เปิดตัว OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro เรือธงท็อปพรีเมียม!! ขุมพลัง Snapdragon 855 แรมสูง 12GB กล้องหลัง 48MP แบตอึดสุด 4000 mAh จอใหญ่และดีที่สุดในขณะนี้ ราคาเข้าถึงง่าย!

เปิดตัว OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro เรือธงท็อปพรีเมียม!! ขุมพลัง Snapdragon 855 แรมสูง 12GB กล้องหลัง 48MP แบตอึดสุด 4000 mAh จอใหญ่และดีที่สุดในขณะนี้ ราคาเข้าถึงง่าย!

ล่าสุด OnePlus แบรนด์ดังจากแดนมังกรได้ทำการเปิดตัว OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro เรือธงระดับท็อป สเปคสุดแรง ฉายา Flagship Killer ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยที่รุ่น Pro นั้นมาพร้อมหน้าจอขอบโค้ง Fluid AMOLED เครื่องแรกของค่าย มีขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 3120×1440 พิกเซล รีเฟรชเรทอยู่ที่ 90Hz รองรับการแสดงผล HDR 10 และ HDR 10+ มีฟีเจอร์ Horizon Light ฟีเจอร์แจ้งเตือนด้วยแสงไฟสีฟ้า ซึ่งทาง DisplayMate การันตรีด้วยการให้คะแนนมากถึง A+

และฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลรวดเร็วเพียง 0.21 วินาที อีกทั้งยังมาพร้อมกล้องหน้าแบบ Pop-Up ที่ผ่านการทดสอบการใช้งานมากกว่า 300,000 ครั้ง ส่วนกล้องหลังมีทั้งหมด 3 เลนส์ ประกอบด้วย 48MP (เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX586) + 8MP (ซูมออพติคอล 3x) + 16MP (Ultra-Wide Angle) มุมมองกว้าง 117 องศา พร้อมจัดเต็มการถ่ายภาพด้วยฟีเจอร์ใหม่ UltraShot ใช้อัลกอริทึมแบบใหม่ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงาม หน่วยความจำแบบ UFS 3.0 และมีลำโพงคู่สเตอรีโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos รวมถึงสเปคอื่นๆ ระดับพรีเมียม

ขณะที่ OnePlus 7 มาพร้อมหน้าจอ Optic AMOLED ขนาด 6.41 นิ้ว รีเฟรชเรท 60Hz ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล มีรอยบากทรงหยดน้ำด้านบน กล้องหลังเลนส์คู่ 48MP + 5MP กล้องหน้าแบบ Pop-Up เช่นเดียวกัน หน่วยความจำแบบ UFS 3.0 มีลำโพงคู่สเตอรีโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos แบตอึดรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Dash Charge 20W พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Liquid Cooling System ทั้ง 2 รุ่น และสเปคการใช้งานที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ เราไปชมรายละเอียดทั้งหมดกันเลยค่ะ

สเปคการใช้งานของ OnePlus 7

– หน้าจอ Optic AMOLED ขนาด 6.41 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 รีเฟรชเรท 60Hz
– ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (Full HD+)
– กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
– ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ OxygenOS 9.5
– CPU Snapdragon 855 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.84GHz
– GPU Adreno 640
– RAM 6GB และ 8GB
– ROM 128GB และ 256GB ไม่รองรับ microSD Card
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 48MP (เซ็นเซอร์  Sony IMX586) + 5MP (Depth Sensor) ค่ารูรับแสง f/1.6 และ f/2.4 พร้อม dual LED flash, HDR, OIS, EIS
– กล้องหน้า Pop-Up ความละเอียด 16MP (เซ็นเซอร์  Sony IMX471) ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Auto-HDR
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– รองรับ WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.0, GPS, GLONASS, OTG , USB Type-C
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้จอแสดงผล
– ลำโพงคู่สเตอรีโอ ระบบเสียง Dolby Atmos
– สนับสนุน 4G VoLTE
– แบตเตอรี่ความจุ 3700 mAh รองรับ Dash Charge 20W
– ขนาดตัวเครื่อง 157.7×74.8×8.2 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 182 กรัม

สเปคการใช้งานของ OnePlus 7 Pro

– หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 รีเฟรชเรท 90Hz
– ความละเอียด 3120×1440 พิกเซล (QHD+)
– กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
– ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ OxygenOS 9.5
– CPU Snapdragon 855 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.84GHz
– GPU Adreno 640
– RAM 6GB, 8GB และ 12GB
– ROM 128GB และ 256GB ไม่รองรับ microSD Card
กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP (เซ็นเซอร์  Sony IMX586) + 8MP (ซูมออพติคอล 3x) + 16MP (Ultra-Wide Angle) มุมมองกว้าง 117 องศา ค่ารูรับแสง f/1.6, f/2.4, f/2.2 ตามลำดับ พร้อม dual LED flash, Laser/PDAF, OIS, EIS
– กล้องหน้า Pop-Up ความละเอียด 16MP (เซ็นเซอร์  Sony IMX471) ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Auto-HDR
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– รองรับ WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.0, GPS, GLONASS, OTG, USB Type-C
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้จอแสดงผล
– สนับสนุน 4G VoLTE และ 5G
– ลำโพงคู่สเตอรีโอ ระบบเสียง Dolby Atmos
– แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับ Warp Charge 30W
– ขนาดตัวเครื่อง 162.6×75.9×8.8 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 206 กรัม

ราคาวางจำหน่าย

OnePlus 7
• รุ่น 6GB + 128GB ราคา 499 ปอนด์ หรือประมาณ 20,000 บาท
• รุ่น 8GB + 256GB ราคา 549 ปอนด์ หรือประมาณ 22,000 บาท

OnePlus 7 Pro
• รุ่น 6GB + 128GB ราคา 649 ปอนด์ หรือประมาณ 26,000 บาท
• รุ่น 8GB + 256GB ราคา 699 ปอนด์ หรือประมาณ 29,000 บาท
• รุ่น 12GB + 256GB ราคา 799 ปอนด์ หรือประมาณ 33,000 บาท

อย่างไรก็ดี OnePlus 7 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mirror Grey และ Red ขณะที่ OnePlus 7 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Mirror Grey, Almond และ Nebula Blue โดยจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งหากมีเข้ามาจำหน่ายในไทยจะมีราคาถูกลงกว่านี้ค่ะ ส่วนจะมีเข้ามาทำตลาดเมื่อใดนั้น เราคงต้องมาติดตามกันต่อไปค่ะ

ชมคลิป

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.fonearena.com, www.oneplus.com