อุทาหรณ์!! แม่ชาร์จมือถือทิ้งไว้ ก่อนไฟช็อตไหม้สายไฟ เคราะห์ร้ายคลอกลูกสาววัย 5 ขวบ ย่างสดตายทั้งเป็น แม่รอดหวุดหวิด

อุทาหรณ์!! แม่ชาร์จมือถือทิ้งไว้ ก่อนไฟช็อตไหม้สายไฟ เคราะห์ร้ายคลอกลูกสาววัย 5 ขวบ ย่างสดตายทั้งเป็น แม่รอดหวุดหวิด

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ จากที่เราเคยเตือนกันมาโดยตลอดสำหรับภัยและอันตรายที่อยู่เสมือนเงาในยามที่เราชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ หรือแม้กระทั่งการเล่นสมาร์ทโฟนไปขณะชาร์จแบตเตอรี่ ล่าสุดนี้ เราได้ไปพบข่าวอันน่าสะเทือนใจเป็นอย่างมาก และเราขอนำมาฝากเพื่อนๆ กันในวันนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกรณีที่จะเตือนสติเพื่อนๆ หลีกเลี่ยงจากการกระทำดังกล่าว ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และอาจเกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและถึงแก่ชีวิตได้ดังกรณีนี้ค่ะ

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ร.ต.อ.วิเชียร ปากกล้า พงส. สภ.แม่ปิง เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเชียงใหม่ ว่า เกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเลขที่ 5/1 ซอยหลังปั๊มน้ำมันบางจาก หมู่ 1 ต.หนองป่าครั่ง มีเด็กติดอยู่ในบ้าน ต่อมาทางได้นำกำลังรุดไปสอบสวน พร้อมกับ พ.ต.อ.ณธีพัฒน์ อัครพงศ์ธิติ ผกก.สภ.แม่ปิง เมื่อไปถึงพบรถดับเพลิงจากเทศบาลนครเชียงใหม่ และจากเทศบาลหนองป่าครั่ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง เพลิงได้ลุกไหม้นานเกือบ 45 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เมื่อเข้าไปเคลียร์ซากกองเพลิงพบศพ ด.ญ.ชนัญธิดา หรือน้องส้มเช้ง ปันอินแก้ว อายุ 5 ปี ถูกเพลิงไหม้เสียชีวิตในกองเพลิง ดำเป็นตอตะโก ส่วนค่าเสียหายครั้งนี้ ประมาณ 5 แสนบาท

จากการสอบสวน นางอารีย์ ไชยศรี อายุ 31 ปี แม่ของเด็ก และเป็นเจ้าของบ้าน ให้การว่า มีอาชีพขายดอกไม้อยู่หน้าบ้าน ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมกับลูกสาวนอนอยู่ห้องนอนชั้น 2 ด้วยกัน 2 คน ชั้นล่างมีญาติมาพักอยู่ด้วยกัน 1 คน ก่อนเข้านอนได้ชาร์จโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ จนแบตเต็มก็ไม่ได้ถอดโทรศัพท์มือถือออกมา เสียสายชาร์จคาไว้ จนกระทั่งดึกมาเกิดไฟฟ้าช็อตที่สายชาร์จโทรศัพท์มือถือ แล้วลุกลามไปติดเสื่อน้ำมัน ลุกลามเร็วมาก

“ดิฉันพยายามลากเสื่อน้ำมัน และที่นอนที่ติดไฟออกมาจากห้องนอน เพราะนึกว่าคงไม่ไหม้ไฟมากนัก แต่ปรากฏว่า เสื่อน้ำมันติดไฟเร็วและลุกลามไหม้ทั้งห้องนอน รวมทั้งลูกสาวที่นอนอยู่ จึงเข้าไปเอาลูกสาวออกมาจากจากกองเพลิงไม่ได้ กระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยเหลือนำดิฉันออกมาจากบ้านได้หวุดหวิด” นางอารีย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุจากการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ให้แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนศพน้องส้มเช้งได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจ อป.พร. นำส่งไปให้แพทย์ภควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ชันสูตรอีกครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.thairath.co.th