จับตาแผนธุรกิจใหม่ Samart i-mobile มากกว่าแค่ขายสมาร์ทโฟน สร้างกำไรยั่งยืนให้กลุ่มสามารถ

“กลุ่มสามารถ” รุกธุรกิจไอซีทีและพลังงาน ตั้งเป้า 2016 เป็นปีแห่งการลงทุนเพื่ออนาคต

กลุ่ม Samart ตั้งเป้ารายได้ปี 2559 อยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 25% เทียบกับปี 2558  ทุ่มงบลงทุนพลังงาน 2 หมื่นล้านบาท เน้นปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล พัฒนาสายงานโมบาย ชูบริการ เพิ่มธุรกิจอี-มาร์เก็ต เพื่อเป็นรายได้หลักในอนาคต

วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Samart Corporation เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจของกลุ่มสามารถยังคงน่าพอใจ แม้ต้องเจอกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั้งในและนอกประเทศ บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้รวมที่ 24,000 ล้านบาท คิดเป็นรายได้จากสายธุรกิจ ICT Solutions 10,000 ล้านบาท จากสายธุรกิจ โมบายมัลติมีเดีย (Mobile-Multimedia) 7,000 ล้านบาท สายธุรกิจ Related Business 2,100 ล้านบาท และสายธุรกิจ U-trans 5,000 ล้านบาท โดยมองว่าสามารถจะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะเน้นงานบริการและในส่วนแอพพลิเคชั่นมากขึ้น

“ปีนี้ เราประกาศให้พนักงานทุกคนทราบว่า เราจะรุกไปข้างหน้า เพื่อสร้าง“อนาคตที่ดีกว่า ให้ได้ในวันนี้” หรือ Better Future Today โดยได้มีการเปิดตัววัฒนธรรมองค์กรใหม่ของกลุ่มสามารถ (SAMART DNA) ประกอบด้วย Think Ahead (คิดให้ล้ำ ทำให้ได้) , Customer Focus (เข้าถึง ได้ใจ) , Team of Professionals (รวมพลังอย่างมืออาชีพ) และ Commit to Excellence (ทำให้สุด ไม่หยุดแค่คำว่า “พอใจ”) เพื่อให้ทุกสายธุรกิจของ “สามารถ” เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ปี 2016 นอกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แล้ว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมจากภาครัฐ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมธุรกิจ SME และการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน จะเป็นแรงหนุนที่สำคัญและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่กลุ่ม “สามารถ” บริษัทฯ จึงตั้งเป้ารายได้รวม 24,000 ล้านบาท คิดเป็นรายได้จากสาย ICT Solutions 10,000 ล้านบาท Mobile-Multimedia 7,000 ล้านบาท สายธุรกิจ Related Business 2,100 ล้านบาท  และสายธุรกิจ U-trans  5,000 ล้านบาท

“กลุ่มบริษัทสามารถ” มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร  ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท  และมี 4 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) และล่าสุด บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับธุรกิจสมาร์ทโฟน i-mobile ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากสภาวะตลาดและการแข่งขันที่รุนแรง  สมาร์ทโฟนหลากหลายแบรนด์คู่แข่งหั่นราคาดุเดือด และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ก็ใช้กลยุทธ์แจกสมาร์ทโฟนฟรีหรือซื้อสมาร์ทโฟนในราคาถูกแบบติดสัญญา  ทำให้ยอดขาย i-mobile ลดลงจากปีละ 4 ล้านกว่าเครื่อง เหลือ 3 ล้านกว่าเครื่องในปี 2558 ที่ผ่านมา ตั้งเป้าปีนี้ ยอดขายจะต้องไม่น้อยลงกว่าปีก่อน

i-mobile 3GX จะกลับมาทำตลาดอีกครั้งในฐานะ MVNO ซึ่งอยู่ในระหว่างการปรับปรุงความพร้อมด้านเทคนิคของ  TOT และ CAT ในเร็ววันนี้  เตรียมความพร้อมในการให้บริการ 4G เพราะสมาร์ทโฟน i-mobile รองรับ 4G มานานแล้ว และย้ำชัดว่าจะไม่มีการร่วมมือหรือใช้คลื่นความถี่ของผู้ให้บริการรายใหม่อย่างแน่นอน  พร้อมชี้ว่าการลงทุนมหาศาลอย่างที่ผู้ให้บริการรายใหม่ทำก่อนแล้วรอให้ลูกค้าเข้ามาทีหลัง ใช้เวลานานหลายปีจึงจะเริ่มมีกำไร ไม่ใช่วิถีการทำธุรกิจของ Samart i-mobile  แต่จะเลือกทำธุรกิจที่สร้างรายได้ตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่กำลังมีความต้องการ

i-mobile จึงต้องปรับตัวเองให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค จะมีการเปิดตัวธุรกิจ e-Market Place ในประเทศไทย ซึ่งจะให้บริการที่หลากหลาย อาทิ บริการ Wapp-Wapp เป็นบริการ e-commerce ที่พร้อมส่งทุกสินค้าและบริการตอบโจทย์แก่ผู้บริโภคภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยมีเครือข่ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างมากมายที่พร้อมบริการแล้ว, บริการ Thailand Mall ช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการออนไลน์เพื่อโปรโมทและจำหน่ายสินค้าไทยคุณภาพสูงสู่ตลาดโลก และ Thailand Check-in บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนร้าน สามารถไอ-โมบายในรูปโฉมใหม่ คือ บริการซ่อม i-Fixed รับซ่อมทุกแบรนด์มือถือด้วยมาตรฐานคุณภาพ บริการรับชำระค่าบริการครบวงจร และอื่น ๆ ที่ต้องรอติดตาม โดยจะเปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง (MBK)

เร็ว ๆ นี้ ภาพลักษณ์ของไอ-โมบายจะเปลี่ยนไป กลายเป็น Life Mobility ไม่ใช่เพียงแค่ Smartphone อีกต่อไป

ส่วนธุรกิจ ICT Solutions ปัจจุบันมีงานในมือแล้วมูลค่า 8,200 ล้านบาท มั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีทอง ที่จะยังครองความเป็นผู้นำในการ ติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม ด้วยโอกาสจากหลายโครงการที่เลื่อนมาจากปีที่แล้ว โดยตั้งเป้าหมายการขยายฐานลูกค้าในส่วนของเอกชนให้มากขึ้น รวมถึงเน้นการขยายบริการซ่อมบำรุงระบบและอุปกรณ์ด้านไอที ด้วยศูนย์บริการกว่า 38 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้มาตรฐาน ISO 20000 เพื่อเสริมรายได้ประจำของกลุ่มให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น  จะรอรายได้จากการประมูลงานของภาครัฐนั้น ไม่ได้แล้ว ปีนี้จะรุกเต็มที่มากขึ้น

ส่วนสายธุรกิจ U-trans ซึ่งประกอบด้วย CATS, Kampot Power Plant และ Teda บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านระบบและเสาส่งไฟฟ้า มีแผนที่จะลงทุนในธุรกิจพลังงานในปีนี้ มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ทั้งในไทย พม่า ลาวและกัมพูชา ซึ่งจะประกาศความชัดเจนได้ในปลายเดือน มี.ค. 2559 นี้ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 10,000 ล้านบาท ในอีก 2 ปี ข้างหน้า และในสายธุรกิจ Related Business ระบบรักษาความปลอดภัยของ Vision & Security ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีโครงการที่รอประมูลในปีนี้ 2,000 ล้านบาท