เปิดตัว LG G7 ThinQ และ LG G7+ ThinQ พลังเสียงกระหึ่ม Boombox ขุมพลัง AI หน้าจอ FullVision

เปิดตัว LG G7 ThinQ และ LG G7+ ThinQ พลังเสียงกระหึ่ม Boombox ขุมพลัง AI หน้าจอ FullVision

ล่าสุด LG แบรนด์ผู้ผลิตชื่อดังจากเกาหลีใต้ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมรุ่นล่าสุด LG G7 ThinQ และ LG G7+ ThinQ ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยชูจุดเด่นที่มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ประโยชน์ และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน โดยเป็นรุ่นแรกที่ได้รับคุณสมบัติของ Google Lens ค้นหาโดยใช้ AI มีให้บริการภายใน Google Assistant และ Google Photos

โดยจะสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สถานที่สำคัญ, พืชสัตว์, หนังสือ หรือการระบุข้อความ ซึ่งจะมีปุ่มอยู่ใต้ปุ่มปรับระดับเสียงสำหรับเปิดใช้งานฟังก์ชัน AI แตะปุ่มนี้เพียงครั้งเดียวก็จะสามารถเปิดตัว Google Assistant ได้ในทันที แต่หากเคาะ 2 ครั้งจะเป็นการเปิด Google Lens นอกจากนี้หากกดปุ่มค้างไว้ก็สามารถพูดคุยกับ Google Assistant ได้อย่างง่ายดาย

สำหรับ LG G7 ThinQ และ LG G7+ ThinQ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 845 ดีไซน์หน้าจอ FullVision ชิดขอบขนาด 6.1 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด 3120×1440 พิกเซล (QHD+) สว่างสดใสด้วยเทคโนโลยี Super Bright สว่างสูงสุดถึง 1000 nits ใช้งานได้ง่ายภายใต้แสงแดด แสดงช่วงสี 100% ของ DCI-P3 และขอบด้านข้างนั้นบางกว่ารุ่นก่อนหน้าเกือบ 50%

LG G7 ThinQ มีรูปทรงที่เพรียวบางกรอบข้างเป็นโลหะ เสริมความแข็งแกร่งด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อเพิ่มความทนทาน ตัวเครื่องกันน้ำได้ใน IP68 ตามมาตรฐานการทดสอบ MIL-STD 810G มีขนาดที่พอเหมาะแก่การใช้งานด้วยมือเดียว มีการอัพเกรดเซ็นเซอร์กล้องใหม่ โดยกล้องเซลฟี่มีความละเอียด 8MP ถ่ายได้ชัดเจนดูเป็นธรรมชาติมากกว่า LG รุ่นก่อนๆ

ขณะที่กล้องหลังความละเอียด 16MP มีเลนส์ Super Ultra Wide ใช้ถ่ายภาพมุมกว้างแต่ความบิดเบี้ยวน้อยลง มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น และลดขอบภาพเบี้ยวได้ดีกว่าเดิม รวมถึงมีการนำระบบ AI เข้ามาควบรวมกับพิกเซลของเซ็นเซอร์ มีโหมดถ่ายภาพ 19 แบบเพื่อให้ได้ภาพที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และผู้ใช้สามารถปรับปรุงรูปถ่ายของตนได้

อีกทั้งยังมีโหมด Super Low Light ทำให้ภาพในที่แสงน้อยสว่างกว่าเดิมถึง 4 เท่า โดยอัลกอริธึม AI จะปรับการตั้งค่ากล้องโดยอัตโนมัติเมื่อถ่ายภาพในที่มีแสงน้อย รองรับการถ่ายภาพสติ๊กเกอร์แบบ 2D และ 3D รวมถึงมีโหมดถ่ายภาพ Portrait หรือเอฟเฟกต์ bokeh สร้างภาพที่ดูเป็นมืออาชีพพร้อมฉากหลังเบลอๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ยิ่งขึ้น

สำหรับด้านความบันเทิงต่างๆ LG G7 ThinQ มาพร้อมระบบเสียงกระหึ่มสะใจมากขึ้นด้วย Boombox Speaker โดยเป็นการออกแบบลำโพงภายในตัวเครื่องให้สามารถปล่อยพลังเบสเสียงออกมาได้หนักกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปมากถึง 2 เท่า และหากวางเครื่องสมาร์ทโฟนไว้บนพื้นผิวที่เป็นของแข็งก็จะขยายเสียงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ LG G7 ThinQ ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่ายที่รองรับ DTS:X 3D Surround Sound ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ที่สามารถรับฟังได้ผ่านหูฟังเพิ่มประสบการณ์ใช้งานมากยิ่งขึ้นสูงสุดถึง 7.1 แชนแนล พร้อมตัดคลื่นรบกวนผ่าน Quad DAC แปลงเสียงจากดิจิตอลเป็นอนาล็อก 4 ตัว ช่วยลดความเพี้ยนของเสียง ช่วยให้ขอบเขตของเสียงกว้างขึ้นกว่าเดิม สำหรับสเปคการใช้งานต่างๆ เราไปชมกันเลยค่ะ

สเปคการใช้งานของ LG G7 ThinQ และ LG G7+ ThinQ

– หน้าจอ FullVision ขนาด 6.1 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9
– เทคโนโลยี Super Bright Display
– ความละเอียด 3120×1440 พิกเซล (QHD+)
– ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo
– CPU Snapdragon 845
– RAM 4GB และ 6GB LPDDR4x
– ROM 64GB และ 128GB UFS 2.1
– microSD Card สูงสุด 2TB
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP (Super Wide Angle 107°) + 16MP (Standard Angle 71°) ค่ารูรับแสง f/1.9 และ f/1.6 ตามลำดับ
– กล้องหน้าความละเอียด 8MP เลนส์ Wide Angle ค่ารูรับแสง f/1.9, 80°
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a,b,g,n,ac, Bluetooth 5.0, NFC, USB Type-C, FM Radio, Google Assistant, Google Photos
– มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
– รองรับระบบจดจำใบหน้า Face Recognition และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– ฟีเจอร์ Boombox Speaker, Hi-Fi Quad DAC, DTS:X 3D Surround Sound
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh สนับสนุน Quick Charge 3.0 และ Wireless Charging
– ขนาดตัวเครื่อง 153.2×71.9×7.9 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 162 กรัม

* LG G7 ThinQ แรม 4GB + ความจุ 64GB, LG G7+ ThinQ แรม 6GB + ความจุ 128GB

ทั้งนี้ LG G7 ThinQ และ LG G7+ ThinQ ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเทา (Platinum Gray), สีดำ (Aurora Black), สีน้ำเงิน (Moroccan Blue) และสีแดง (Raspberry Rose) ซึ่งยังไม่เปิดเผยราคาวางจำหน่ายออกมาให้ได้ทราบกันอย่างเป็นทางการ แต่จากข้อมูลคาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ $650 – $700 หรือประมาณ 20,600 – 22,000 บาท หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ โดยเพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารอย่างรวดเร็วทันใจได้ที่ www.ninethaiphone.com

ชมคลิป

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.techradar.com, www.lgnewsroom.com