รีวิว realme Buds Air หูฟังไร้สายอัจฉริยะ!! เสียงดังกระหึ่มสะใจ ฟีเจอร์อัดแน่น รองรับ Bluetooth 5.0 และชาร์จไร้สาย

รีวิว realme Buds Air หูฟังไร้สายอัจฉริยะ!! เสียงดังกระหึ่มสะใจ ฟีเจอร์อัดแน่น รองรับ Bluetooth 5.0 และชาร์จไร้สาย

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ 🙂 ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ realme Thailand ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ realme 5i และอุปกรณ์หูฟังไร้สาย realme Buds Air ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังจากที่เราได้รีวิว realme 5i ให้ได้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว) วันนี้เราจะขอหยิบนำเอา realme Buds Air มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันบ้างนะคะ

โดยภายในปี 2020 นี้ realme ได้เดินหน้าอย่างเต็มที่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AIoT ภายใต้แนวคิด Dare to leap ประเดิมต้นปีด้วยการเปิดตัว realme Buds Air ที่สุดแห่งหูฟังไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน Android ชูคอนเซ็ปต์ “ตัวจริงการเชื่อมต่อแบบไร้สาย” พลังเสียงเต็มพิกัด ดีไซน์โดดเด่นทันสมัย ที่จะเชื่อมต่อทุกจังหวะของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ดีไซน์ Half-in Ear ใส่ง่ายสบาย รับสรีรศาสตร์ของหูได้เป็นอย่างดี

มาพร้อม Bass Boost Driver ขนาดใหญ่ถึง 12 มิลลิเมตร ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต R1 ที่มีความหน่วงต่ำ รองรับการใช้งาน Gaming Mode, Google Assistance และการสั่งการแบบอัจฉริยะที่สามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย

พร้อมกับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 รวดเร็วและมีเสถียรภาพ สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้สำหรับหูฟังในระดับราคาเดียวกันที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายมาตรฐาน Qi 10W

สำหรับ Wireless Charging Case ดีไซน์แบบโค้งมนน้ำหนักเพียง 42.3 กรัม บริเวณด้านหน้าของเคสจะมาพร้อมไฟ LED เพื่อแสดงผลระดับการชาร์จ อีกทั้งยังรองรับการชาร์จผ่าน Type-C อีกด้วย ขณะที่ตัวหูฟังมาพร้อมการออกแบบอย่างปราณีตให้มีความโค้งมนที่เข้ากับความโค้งเว้าของหูมากที่สุด โดยหูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเบาน้อยกว่ากระดาษ A4 ทำให้รู้สึกเบาสบายขณะสวมใส่ค่ะ

realme Buds Air มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 1,999 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2563 ผ่าน Brand Shop ทั่วประเทศ

พร้อมเปิด Flash Sale วันที่ 16 มกราคม 2563 ในราคาสุดพิเศษเริ่มต้นเพียง 1,799 บาท ผ่านช่องทาง Lazada และ Shopee พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค realme Buds Air

Features	realme Buds Air
วันเปิดตัว :	– มกราคม 2563
ราคา :	– 1,999.- (ณ วันที่ 15 ม.ค. 63)
ชิป :	– R1 Headphone Chips
การใช้งาน :	– ควบคุมและสั่งงานด้วยการสัมผัส
	– กด 2 ครั้ง = รับสาย/เล่น-หยุดเพลง
	– กด 3 ครั้ง = ข้ามไปเพลงถัดไป
	– กดค้างสักพัก = วางสาย/ปฏิเสธการรับสาย/ใช้ตัวช่วยสั่งการด้วยเสียง
	– กดค้างทั้ง 2 ข้าง = เข้า/ออก Gaming Mode
คุณสมบัติ :	– ดีไซน์ Half-in Ear ตามสรีระ
	– ใช้งานกับมือถือที่รองรับ Android 7.0 ขึ้นไป
	– เชื่อมต่ออัตโนมัติในครั้งถัดไป
	– Driver Bass แบบไดนามิค ขนาด 12 มม.
	– Dual Mic การใช้งานด้านเสียงมีคุณภาพ
	– ENC ลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอก
	– มีการปรับการใช้งานสำหรับ Gaming Mode และการเล่นวิดีโอ
	– กระจายเสียง 2 ช่องทางแบบ Real-time
	– ไมค์คู่ตัดเสียงรบกวน
ขนาด :	– 51.3×45.3×25.3 มม. (Charging Case)
น้ำหนัก :	– 42.3 กรัม (Charging Case)
	– 4.16 กรัม (Buds Air)
Battery :	– ใช้งานได้นาน 17 ชั่วโมง
	– ฟังเพลงได้ยาวนาน 3 ชั่วโมง
	– เช็คสถานะแบตเตอรี่ผ่านมือถือ
	– รองรับการชาร์จ Wireless Qi 10W
	– ชาร์จผ่าน Wireless Charging Case
	– Charging Case มาพร้อมไฟ LED แจ้งเตือนผลการชาร์จ
ระบบเชื่อมต่อ :	– Bluetooth 5.0
	– Google Fast Pair
	– USB Type-C
Sensor :	– Optical Sensor ตรวจจับการสวมใส่อัจฉริยะ
สี :	– ขาว

แกะกล่อง realme Buds Air

realme Buds Air บรรจุมาในกล่องสีเหลืองขนาดเล็กกะทัดรัด

หน้ากล่องมีตัวหูฟังสีขาวทั้ง 2 ข้างปรากฏอยู่ มีชื่อ Buds Air ระบุตรงกลาง และชื่อแบรนด์ realme ระบุที่มุมขวาบน

ด้านหลังกล่องมีการระบุคุณสมบัติเด่นๆ เอาไว้หลายประการ และมีรูป Wireless Charging Case ด้านหน้าเผยให้เห็น

ใต้กล่องมีข้อมูลรหัสโมเดล, สี และรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ผลิตระบุเอาไว้

เปิดกล่องออกมาพบ Charging Case จัดวางในกล่องอย่างเป็นระเบียบ เผยให้เห็นด้านหน้าอย่างชัดเจน

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– realme Buds Air สีขาว
– Wireless Charging Case
– Buds Air 1 คู่
– สายชาร์จ USB Type-C
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ทำความรู้จัก realme Buds Air

ลำดับต่อไปเดี๋ยวเรามาดูกันที่ Charging Case และตัว Buds Air กันเลยค่ะ

ตัวหูฟัง Buds Air บรรจุมาใน Charging Case สีขาวเรียบหรูสวยงาม

เมื่อแยกส่วนออกมาทั้งหมด ประกอบด้วย หูฟัง Buds Air ข้างซ้าย – ข้างขวา และ Charging Case

การเก็บเข้ากล่อง Charging Case สะดวก มีตัวแม่เหล็กดูดที่ขั้วด้วยค่ะ

เริ่มกันที่ตัว Charging Case นั้นมีขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาสะดวก ทำจากวัสดุโพลิเมอร์ มีขนาดอยู่ที่ 51.3×45.3×25.3 มม. และน้ำหนักเพียง 42.3 กรัม

ด้านหน้าของ Charging Case มาพร้อมไฟ LED แจ้งเตือนแสดงผลระดับการชาร์จ (สังเกตได้ที่ไฟสีเขียว)

ส่วนด้านหลังมีข้อความสกรีนระบุไว้ว่าดีไซน์โดย realme ค่ะ

ด้านล่างตัว Charging Case รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

ด้านใน Charging Case ที่รองรับตัว Buds Air มีขั้วสำหรับชาร์จแบตเตอรี่

มาต่อกันที่ตัว Buds Air กันเลยค่ะ

Buds Air ดีไซน์การออกแบบโดดเด่นทันสมัยและมีน้ำหนักเบาสะดวกต่อการใช้งาน

ด้านล่างมีขั้วเชื่อมต่อสำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับ Charging Case

ตัวหูฟังมาพร้อมการออกแบบอย่างปราณีตดีไซน์ Half-in Ear ตามหลักสรีรศาสตร์ มีความโค้งมนเหมาะสมและสอดรับกับความโค้งเว้าของหูมากที่สุด

โดยหูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเบาน้อยกว่ากระดาษ A4 ที่ความหนักเพียง 4.16 กรัม

ทำให้รู้สึกเบาสบายขณะสวมใส่ จนทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้กำลังใช้งานอยู่เลยทีเดียวค่ะ

คุณสมบัติเด่น

realme Buds Air ได้รับการออกแบบที่เรียบง่ายเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต R1 ที่มีความหน่วงต่ำ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.0 ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างหูฟังและสมาร์ทโฟนรวดเร็วและมีเสถียรภาพ รองรับการใช้งาน Google Assistant และการสั่งการแบบอัจฉริยะที่สามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวก

มาพร้อม Dynamic Bass Boost Driver ขนาด 12 มิลลิเมตร ช่วยให้เสียงมีพลังยิ่งขึ้น โดยคุณภาพเสียงผ่านการทดสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงกว่า 1,000 รอบ ทำให้เสียงเบสแน่นและมีมิติเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงและการชมภาพยนตร์ของให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น มีการกระจายเสียง 2 ช่องทางแบบ Real-time และมีไมค์คู่ตัดเสียงรบกวนระหว่างการใช้งาน

รองรับ Gaming Mode ที่จะช่วยให้คุณภาพเสียงคมชัดลดความหน่วง ทำให้การทำงานของภาพและเสียงตรงกัน อีกทั้งมาพร้อม Dual Mic สำหรับเพิ่มคุณภาพเสียงดีขึ้นขณะการโทร และระบบ ENC ช่วยลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอก

อีกทั้งยังรองรับระบบสั่งงานด้วยเสียง และ Google Fast Pair ใช้งานสะดวกผ่านการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น การรับ-วางสายเรียกเข้า เปลี่ยนเพลง หรือเปิด-ปิดการใช้งาน ขณะที่แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 17 ชั่วโมง และฟังเพลงต่อเนื่องนาน 3 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จ realme Buds Air รองรับการชาร์จแบบไร้สายมาตรฐาน Qi 10W และรองรับการชาร์จผ่าน Type-C อีกด้วย

การใช้งาน

realme Buds Air รองรับการควบคุมและสั่งงานด้วยการสัมผัส ดังนี้

• กด 2 ครั้ง คือ รับสาย/เล่น-หยุดเพลง
• กด 3 ครั้ง คือ ข้ามไปเพลงถัดไป
• กดค้างสักพัก คือ วางสาย/ปฏิเสธการรับสาย/ใช้ตัวช่วยสั่งการด้วยเสียง
• กดค้างทั้ง 2 ข้าง คือ เข้า/ออก Gaming Mode

การใช้งานสามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายด้วยการเปิดใช้งาน Bluetooth โดยต้องจับคู่อุปกรณ์ในครั้งแรก แต่ในครั้งถัดไปเพียงแค่เปิด Bluetooth ก็จะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเลยค่ะ ส่วนสถานะแบตเตอรี่ของตัว Buds Air ดูได้บนหน้าจอแสดงผลตามภาพ โดยใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android ที่รองรับตั้งแต่ Android เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไปค่ะ

สรุป

•  realme Buds Air เชื่อมต่อง่ายผ่าน Bluetooth เชื่อมครั้งแรกต้องจับคู่กับอุปกรณ์ก่อน และสามารถเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติทันทีในครั้งถัดไป โดยรองรับ Bluetooth 5.0

• รองรับ Google Fast Pair, Google Assistant, การสั่งการแบบอัจฉริยะที่สามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย และสามารถควบคุมการเล่นเพลงผ่านคำสั่งเสียงได้

• Driver Bass เป็นแบบไดนามิค มีขนาด 12 มิลลิเมตร ช่วยให้เสียงมีพลังยิ่งขึ้น เสียงเบสแน่น มีมิติ

• รองรับการชาร์จ Wireless และผ่าน Wireless Charging Case ผ่าน USB Type-C บริเวณด้านหน้าของเคสจะมาพร้อมไฟ LED เพื่อแสดงผลระดับการชาร์จ

• ใช้ไมโครชิป R1 เสียงคมชัด ไม่สะดุด

• มีการกระจายเสียง 2 ช่องทางแบบ Real-time

• มีไมค์คู่ตัดเสียงรบกวนระหว่างการใช้งาน

• Buds Air มีน้ำหนักเบา ใส่ง่าย ใช้งานสบาย ดีไซน์โดดเด่นทันสมัยแบบ Half-in Ear รับสรีระความโค้งเว้าของหู ใช้งานง่ายผ่านการสัมผัส

• รองรับ Optical Sensor ตรวจจับการสวมใส่อัจฉริยะ

• มีการปรับการใช้งานสำหรับ Gaming Mode และการเล่นวิดีโอ ช่วยให้เสียงคมชัด ไม่สะดุด การใช้งานเสียงกับภาพตรงกัน

ขอขอบคุณ realme Thailand

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng