Huawei Mate 9 Pro สุดยอดเรือธงรุ่นจอขอบโค้ง สเปคไม่ธรรมดา จ่อเปิดตัว 3 พฤศจิกายนนี้

Huawei Mate 9 Pro สุดยอดเรือธงรุ่นจอขอบโค้ง สเปคไม่ธรรมดา จ่อเปิดตัว 3 พฤศจิกายนนี้

หลังจากที่มีเบาะแสมาว่า Huawei เตรียมจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตัวใหม่ล่าสุดส่งท้ายปีในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน โดยคาดกันว่าเรือธงรุ่นดังกล่าวจะเป็น Huawei Mate 9 และ Huawei Mate 9 Pro ที่ก่อนหน้านี้เจ้าพ่อข่าวลืออย่าง Evan Blass เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ @evleaks ก็เคยเผยภาพเรนเดอร์ออกมาทั้งหมด 2 เวอร์ชั่น ได้แก่รุ่นหน้าจอปกติ และหน้าจอขอบโค้งทั้งสองด้าน

ล่าสุดพบว่ามีภาพเรนเดอร์ของ Huawei Mate 9 รุ่นจอขอบโค้งหรือ Huawei Mate 9 Pro หลุดออกมาเพิ่มเติมให้ชมกันแบบชัดๆ แล้ว โดยพบว่ามาพร้อมหน้าจอขอบโค้งทั้งสองด้านแบบ dual curved screen ทั้งยังมาพร้อมกับกล้องหลังเลนส์คู่ที่พัฒนาร่วมกับ Leica ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลังใช้งานกับ Huawei P9 และ Huawei P9 Plus ทั้งยังระบุอีกด้วยว่า Huawei จะแบ่งการทำตลาดทั้ง 2 รุ่นบนฮาร์ดแวร์ชุดเดียวกัน เราไปชมสเปคการใช้งานที่เผยออกมาก่อนหน้านี้กันเลยค่ะ

Huawei Mate 9

– หน้าจอ IPS ขนาด 5.9 นิ้ว
– ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล
– ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
– CPU Hisilicon Kirin 960 Octa-core ความเร็ว 2.6GHz
– RAM 4GB และ 6GB
– ROM 64GB, 128GB และ 256GB
– รองรับ microSD สูงสุด 256GB
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 กันสั่น OIS
– กล้องถ่ายภาพใช้เลนส์ Leica แบรนด์ชั้นนำของโลก
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth v4.2, SB Type-C, NFC-
– แบตเตอรี่ความจุ 3000mAh รองรับ Super Charge

ทั้งนี้ จากข้อมูลระบุว่า Huawei Mate 9 Pro จะมาพร้อมหน้าจอขอบโค้งทั้งสองด้านขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (1440×2560 พิกเซล) ซึ่งอาจสนับสนุนการใช้งาน Daydream VR แฟลตฟอร์มจำลองประสบการณ์เสมือนจริงจาก Google (Huawei Mate 9 จะไม่รองรับฟีเจอร์นี้) และอาจมีให้เลือกมากถึง 6 เฉดสี

สำหรับราคาวางจำหน่ายข้อมูลก่อนหน้าระบุไว้ว่า Huawei Mate 9 จะวางจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นได้แก่ รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB, รุ่น RAM 4GB + ROM 128GB และรุ่น RAM 6GB + ROM 256GB มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ $480, $585 และ $705 หรือประมาณ 16,700 บาท, 20,400 บาท และ 24,600 บาท ตามลำดับ ส่วนจะเป็นจริงตามนี้หรือไม่เราคงต้องมาติดตามกันต่อไปค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.gsmarena.com, venturebeat.com, 9to5google.com