Facebook ล่มในไทยเพราะมีผู้ใช้งานมากกว่าปกติ

นายสุรชัย ศรีสารคราม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 พ.ค.นี้จะเชิญผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) และสื่อสังคมออนไลน์เข้าร่วมหารือเพื่อวางมาตรการรับมือหากเกิดระบบล่ม หลังจากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ไม่สามารถใช้เฟซบุ๊กได้ทั่วประเทศเป็นเวลา 1ชั่วโมง
ทั้งนี้ ได้ยกระดับการดูแลสื่อแบบเข้มข้นผ่านคณะทำงานด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล มีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ การใช้เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ และขอความร่วมมือผู้ใช้สื่ออนไลน์ให้ระมัดระวังเนื้อหาที่จะโพสต์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาถูกระงับในภายหลัง
สำหรับกรณีเฟซบุ๊กล่ม พบว่า มีปัญหาในการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเฟซบุ๊กที่ต่างประเทศ (อินเทอร์เน็ต เกตเวย์) ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากมีผู้ใช้จำนวนมาก ทำให้ระบบล่ม
พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ที่ปรึกษาปลัดไอซีที หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์ กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการทำงานเพื่อตรวจสอบการใช้งานสื่อออนไลน์ทั้งหมด แต่ไม่เกี่ยวกับการปิดเฟซบุ๊ก และได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการใช้งานมากกว่าปกติ ทำให้การเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศมีปัญหา ขณะที่ตัวแทนของเฟซบุ๊กประเทศไทย ชี้แจงว่า ปัญหาเกิดจากระบบเชื่อมต่อของไอซีทีมีปัญหา อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเฟซบุ๊กที่สิงคโปร์ และจะมีการชี้แจงหลังจากนี้หลังมีรายละเอียดที่ชัดเจน

นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท โทรคมนาคม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์รายใหญ่ของไทย กล่าวยืนยันว่า แม้จะปิดเกตเวย์ของกสทฯ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตล่มทั้งประเทศ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่เฟซบุ๊กล่มครั้งนี้ เพราะเกต์เวย์ของกสทฯ ถูกสั่งระงับ
เช่นเดียวกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ส่งหนังสือชี้แจงว่า เนื่องด้วยขณะนี้ระบบการให้บริการของบริษัท มีปัญหาในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเฟซบุ๊ก ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถใช้งานได้ชั่วขณะหนึ่ง
ปัจจุบันในไทยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กประมาณ 28 ล้านคน หรือ 53% ของผู้ใช้เฟซบุ๊กทั่วโลก ถือว่ามีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก โดยเซิร์ฟเวอร์ของเฟซบุ๊กในภูมิภาคอาเซียนอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และไทยใช้งานผ่านเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวเช่นกัน