รีวิว realme 7 Pro จอใหญ่ 6.4 นิ้ว ขุมพลัง Snapdragon 720G แบตอึด 4500mAh ชาร์จเหนือขั้น 65W ในราคาหมื่นต้น ๆ!!

รีวิว realme 7 Pro จอใหญ่ 6.4 นิ้ว ขุมพลัง Snapdragon 720G แบตอึด 4500mAh ชาร์จเหนือขั้น 65W ในราคาหมื่นต้น ๆ!!

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนทรงพลังในทุก ๆ ด้าน ทั้งจอใหญ่ กล้องสวย แบตอึด ชาร์จไว สเปกดี วันนี้เรามีบทความรีวิว realme 7 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวล่าสุดมาฝากให้ได้ชมกัน

realme 7 Pro ชูสโลแกน “65W สู่การชาร์จที่เหนือขั้น” เป็นสมาร์ตโฟนทรงพลังในทุกด้านที่มาพร้อมนวัตกรรม 65W SuperDart Charge ชาร์จเร็วเต็ม 100% ในเวลาเพียง 34 นาที แบตเตอรี่ความจุสูง 4500mAh จอใหญ่ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ครอบกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass และฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 720G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz มีหน่วยความจำ RAM 8GB คู่ความจุ ROM 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB กล้องหลัง AI 4 ตัว สุดคมชัด 64MP + 8MP + 2MP + 2MP

เซ็นเซอร์หลักใช้ของ Sony IMX682 มาครบทั้งเลนส์ Ultra Wide-Angle, B&W Portrait และ Macro Lens มีระบบกันสั่นแบบ UIS และ UIS Max ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูง 32MP รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด

และพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ลำโพงสตอริโอคู่ กระจายเสียงรอบทิศทาง รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res พร้อมเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกด้วยที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพระดับสากลโดย TüV Rheinland

realme 7 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mirror Silver และ Mirror Blue ราคาจำหน่ายเพียง 10,990 บาท มาพร้อมดีไซน์ระดับโปรยกระดับด้วยกระบวนการผลิต AG พื้นผิวฝาหลังคล้ายคลึงกับแผ่นซีดีสุดคลาสสิค

โดยเริ่มวางจำหน่ายแล้วในไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ อาทิ Lazada, Shopee, This Shop, JD Central, BaNANA, TG FONE, CSC และ Jaymart รับฟรี! ของแถม realme 7 Pro Jet Black Bag

พิเศษสุด! สำหรับลูกค้า AIS, TrueMoveH และ dtac เป็นเจ้าของ realme 7 Pro ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 12 เดือนอีกด้วย ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปก realme 7 Pro

Features	realme 7 Pro
วันเปิดตัว :	– กันยายน 2563
ราคา :	– 10,990.- (ณ วันที่ 24 ก.ย. 63)
OS :	– Android 10 ครอบทับ realme UI
หน้าจอ :	– หน้าจอ Super AMOLED
	– ขนาด 6.4 นิ้ว
	– ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล
	– กระจก Corning Gorilla Glass
CPU :	– Snapdragon 720G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz
GPU :	– GPU Adreno 618
RAM :	– 8GB
ROM :	– 128GB
	– microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :	– 64MP + 8MP + 2MP + 2MP
	– Sony IMX682 + Ultra Wide-Angle + B&W Portrait + Macro Lens
	– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.3 + f/2.4 + f/2.4
	– LED flash
	– กันสั่น UIS
	– PDAF
	– HDR
	– Panorama
กล้องหน้า :	– 32MP
	– ค่ารูรับแสง f/2.5
Video :	– 4K@30fps, 1080p@30/60/120fps
Battery :	– 4500mAh สนับสนุน 65W SuperDart Charge
ขนาด :	– 160.9×74.3×8.7 มม.
น้ำหนัก :	– 182 กรัม
รองรับซิม :	– Dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz
	– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
	– Bluetooth 5.0
	– OTG
	– USB Type-C
GPS :	– GPS
	– A-GPS
	– GLONASS
Sensor :	– Fingerprint Under Display
	– Accelerometer
	– Gyro
	– Proximity
	– Compass
สี :	– Mirror Silver
	– Mirror Blue

แกะกล่อง realme 7 Pro

realme 7 Pro บรรจุมาในกล่องสีเหลืองขนาดกะทัดรัด ตรงกลางระบุชื่อรุ่น 7 Pro ไว้แบบชัดเจน ถัดมาด้านล่างเป็นชื่อแบรนด์ realme

ด้านหลังกล่องบรรจุ มีข้อมูลโมเดลรุ่น, สีตัวเครื่อง, รุ่นความจุ RAM และ ROM, เลข IMEI เครื่อง พร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ ระบุเอาไว้ โดย realme 7 Pro ชูเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 720G, กล้องหลัง AI 4 ตัว เซ็นเซอร์หลักความละเอียดสูง 64MP และใช้หน้าจอ Super AMOLED แบบ Full Screen ขนาดใหญ่ 6.4 นิ้ว

อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย

– realme 7 Pro ตัวเครื่องสี Mirror Blue
– สายชาร์จ USB Type-C
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน 65W SuperDart Charge
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน

เคสกันรอยที่แถมมาให้เป็นซิลิโคนแบบใสสีออกขุ่น ๆ หน่อยค่ะ โชว์ดีไซน์ด้านหลังกันแบบชัด ๆ

realme 7 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 4500mAh โดยได้รับการพัฒนาแบตเตอรี่ไปอีกขั้นสู่การชาร์จแบบ 65W SuperDart Charge ซึ่งเคลมว่าสามารถชาร์จเต็ม 100% ใช้เวลาเพียง 34 นาทีเท่านั้น หรือใช้เวลาเพียง 3 นาที ก็ชาร์จได้ถึง 13% เพิ่มประสบการณ์ชาร์จที่เหนือขั้นขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันสมาร์ตโฟนจะมีอุณหภูมิคงที่และไม่สูงจนเกินไป ทำให้ตัวเครื่องไม่ร้อนง่าย

ตัวอย่างขณะชาร์จ

สำหรับการชาร์จ realme 7 Pro ชาร์จแบตเตอรี่โดยตรงด้วย Adapter 10V 6.5A ควบคุมด้วยอัลกอริธึมการชาร์จเร็วสำหรับกระบวนการปล่อยไฟของ SuperDart ผ่านพอร์ตสายชาร์จ USB Type-C แบตเตอรี่เป็นแบบ Dual 3C Cells แบ่งเซลล์หลักออกเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 2250mAh ซึ่งการชาร์จทั้งหมดมีระบบการควบคุม และระบายความร้อนป้องกันอุณหภูมิสูง ทำให้การจ่ายไฟมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น

ทำความรู้จัก realme 7 Pro

ด้านหน้า realme 7 Pro มาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาดใหญ่เต็มตา 6.4 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 ความละเอียดคมชัดระดับ Full HD+ อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 90.8% มีค่าความสว่างสูงสุด 600nits และช่วงสี 98% NTSC

โดยหน้าจอ OLED นี้จะให้คุณภาพของจอภาพและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีกว่าเดิมเมื่อเทียบกับหน้าจอ LCD และตอบสนองได้ดีกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลที่รวดเร็วกว่าอีกด้วย พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลรุ่นล่าสุดจาก Goodix พร้อมตัวกรองแสง ช่วยเปลี่ยนจากแสงสีเขียวเป็นสีขาว มีการพัฒนาความแม่นยำ ความเร็ว และประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย

ด้านหน้าส่วนบน มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่แบบ In-Display ความละเอียดสูง 32MP ติดตั้งที่มุมซ้ายบน พร้อมโหมดการใช้งานเพียบ อาทิ AI Beauty และโหมด Super Nightscape ซึ่งในส่วนนี้เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันในโหมดการใช้งานกล้องหน้านะคะ ขอบจอบางเฉียบ เหนือหน้าจอมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับค่ะ

ด้านหลัง ตัวเครื่องใช้ดีไซน์ระดับโปรที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงสะท้อนแห่งธรรมชาติ มีความสวยสง่างาม ดีไซน์พื้นผิวด้าน Anti-Glare ให้สัมผัสระดับพรีเมียม แบ่งรอยแยกหนาบนฝาหลังให้ความรู้สึกมีเอกลักษณ์แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

ทั้งยังยกระดับด้วยกระบวนการผลิต AG ช่วยให้พื้นผิวฝาหลังคล้ายคลึงกับแผ่นซีดีสุดคลาสสิคอีกด้วย โดยตัวเครื่องของ realme 7 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mirror Blue และ Mirror Sliver

นอกจากนี้ realme 7 Pro ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกด้วยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทุกด้านจาก TÜV Rheinland Smartphone Reliability ซึ่งเป็นองค์กรอิสระด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมหลากประเภทในระดับสากล มีการทดสอบส่วนสำคัญ 22 ส่วน และส่วนอื่น ๆ อีก 38 ส่วน ถือได้ว่าครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้ใช้แต่ละคนเลยก็ว่าได้

ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วยเลนส์กล้องหลัง 4 ตัว จัดวางกันในโมดูลสี่เหลี่ยมแนวตั้งที่มุมซ้ายบน โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งซ้าย ประกอบด้วย เลนส์ Ultra Wide-Angle, เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX682 และเลนส์  Portrait B&W ถัดมาทางฝั่งขวา ประกอบด้วย เลนส์ Macro และไฟแฟลช LED พร้อมข้อความสกรีนระบุไว้ว่า 64MP AI Camera

ลำดับเลนส์กล้องด้านหลังของ realme 7 Pro เริ่มจากเลนส์บนสุด มีดังนี้ค่ะ

• กล้องตัวที่ 1 : เลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสงขนาด f/2.3 สามารถเก็บภาพมุมกว้าง 119 องศา

• กล้องตัวที่ 2 : เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX682 ความละเอียด 64MP ค่ารูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ 1/1.73 นิ้ว รองรับ Quad Bayer พิกเซลใหญ่ถึง 1.6μm ทำให้ได้ภาพสวยคมชัดแม้ถ่ายในที่แสงน้อย เซ็นเซอร์มีความแม่นยำสูงในการตรวจจับแสง

• กล้องตัวที่ 3 : เลนส์ Portrait B&W ค่ารูรับแสง f/2.4 ตรวจจับแสงกว้างขึ้น สร้างภาพสไตล์ Retro และเพิ่มรายละเอียดให้กับภาพ Portrait

• กล้องตัวที่ 4 : เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพ Macro ในระยะใกล้ 4 ซม.

เลนส์กล้องหลังจะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อสวมใส่เคสจะพอดีกับตัวเครื่องเลยค่ะ

ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้แบรนด์ realme 

ด้านบนตัวเครื่อง มีเพียงรูไมโครโฟน

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย แจ็คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และช่องใส่ถาดซิมการ์ด

โดยช่องใส่ถาดซิมการ์ด จะอยู่บนสุดเลยค่ะ

โดย realme 7 Pro มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM พร้อมกับเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB ค่ะ

ด้านขวาตัวเครื่อง พบแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่องค่ะ

Performance

เมื่อนำ realme 7 Pro ที่มาพร้อม Snapdragon 720G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 618 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ realme UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชั่น Geekbench 5 และ CPU-Z พบว่าสามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 576 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1776 คะแนน

ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 3760MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 99.12GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ หน้าจอ Full HD+ ความเร็ว GPU อยู่ที่ 267 MHz เป็นต้น

สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง PUBG MOBILE เกมแนว Survival สุดฮิต มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ พบว่า realme 7 Pro สามารถเล่นได้แบบเพลิน ๆ เลย ภาพกราฟิกสวยสมจริง ระบบทัชสกรีนตอบสนองได้ดี ไม่หน่วง ไม่สะดุด ตัวเกมมีความลื่นไหล ภาพคมชัดสมจริง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นมากยิ่งขึ้น

ส่วนด้านความบันเทิง ด้วยความที่ไม่มีรอยบากหรือรอยหยดน้ำใด ๆ ทำให้รับชมได้อย่างเต็มตา กล้องหน้า In-Display ก็ไม่บดบังรายละเอียดใด ๆ เลยบนจอแสดงผล

Interface

เริ่มกันที่หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน เพื่อกดรหัสผ่านที่ตั้งไว้ หรือเข้าใช้โหมดโทรฉุกเฉิน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น แต่สำหรับใครที่ลงทะเบียนฟีเจอร์ Face Unlock หรือสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลแล้ว จะมีไอคอนปรากฏบนหน้าจอ ก็สามารถสแกนได้เลยทันที

หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอมาแล้ว จะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าใช้งานได้ภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องถูกจัดวางเป็นระเบียบไม่รก UI แบบใหม่จาก realme ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ให้สีสันสดใสมากขึ้น สามารถปรับแต่งไอคอนได้เอง

เมื่อกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และตั้งค่าการใช้งานหน้าจออื่น ๆ ได้ หรือหากต้องการลบแอปฯ ก็ให้กดค้างไปที่แอปฯ นั้น ๆ แล้วจะปรากฏข้อความให้ลบ

หากปัดหน้าจอขึ้นด้านบนจะพบกับหน้ารวมเมนูการใช้งานทั้งหมดในเครื่อง หรือหากเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings มีเมนูแถบแจ้งเตือน และสามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีให้ใช้งานครบครัน อาทิ แผนที่, Google Chrome, Gmail, YT Music หรือ YouTube เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้จาก Google Play หรือ App Market ได้อีกด้วย

รองรับ Google Assistant สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียง

เปลี่ยนธีมสวย ๆ ที่มีทั้งให้ดาวน์โหลดฟรี และมีค่าใช้จ่ายได้ง่าย ๆ ที่ ร้านขายธีม รวมถึงดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Game Center และ App Marget

มี Hot Apps และ Hot Game แนะนำเกมหรือแอปฯ ยอดนิยม รองรับ realme Link เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ กับสมาร์ตโฟนได้อย่างง่ายดาย และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องจะเป็นการเรียกใช้งาน Google Assistant แบบเร่งด่วน

ส่วนเครื่องมือการใช้งานมีให้ใช้งานครบเลย อาทิ เครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศ

เครื่องคิดเลข, แอปฯ วัดสภาพอากาศ, ระบบคลาวด์ HeyTap

รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วทำง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

แอปฯ O Roaming, นาฬิกาปลุก, โปรแกรมจัดการไฟล์ภายในเครื่อง

เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ

Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส และทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง เป็นต้น

เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง

รองรับการปรับโทนความสว่าง และอุณหภูมิสีของหน้าจอได้เอง มีโหมดกลางคืนใช้งานหน้าจอโทนสีมืด และรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดถนอมสายตาตอนกลางคืนเพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งาน

มีโหมดจอสีภาพ ปรับได้ทั้งแบบสดใส เจิดจ้า และแบบอ่อนโยนเรียบง่าย พร้อมรองรับลูกเล่นภาพ OSIE

สำหรับฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัย realme 7 Pro รองรับทั้งฟีเจอร์สแกนใบหน้า และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ซึ่งก่อนจะใช้งานต้องตั้งรหัสผ่านชั้นแรกกันก่อนนะคะ

รองรับบริการ Smart ผู้ช่วยด้านการขับขี่แบบชาญฉลาด ปิดกั้นการแจ้งเตือนต่าง ๆ

มีเครื่องมืออำนวยความสะดวก ต่าง ๆ อาทิ การใช้งาน Google Assistant ด้วยปุ่มพาวเวอร์, การใช้แถบด้านข้างอัจฉริยะ และการใช้ปุ่มนำทาง เป็นต้น ถัดมาเป็นหน้าอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ๆ และหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับตัวสมาร์ตโฟน

รองรับโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยระบบจะปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อหยุดการทำงานอันเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว, มีการลดความสว่างของหน้าจอลง, ปิดการสั่นสะเทือนเมื่อแตะไปที่ไอคอนต่าง ๆ สามารถเลือกการประหยัดพลังงานได้ หรือการใช้โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง เป็นต้น

ส่วนนี้เป็นไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์

รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

รองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ สามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ ใช้ 3 นิ้วลากบนหน้าจอ และกดไปที่ปุ่ม Recent Apps เป็นต้น

realme Lab ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเบต้าได้

รองรับ Game Space ใช้ตั้งค่าต่าง ๆ ขณะเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็น ปิดกั้นการแจ้งเตือน, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, ตั้งค่าโหมดเกม, ตั้งค่าแบตเตอรี่ เป็นต้น

หรือหากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะปรากฎหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ การเคลียร์แอปฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง พร้อมสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ หรือใช้งาน 2 หน้าจอได้ง่าย ๆ

หากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ค้างไว้ราว 5 วินาที จะปรากฏไอคอนรีสตาร์ท และปิดเครื่อง หรือล็อกเครื่องแบบนิรภัยขึ้นมา พร้อมสามารถถ่ายโอนข้อมูลภายในเครื่องได้อย่างรวดเร็วเมื่อเสียบสายชาร์จ USB Type-C เข้ากับตัวเครื่องแล้วต่อเข้าคอมพิวเตอร์ ส่วนการชาร์จต้องบอกว่าเร็วมาก ๆ ส่วนไอคอนขณะชาร์จจะปรากฏตามรูปภาพเลยค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

เริ่มที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้ากันก่อนเลยค่ะ โดย realme 7 Pro มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP ค่ารูรับแสง f/2.5 ที่มาพร้อมโหมดการใช้งานมากมายเอาใจสายเซลฟี่

เริ่มต้นด้วย Super Nightscape Selfie เซลฟี่สวยคมชัดทุกองศาแม้แสงน้อย ภาพที่ได้จะมีความสว่างมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อยู่ พร้อมสามารถเปิดไฟแฟลช และมีโหมด AI Beauty ปรับค่าสวยเนียนได้ทันใจ มีให้เลือกปรับทั้ง ความเนียน, ใบหน้าเรียว, ดวงตากลมโต, จมูกเรียวเป็นสัน, รูปคาง, ใบหน้าเล็ก, เสริมแต่งให้ใบหน้าสวยขึ้น และแบบ 3 มิติ โดยเลือกปรับได้ถึง 100 ระดับเลยค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Nightscape Selfie

ถัดมาเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ รองรับการบันทึกที่ความละเอียดระดับ HD หรือ 720p และ Full HD หรือ 1080p รองรับกันสั่น UIS พร้อมรองรับ AI Beauty ที่สามารถปรับค่าผิวสวยเนียนได้สูงสุด 100 ระดับ และปรับฉาก Bokeh หรือความเบลอของฉากหลังได้ 100 ระดับเช่นกัน ปรับหน้าชัดหลังเบลอได้ตามใจชอบเลย

ซึ่งการเบลอฉากหลังเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอ ทำให้ถ่ายวิดีโอเอ็ฟเฟ็กต์โบเก้ได้แบบเรียลไทม์ และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย เพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายได้มากยิ่งขึ้น

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR ให้ภาพสวยคมชัดมากยิ่งขึ้น, ปรับค่าสวยเนียนด้วย AI Beauty ที่ปรับได้มากถึง 100 ระดับ พร้อมเลือกปรับรายละเอียดยิบย่อยได้ และรองรับฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานมากมายเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty

ปรับ AI Beauty ระดับ 50

ปรับ AI Beauty ระดับ 100

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode

โหมด Portrait สำหรับใช้ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังละลาย หรือ Bokeh รองรับการปรับค่าผิวสวย AI Beauty ได้ 100 ระดับเช่นกัน พร้อมปรับความเบลอของฉากหลังได้เอง และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานเช่นกัน

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

ภาพถ่าย Portrait ปรับ AI Beauty ระดับ 50

ภาพถ่าย Portrait ปรับ AI Beauty ระดับ 100

ภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter

ด้านโหมดถ่ายภาพพิเศษของกล้องหน้า มีให้เลือกใช้งาน 3 โหมด ได้แก่ ถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Motion รองรับการบันทึกที่ระดับ 1080p@120fps

เซลฟี่แบบ Panorama ให้มุมมองที่กว้างขึ้น และถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse

มาต่อกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดย realme 7 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูง 64MP (Sony IMX682) + 8MP (Ultra Wide-Angle) + 2MP (B&W Portrait) + 2MP (Macro Lens) ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.3 + f/2.4 + f/2.4

โดยเซ็นเซอร์หลักใช้ของ Sony IMX682 สามารถตรวจจับแสงด้วยความแม่นยำสูง ด้วยตัวเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.73 นิ้ว ความละเอียดสูง 64MP รองรับ Quad Bayer รายละเอียดภาพสูงถึง 1.6 μm ทำให้ได้ภาพสวยคมชัดแม้ถ่ายในที่แสงน้อย เลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8MP ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา จับภาพวิวทิวทัศน์ สิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรม หรือแม้กระทั่งกลุ่มคนจำนวนมากได้อย่างสะดวกสบาย

ถัดมาเป็นเลนส์ Portrait B&W ระบบฟิลเตอร์สีใหม่ช่วยให้เลนส์ถ่ายภาพบุคคลตรวจจับแสงได้กว้างขึ้น เพิ่มความต่างของภาพ พร้อมสร้างภาพสไตล์ Retro และเพิ่มรายละเอียดให้กับภาพ Portrait อย่างเด่นชัด และสุดท้ายเป็นเลนส์ Marco ช่วยให้ถ่ายภาพมาโครได้ในระยะใกล้ถึง 4 ซม. ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันเลยค่ะ

เริ่มที่โหมด Pro Nightscape ที่สามารถปรับชัตเตอร์ ISO สมดุลแสงขาว และพารามิเตอร์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยกล้องหลักคุณภาพความละเอียดสูง 64MP และอัลกอริธึมแบบหลายเฟรม ช่วยเพิ่มความคมชัดที่มากขึ้น ทำให้ถ่ายภาพกลางคืนได้เพลิดเพลิน ได้ภาพสวย คมชัด เป็นธรรมชาติ สามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่า มีโหมดขาตั้งกล้อง เพิ่มความนิ่งให้กับภาพถ่าย

สามารถกดไปที่โหมด Pro ที่มี 4 ฟังก์ชันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ภาพถ่าย ได้แก่ ชัตเตอร์, ความไวแสง ISO, ระยะโฟกัส และสมดุลแสงขาว หรือจะสลับใช้กับกล้อง AI ก็ได้ พร้อมรองรับโหมด Starry Mode หรือโหมดสำหรับถ่ายภาพดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืนโดยเฉพาะ

โหมดนี้จะใช้อัลกอริทึม AI เพื่อเพิ่มความคมชัดและความสว่างของดวงดาวอย่างชาญฉลาด ทำให้ได้ภาพถ่ายดวงดาวอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมาพร้อม Night Filters หรือฟิลเตอร์กลางคืนยอดนิยมถึง 3 ตัว ได้แก่ Cyberpunk, Flamingo และ Modern Gold ช่วยเพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพกลางคืนยิ่งขึ้น และสร้างภาพถ่ายที่แนวมากขึ้นด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Pro Nightscape

จากนั้นเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ อัตราเฟรมบันทึกวีดีโอระดับ 4K@30fps, 1080P@120fps และ 720p@240fps ซูมได้สูงสุด 10 เท่า รองรับการเปิดไฟแฟลช พร้อม AI Beauty ที่ปรับค่าผิวเนียนได้สูงสุด 100 ระดับ และหากกดไปที่มุมขวาบนบริเวณ 3 ขีด จะมีโหมด Ultra Night ให้เลือกใช้งานด้วย

พร้อมรองรับกันสั่นพิเศษ UIS และ UIS Max สามารถปรับ Bokeh ได้สูงสุด 100 ระดับ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้วิดีโอมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สีต่าง ๆ ให้เลือกใช้งาน

โหมดถ่ายภาพปกติ ซูมได้สูงสุด 10 เท่า รองรับ AI Beauty สำหรับเพิ่มความขาวเนียนหากถ่ายภาพบุคคล

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty Mode

ปรับ AI Beauty ระดับ 50

ปรับ AI Beauty ระดับ 100

พร้อมรองรับการเปิดไฟแฟลช, HDR ภาพสวยคมชัดขึ้น, AI Dazzle Color เพิ่มสีสดให้กับภาพถ่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานเพียบ

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Dazzle Color

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode

ถัดมาเป็นโหมด Portrait ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลออย่างมืออาชีพ มาพร้อมระบบฟิลเตอร์สีใหม่ช่วยให้เลนส์ถ่ายภาพบุคคลตรวจจับแสงกว้างขึ้น ช่วยให้บุคคล หรือวัตถุดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น รองรับ AI Beauty และสามารถปรับระดับความเบลอได้เองถึง 100 ระดับ โดยภาพที่ได้จะเป็นฉากหน้าชัดหลังละลายแบบเป็นธรรมชาติ

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter

โหมด Ultra Clear 64MP ด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX682 ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ และอัลกอริทึมที่ถูกพัฒนาความละเอียดสูงพิเศษใหม่ ทำให้เราได้ภาพที่มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถสลับระหว่างโหมด AI และโหมด Pro ได้แบบง่าย ๆ ซึ่งในโหมด Pro เราสามารถปรับค่าความละเอียดของกล้องได้สูงสุด 64MP พร้อมเปิดใช้งาน AI Dazzle Color เพิ่มสีสดให้กับภาพถ่ายได้อีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Clear 64MP

ด้านโหมดการใช้งานพิเศษรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่ Google Lens เป็นเทคโนโลยีการจดจำภาพที่พัฒนาโดย Google ออกแบบมาเพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องกับวัตถุที่ระบุ โดยใช้การวิเคราะห์ภาพตามเครือข่าย โหมดถ่ายวิดีโอ Time Lapse หรือบันทึกวิดีโอแบบเร่งเวลานั่นเอง

โหมดบันทึกวิดีโอภาพยนตร์ บันทึกวิดีโอแบบแนว ๆ ได้ทั้งมุมปกติ และมุมกว้าง เปิดกันสั่นได้ง่าย ๆ เพียงสัมผัสเดียว และปรับค่าต่าง ๆ ทางฝั่งขวามือได้เอง

ระบบสแกนข้อความ จับภาพ Text ข้อความต่าง ๆ, โหมด Macro ถ่ายได้ใกล้สุดในระยะ 4 ซม. พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ, โหมดบันทึกวิดีโอ Slo-Mo รองรับที่ระดับ 240fps และ 120fps และสามารถเปิดไฟแฟลช LED เพื่อเพิ่มความสว่างได้

ตัวอย่างภาพถ่าย Macro

ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo

โหมด Pro สามารถปรับค่าแสง White Balance, ISO หรือระบบ Auto Focus ได้เอง เพื่อสร้างภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด และสุดท้ายเป็นโหมด Panorama จับภาพมุมกว้างได้แบบเต็มตามากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก realme 7 Pro

 

สรุป

• realme 7 Pro มาพร้อมกับสโลแกน “65W สู่การชาร์จที่เหนือขั้น”

• ราคาจำหน่ายไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับคุณภาพ และประสิทธิภาพที่ได้มา

• แบตเตอรี่ความจุสุง 4500mAh เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge

• ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 720G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz ชิปเซ็ตเล่นเกมขนาด 8 นาโนเมตร ผสาน GPU Adreno 618

• หน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุด 256GB

• รองรับ realme UI บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อประสบการณ์ Android ที่ดีขึ้น และใช้งานได้ง่ายดาย

• จอบิ๊ก Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ พร้อมฝังสแกนนิ้วใต้จอที่แม่นยำและรวดเร็ว

• กล้องหลัก 4 เลนส์ ความละเอียดสูง 64MP เซ็นเซอร์ Sony IMX682 + เลนส์ Ultra Wide-Angle 8MP + เลนส์ B&W Portrait 2MP + เลนส์ Macro Lens 2MP สีสันสดใส คมชัดมากขึ้น ฟังก์ชันเยอะขึ้น มาพร้อมโหมดการใช้งานเพียบ อาทิ Starry Mode, Pro Nightscape Mode, Ultra Nightscape Video และโหมดความละเอียด 64MP เป็นต้น มีกันสั่นแบบ UIS และ UIS Max

• กล้องหน้า In-Display ความละเอียด 32MP พร้อม AI Beauty และรองรับโหมด Nightscape ภาพเซลฟี่ออกมาสวยคมชัด

• ลำโพงสเตอริโอคู่ขนาดใหญ่ กระจายเสียงรอบทิศ พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res

• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มีถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot

• ดีไซน์ผลิตโดยเทคโนโลยี AG มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mirror Silver และ Mirror Blue

• เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทุกด้านจาก TÜV Rheinland องค์กรอิสระด้านการตรวจสอบ และรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมหลากประเภทซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ข้อสังเกต

• ภายในกล่องไม่มีหูฟังแถมมาให้

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

• Huawei nova 7 SE
• OPPO Reno 4
• realme 6 Pro
• Samsung Galaxy A51
• Vivo V19
• Xiaomi Mi 9T

ขอขอบคุณ realme Thailand

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng