รีวิว realme C17 ดีไซน์สวย Cat’s Eye จอลื่น 90Hz แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 18W ในงบ 5 พันบาท!!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่สเปกครบเครื่อง จอลื่น แบตอึด ในราคางบไม่เกิน 5,000 บาท วันนี้เรามีบทความรีวิว realme C17 น้องเล็กรุ่นสุดคุ้มมาฝากให้ได้ชมกัน
realme C17 ราคาจำหน่ายเพียง 4,999 บาท มาพร้อมหน้าจอ Ultra Smooth ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว อัตรา Refresh Rate สูง 90Hz ใช้งานได้แบบลื่นไหล ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 460 แบบ Octa-Core ผสานจีพียู Adreno 610 หน่วยความจำ RAM 4GB + ROM 64GB รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 256GB
กล้องหลัง AI 4 ตัว มาครบทั้งเลนส์ Ultra Wide-Angle, Macro และ Portrait B&W พร้อม PDAF โฟกัสได้รวดเร็วแม่นยำ พร้อมโหมดถ่ายภาพต่าง ๆ อาทิ Super Nightscape ถ่ายภาพกลางคืนให้สวยคมชัด, Ultra Wide ถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ 119 องศา, Ultra Macro ถ่ายวัตถุใกล้ในระยะ 4 ซม. และ Chroma Boost เพิ่มสีสดให้แก่ภาพถ่าย เป็นต้น
ขณะที่กล้องหน้าเซลฟี่เป็นแบบ In-Display มาพร้อม AI Beauty ปรับค่าสวยเนียนทันใจ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot พร้อมติดตั้งสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และรองรับสแกนใบหน้าอันฉับไว ด้านแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยความจุไซส์ยักษ์ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W พร้อมมีโหมดประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode
realme C17 มาพร้อมดีไซน์สวยทันสมัย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Cat’s Eye หรืออัญมณีล้ำค่า “เพชรตาแมว” ให้ความรู้สึกแวววาว น่าค้นหา ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี พร้อมพื้นผิวฝาหลังให้การสัมผัสที่แตกต่างกัน
ได้แก่ สี Navy Blue ฝาหลังสะท้อนแสงพร้อมไฮไลท์เอฟเฟกต์สุดงาม และสี Lake Green ฝาหลังพื้นผิวแบบด้าน มีการใช้เทคนิคการเคลือบแบบ AG ตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.5 มม. และน้ำหนักเบา 188 กรัม ดีไซน์ถือจับกระชับมือ ทั้งยังมีคุณสมบัติป้องกันละอองน้ำ ซึ่งมีการพ่นด้วยสารซิลิโคนกันน้ำรอบตัวเครื่องอีกด้วย
ข้อมูลสเปก realme C17
| Features | realme C17 |
| วันเปิดตัว : | – ตุลาคม 2563 |
| ราคา : | – 4,999.- (ณ วันที่ 8 ต.ค. 63) |
| OS : | – Android 10 ครอบทับ realme UI |
| หน้าจอ : | – หน้าจอ LCD |
| – ขนาด 6.5 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 1600×720 พิกเซล | |
| – Refresh Rate 90Hz | |
| – กระจก Corning Gorilla Glass | |
| CPU : | – Snapdragon 460 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz |
| GPU : | – Adreno 610 |
| RAM : | – 4GB |
| ROM : | – 64GB |
| – microSD Card สูงสุด 256GB | |
| กล้องหลัง : | – 13MP + 8MP + 2MP + 2MP |
| – Main Sensor + Ultra Wide + Macro + Portrait B&W | |
| – ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 | |
| – LED flash | |
| – PDAF | |
| – HDR | |
| – Panorama | |
| กล้องหน้า : | – 8MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
| Video : | – 1080p@30fps |
| Battery : | – 5000mAh สนับสนุน 18W Fast Charge |
| ขนาด : | – 164.1×75.5×8.5 มม. |
| น้ำหนัก : | – 188 กรัม |
| รองรับซิม : | – Dual SIM |
| ระบบกันน้ำ : | – |
| ระบบเครือข่าย : | – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz |
| – 4G LTE | |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
| – Bluetooth 5.0 | |
| – USB Type-C | |
| – OTG | |
| – 3.5mm jack | |
| GPS : | – GPS |
| – AGPS | |
| – Beidou | |
| – Glonass | |
| Sensor : | – Fingerprint |
| – Accelerometer | |
| – Proximity | |
| – Compass | |
| สี : | – Navy Blue |
| – Lake Green |
แกะกล่อง realme C17
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– realme C17 ตัวเครื่องสี Navy Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน 18W Fast Charge
– สายชาร์จ USB Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใสสีขุ่น
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
สำหรับเคสกันรอยที่แถมมาให้เป็นซิลิโคนแบบใสสีออกขุ่น ๆ หน่อย ข้อดีของเคสแบบใสคือโชว์ดีไซน์ด้านหลังกันแบบชัด ๆ ไปเลยค่ะ
realme C17 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000mAh ใช้งานได้ยาวนานไม่มีสะดุด พร้อมสนับสนุน 18W Fast Charge ชาร์จได้ถึง 33% ภายในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบของทาง realme Lab พบว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 34 วันในโหมดสแตนด์บายเทียบเท่าสมาร์ตโฟนเรือธงเลยก็ว่าได้ รองรับ OTG สามารถถ่ายโอนแบตเตอรี่จากเครื่องของ realme C17 ไปยังอุปกรณ์รุ่นอื่น ๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังรองรับ Super Power Saving Mode ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยได้ 6 แอปฯ เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และช่วยประหยัดพลังงานในตัวเครื่องได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งโหมดนี้จะสามารถใช้งานได้แบบไม่กระทบต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันเลยค่ะ
ทำความรู้จัก realme C17
ด้านหน้า realme C17 มาพร้อมหน้าจอ Ultra Smooth ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ อัตรา Refresh Rate สูง 90Hz ใช้งานได้แบบลื่นไหลเลย และอัตรา Sampling Rate ถึง 120Hz โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับหน้าจอ 60Hz มีค่าความสว่างอยู่ที่ 600nits
พร้อมอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องสูงถึง 90% รับชมภาพ ความบันเทิง หรือ Content ต่าง ๆ ได้อย่างกว้างเต็มตาจุใจ เพิ่มพื้นที่ความบันเทิงได้มากกว่าที่เคย จอมีอัตราส่วนที่ยาวขึ้น 20:9 พร้อมมีฟีเจอร์ปกป้องสายตาช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้
นอกจากนี้ realme C17 ยังถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของตระกูล C และรุ่นแรกในระดับเรทราคาเดียวกันเลยก็ว่าได้ที่มาพร้อมดีไซน์เจาะรู และมีอัตราการรีเฟรชสูงถึง 90Hz ถือว่าเป็นคุณสมบัติเด็ด ๆ เลยสำหรับ realme C17 สมาร์ตโฟนน้องใหม่ที่มีราคาจำหน่ายเพียง 4,999 บาทเท่านั้น
ด้านหน้าส่วนบน realme C17 มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่แบบ In-Display ความละเอียด 8MP ติดตั้งที่มุมซ้ายบน พร้อมโหมดการใช้งานเอาใจสายเซลฟี่ ซึ่งในส่วนนี้เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันในโหมดการใช้งานกล้องหน้าค่ะ เหนือหน้าจอมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
พร้อมรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าอันฉับไว ใช้งานง่ายเพียงปลดล็อกในคลิ๊กเดียว หรือมองไปที่หน้าจอ สะดวกมากต่อการใช้งาน และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลภายในตัวเครื่อง
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลัง realme C17 มาพร้อมดีไซน์สวยทันสมัย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Cat’s Eye หรืออัญมณีล้ำค่า “เพชรตาแมว” ให้ความรู้สึกแวววาว น่าค้นหา เปรียบเสมือนความแวววาวของทะเลสาบ และพื้นผิวมหาสมุทร ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี พร้อมพื้นผิวฝาหลังให้การสัมผัสที่แตกต่างกัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างลงตัวของผู้ใช้งานแต่ละคน
เริ่มด้วยสี Navy Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลน้ำลึก ฝาหลังสะท้อนแสงพร้อมไฮไลท์เอฟเฟกต์สุดงาม
และสี Lake Green ฝาหลังพื้นผิวแบบด้าน ให้ความรู้สึกเงียบสงบราวกับกำลังพักอยู่ริมทะเลสาบ มีการใช้เทคนิคการเคลือบแบบ AG
ตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.5 มม. และน้ำหนักเบา 188 กรัม ดีไซน์ถือจับกระชับมือ พกพาได้สะดวก ทั้งยังมีคุณสมบัติป้องกันละอองน้ำ ซึ่งมีการพ่นด้วยสารซิลิโคนกันน้ำรอบตัวเครื่องอีกด้วย
ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว จัดวางกันในโมดูลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมีความโค้งมนดูลงตัวที่มุมซ้ายบน ประกอบด้วย Ultra Wide-Angle + Main Sensor + Macro + Portrait B&W และไฟแฟลช LED พร้อมข้อความสกรีนระบุไว้ว่า AI Camera และมีโหมดการใช้งานมากมาย
ถัดมาตรงกลางเครื่องเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultra Fast
ลำดับเลนส์กล้องด้านหลังของ realme C17 มีดังนี้ค่ะ
• กล้องตัวที่ 1 : เลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2 เลนส์มุมกว้างพิเศษให้ภาพถ่ายกว้างถึง 119 องศา
• กล้องตัวที่ 2 : เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสง f/2.2 ช่วยให้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับระบบ PDAF โฟกัสได้รวดเร็วแม่นยำ เพิ่มการซูม 4 เท่า ทำให้จับภาพถ่ายในระยะไกลให้ใกล้ยิ่งกว่าเดิม
• กล้องตัวที่ 3 : เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพ Macro ในระยะใกล้ 4 ซม.
• กล้องตัวที่ 4 : เลนส์ Portrait B&W ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพบุคคลได้มากยิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ปรับโทนสีให้กับภาพถ่าย
เลนส์กล้องหลังนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย หากสวมใส่เคสจะพอดีกันเลยค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้แบรนด์ realme สีเงินสกรีนไว้
ด้านบนตัวเครื่อง ไร้ฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย แจ็คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องใส่ถาดซิมการ์ด
โดย realme C17 มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM พร้อมกับเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB หรือกล่าวง่าย ๆ ใช้งานในรูปแบบ SIM 1 + SIM 2 + microSD Card ค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่อง
Performance
เมื่อนำ realme C17 ที่มาพร้อม Snapdragon 460 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ realme UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชั่น Geekbench 5 และ CPU-Z พบว่าสามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 252 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1159 คะแนน
ซึ่งชิปเซ็ต Snapdragon 460 ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 11 นาโนเมตร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมติดตั้ง Kryo 240 ในซีพียู ผสานการทำงานระหว่างแรมแบบ LPDDR4x และหน่วยความจำ UFS 2.1 ทำให้มีการทำงานที่ลื่นไหล
ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 1169MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 43.01GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ ชิปประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 ความเร็ว GPU อยู่ที่ 320MHz หน้าจอ HD+ เป็นต้น
สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง PUBG MOBILE เกมแนว Survival สุดฮิต และ Legacy of Discord (เทพ) เกมต่อสู้แบบเรียลไทม์บนโลกแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ ภาพกราฟิก 3D และสเปเชียลเอฟเฟกต์สวยสมจริง
เริ่มที่เกม Legacy of Discord (เทพ) ภาพสวยคมชัดสวยสมจริง ระบบเสียงดังฟังชัด แต่ด้วยไฟล์เกมขนาดใหญ่ อาจทำให้เกมกระตุกบ้างเล็กน้อย
ขณะที่ PUBG MOBILE ระบบทัชสกรีนตอบสนองได้ดี ภาพคมชัด เล่นได้แบบเพลิน ๆ เลย
ส่วนด้านความบันเทิง ด้วยความที่มาพร้อมกล้องหน้าแบบ In-Display และไม่มีรอยบากหรือรอยหยดน้ำใด ๆ ทำให้รับชมได้อย่างเต็มตา ตำแหน่งของกล้องหน้าไม่บดบังรายละเอียดใด ๆ บนจอแสดงผล ภาพและเสียงคมชัด รับชมได้อย่างเต็มตา
Interface
เริ่มกันที่หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน เพื่อกดรหัสผ่านที่ตั้งไว้ และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น แต่สำหรับใครที่ลงทะเบียนฟีเจอร์ Face Unlock และสแกนลายนิ้วมือแล้ว จะมีไอคอนปรากฏบนหน้าจอ ก็สามารถสแกนด้านหลังเครื่อง หรือปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าได้เลยทันที
หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอมาแล้ว จะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าใช้งานได้ภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องถูกจัดวางเป็นระเบียบไม่รก UI แบบใหม่จาก realme ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ให้สีสันสดใสมากขึ้น สามารถปรับแต่งไอคอนได้เอง
หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และตั้งค่าการใช้งานหน้าจออื่น ๆ ได้
หรือหากปัดหน้าจอขึ้นด้านบนจะพบกับหน้ารวมเมนูการใช้งานทั้งหมดในเครื่อง และเมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings มีเมนูแถบแจ้งเตือน และสามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีให้ใช้งานครบครัน อาทิ แผนที่, Google Chrome, Gmail, YT Music หรือ YouTube เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้จาก Google Play หรือเปลี่ยนธีมและภาพพื้นหลังสวย ๆ ได้ที่ร้านขายธีม
รองรับ Google Assistant สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียง
ด้านเครื่องมือการใช้งานมีให้ใช้งานครบ อาทิ เครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศ
เครื่องคิดเลข, วิทยุ FM ,แอปฯ วัดสภาพอากาศ
นาฬิกาปลุก, ตัวจัดการข้อมูลหน่วยความจำ และ realme Lab ทดลองใช้ฟีเจอร์เด่น ๆ หรือฟังก์ชันต่าง ๆ ในเวอร์ชันเบต้าได้
รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วทำง่าย ๆ
เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
รองรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส และทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง เป็นต้น
รองรับ Game Space ใช้ตั้งค่าต่าง ๆ ขณะเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็น ปิดกั้นการแจ้งเตือน, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, ตั้งค่าโหมดเกม, ตั้งค่าแบตเตอรี่ เป็นต้น
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง
หน้าจอของ realme C17 รองรับฟังก์ชันการปรับอุณหภูมิของหน้าจอ โดยการเพิ่มอุณหภูมิสีเพื่อลดรังสีแสงสีฟ้า ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการปวดตา ตาหล้า และสามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมยังรองรับโหมดกำหนดสีหน้าจอ สำหรับปรับแสง 2 แบบ ได้แก่ Vivid Mode ที่จะแสดงผลในช่วงสี P3 ให้ความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา และ Gantle Mode แสดงช่วงสี sRGB ให้ความรู้สึกเย็นสบายตา
มีโหมดกลางคืนเปลี่ยนไปใช้งานหน้าจอโทนสีมืด และรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดถนอมสายตา พร้อมรองรับการปรับใช้งานอัตรารีเฟรชจอภาพได้ที่ระดับ 60Hz และสูงสุด 90Hz หรือจะเลือกใช้งานแบบอัตโนมัติก็ได้
ด้านฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัย realme C17 รองรับทั้งฟีเจอร์สแกนใบหน้า และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งก่อนจะใช้งานต้องตั้งรหัสผ่านก่อนนะคะ
รองรับเครื่องมืออำนวยความสะดวก ต่าง ๆ อาทิ ปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant ด้วยปุ่มพาวเวอร์, การใช้แถบด้านข้างอัจฉริยะ และการใช้ปุ่มนำทาง เป็นต้น
รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
ส่วนนี้เป็นไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยเก็บความจำภายในตัวเครื่อง, หน้าการอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด และหน้าแสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสมาร์ตโฟน
รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
รองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ สามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ ใช้ 3 นิ้วลากบนหน้าจอ และกดไปที่ปุ่ม Recent Apps เป็นต้น
ซึ่งหากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะปรากฎหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ การเคลียร์แอปฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง พร้อมสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ หรือใช้งาน 2 หน้าจอได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
สามารถถ่ายโอนข้อมูลภายในเครื่องได้อย่างรวดเร็วเมื่อเสียบสายชาร์จ USB Type-C เข้ากับตัวเครื่องแล้วต่อเข้าคอมพิวเตอร์ ถัดมาเป็นหน้าจอขณะชาร์จไว และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน Google Assistant และหากกดค้างไปไว้ราว 5 วินาที จะปรากฏไอคอนรีสตาร์ท และปิดเครื่อง หรือล็อกเครื่องแบบนิรภัยขึ้นมาค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
เริ่มกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย realme C17 มาพร้อมกล้องหน้า In-Display ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 และเลนส์ 5P ที่รองรับ AI Beauty และ Bokeh Effect เป็นต้น
โดยอัลกอลิธึมถูกพัฒนาให้เข้ากับ เพศ สีผิว และใบหน้า ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างเพลิดเพลิน ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังมีโหมด HDR อีกด้วย เดี๋ยวเราไปชมโหมดถ่ายภาพต่าง ๆ กันเลย
เริ่มที่ โหมดบันทึกวิดีโอ รองรับการบันทึกที่ความละเอียดระดับ HD หรือ 720p และ Full HD หรือ 1080p มี AI Beauty สามารถปรับค่าผิวสวยเนียนได้สูงสุด 100 ระดับ พร้อมสนับสนุนฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR ให้ภาพสวยคมชัดมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับ AI Beauty ที่สามารถปรับได้มากถึง 100 ระดับ และเลือกปรับรายละเอียดยิบย่อยได้ อาทิ ปรับผิวเรียบเนียน, ใบหน้าเรียว, ตาโต, จมูกเล็กลง, คางได้รูป และเสริมแต่ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานมากมายเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty
ปรับ AI Beauty ระดับ 50
ปรับ AI Beauty ระดับ 100
ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode
โหมด Portrait ใช้ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังละลาย หรือ Bokeh รองรับการปรับค่าผิวสวย AI Beauty ได้ 100 ระดับเช่นกัน และปรับรายละเอียดยิบย่อยได้ พร้อมปรับความเบลอของฉากหลังได้เอง และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
ภาพถ่าย Portrait ปรับ AI Beauty ระดับ 50
ภาพถ่าย Portrait ปรับ AI Beauty ระดับ 100
ภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter
ส่วนโหมดถ่ายภาพพิเศษของกล้องหน้า มีให้เลือกใช้งาน 2 โหมด ได้แก่ เซลฟี่แบบ Panorama ให้มุมมองที่กว้างขึ้น และถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse
ตัวอย่างภาพถ่าย Panorama Selfie
มาต่อกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดย realme C17 มาพร้อมกล้องหลัง AI 4 ตัว ความละเอียด 13MP (Main Sensor) + 8MP (Ultra Wide-Angle) + 2MP (Macro Lens) + 2MP (B&W Portrait) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.23 + f/2.4 + f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED
โดยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 13MP ถ่ายภาพคมชัดขึ้น พร้อมรองรับ PDAF โฟกัสได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ และเพิ่มการซูมเป็น 4 เท่า ถัดมาเป็นเลนส์ Ultra Wide-Angle คมชัด 8MP สำหรับถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ 119 องศา
จากนั้นเป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ถ่ายวัตถุใกล้ในระยะ 4 ซม. และสุดท้ายเป็นเลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2MP ถ่ายภาพบุคคลได้สวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีฟีเจอร์ปรับโทนสีให้กับภาพถ่าย
มาพร้อมโหมดการใช้งานมากมาย อาทิ Super Nightscape Mode ถ่ายภาพกลางคืนสุดโดดเด่น, Ultra Wide Mode เก็บภาพมุมกว้าง 119 องศา, Ultra Macro Mode ถ่ายภาพระยะใกล้เพียง 4 ซม. และเพิ่มสีสดให้กับภาพด้วย Chroma Boost เป็นต้น เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันเลยค่ะ
เริ่มที่ Super Nightscape Mode สำหรับถ่ายภาพกลางคืนสุดโดดเด่น ระบบอัลกอริธึมจะทำการถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบแสง และรวมเป็นภาพถ่ายกลางคืนที่ดีที่สุด ทำให้ได้ภาพถ่ายช่วงกลางคืนที่สวยงามเป็นธรรมชาติ รองรับการเก็บภาพมุมกว้าง และซูมได้สูงสุด 10 เท่า พร้อมมีฟิลเตอร์สีพิเศษสวย ๆ ให้เลือกใช้งานเพิ่มเติม ได้แก่ สีทอง, ไซเบอร์พังก์ และฟลามิงโก
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Nightscape
โหมดบันทึกวิดีโอ อัตราเฟรมบันทึกวีดีโอระดับ 1080p และ 720p ซูมได้สูงสุด 10 เท่า รองรับการเปิดไฟแฟลช พร้อม AI Beauty ปรับค่าผิวเนียนได้สูงสุด 100 ระดับ และฟิลเตอร์หลากสีให้เลือกใช้งาน
โหมดถ่ายภาพปกติ ซูมได้สูงสุด 10 เท่า รองรับ HDR เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้คมชัด
รองรับ AI Beauty สำหรับเพิ่มความขาวเนียนได้ 100 ระดับ และ Chroma Boost เพิ่มความสดให้กับภาพถ่ายอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงมีฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ ให้เลือกใช้งานด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty Mode
ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode
ตัวอย่างภาพถ่าย Chroma Boost
โหมด Portrait ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ รองรับ AI Beauty และสามารถปรับระดับความเบลอได้เองถึง 100 ระดับ มีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้ใช้งาน
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter
ด้านโหมดการใช้งานพิเศษรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่โหมด Super Macro ถ่ายได้ใกล้สุดในระยะ 4 ซม. พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ, Google Lens เป็นเทคโนโลยีการจดจำภาพที่พัฒนาโดย Google ออกแบบมาเพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัตถุที่ระบุ โดยใช้การวิเคราะห์ภาพตามเครือข่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
โหมดถ่ายวิดีโอ Time Lapse หรือบันทึกวิดีโอแบบเร่งเวลา, โหมด Pro สามารถปรับค่าแสง White Balance, ISO หรือระบบ Auto Focus ได้เอง และสุดท้ายเป็นโหมด Panorama จับภาพมุมกว้างได้แบบเต็มตามากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก realme C17
สรุป
ข้อสังเกต
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
ขอขอบคุณ realme Thailand
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ iQOO Z7 5G ปี 2023 ชิปไว แบตเยอะ ราคาตอบโจทย์ เลือกรุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่น มาเช็กกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ iQOO Z7 5G มาฝากให้ได้ชมกัน
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ Sony Xperia 10 V ปี 2023 รุ่นต่างค่าย สเปกตอบโจทย์ เลือกรุ่นไหนดี รุ่นไหนคุ้ม มาดูกัน สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ Sony Xperia 10 V มาฝากให้ได้ชมกัน
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ HONOR X9a ปี 2023 จอใหญ่ บอดี้สวย รุ่นไหนปังสุด มาเช็กกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ HONOR X9a มาฝากให้ได้ชมกัน โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ POCO X5 Pro 5G ปี 2023 สเปกครบครัน ราคาตอบโจทย์ รุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่น มาดูกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ POCO X5 Pro 5G
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ Redmi Note 12 Pro 5G ปี 2023 รุ่นต่างค่าย สเปกตอบโจทย์ รุ่นไหนคุ้มสุด มาดูกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ Redmi Note 12 Pro
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ Redmi Note 12 Pro+ 5G ปี 2023 จอใหญ่ แบตเยอะ ชิปไว เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ Redmi Note 12
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ POCO F5 ปี 2023 สเปกครบครัน ราคาหมื่นต้น ๆ เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ POCO F5 มาฝากให้ได้ชมกัน โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ,
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ POCO F5 Pro ปี 2023 สเปกตอบโจทย์ เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ POCO F5 Pro มาฝากให้ได้ชมกัน โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน
เปรียบเทียบ vivo V29 5G และ OnePlus Nord 3 5G ปี 2023 จอใหญ่ ชิปไว แบตเยอะ รุ่นไหนดี รุ่นไหนคุ้ม มาดูกันเลย สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo V29 5G และ OnePlus Nord 3
สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นล่าสุดของ OPPO เตรียมเปิดตัวในตลาดโลกเร็ว ๆ นี้ OPPO แบรนด์อุปกรณ์อัจฉริยะระดับโลกประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนจอพับมาตรฐานใหม่ที่ก้าวไปอีกขั้น พร้อมรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการวางจำหน่ายของ OPPO Find N3 Flip และไฮไลท์เด่นที่จะเปิดเผยในงานเปิดตัวระดับโลกของ OPPO ที่กำลังจะมาถึง Pete Lau, SVP and Chief Product Officer at OPPO กล่าวว่า“สำหรับ Find N2 Flip เราสร้างโทรศัพท์ฝาพับที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และตอนนี้
แสดงความคิดเห็น