั่วไปจะเริ่มดาวน์โหลดได้ช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ iOS 8 มีดังนี้

iPhone : iPhone 4S / iPhone 5 / iPhone 5C / iPhone 5S
iPod : iPod touch 5th generation
iPad : iPad 2 / iPad with Retina display (iPad 4) /  iPad Air / iPad mini / iPad mini with Retina (iPad mini 2)

ทีนี้เรามาดูในเรื่องของตัวเลขที่ Apple ได้เอามาอวดกันบ้าง เป็นสถิติของทาง Apple เขาล่ะ

– OS X มียอดการดาวน์โหลดเวอร์ชั่นใหม่ อย่าง OS X Mavericks  ถึง 51% ในขณะที่ยอดของ Window มีเพียง 14%
– มีผู้ใช้ Mac แล้วกว่า 80 ล้านเครื่อง
– ยอดขาย iPod Touch 100 ล้านเครื่อง, iPad 200 ล้านเครื่อง, และ iPhone 500 ล้านเครื่อง
– ยอดผู้อัพเกรด iOS มี 89% แต่ Android Kitkat มีเพียง 9% เท่านั้น และยังพบ Malware บนอุปกรณ์ที่ใช้ Android ถึง 99%

สรุปงาน WWDC 2014 ได้แบบรวบยอดก็มีประมาณเท่านี้ หลักๆ เลยในงานก็มีการพูดถึง OS X Yosemite กับ iOS 8 ซึ่งอุปกรณ์ที่จะมีการเปิดตัวหลังจากนี้ก็คงรองรับการใช้งานของทั้งสองระบบนี้แล้ว และ iPhone6 เอย iWatch เอยก็คงจะมีการเปิดตัวไม่ทิ้งห่างกันนัก หลังจากที่ได้ดาวน์โหลด OS X Yosemite กับ iOS 8 ในช่วงกันยายนแล้ว คงมีอะไรให้เราได้ลุ้นเกี่ยวกับอุปกรณ์ใหม่ๆของ Apple กันบ้างนะ

Source : theverge | engadget