รีวิว Microsoft Lumia 950 สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานแบบ Mobile Office

รีวิว Microsoft Lumia 950 สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานแบบ Mobile Office

Lumia 950 สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์จากไมโครซอฟท์ ที่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2559  ถือว่ามีกระแสตอบรับที่ดีมากจากผู้ใช้ที่หลงใหลในเทคโนโลยี (โดยเฉพาะกลุ่ม Geek)  สินค้าล็อตแรก หมดอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าชาวไทย เป็นเรื่องที่ Surprise วงการไอทีอย่างมากที่ Lumia 950 จะสร้างปรากฏการณ์อันเหลือเชื่อแบบนี้ได้

นั่นเป็นเพราะ Lumia 950 เป็นสมาร์ทโฟนที่ทำงานได้ราวกับเครื่องพีซี ด้วยระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 บนหน้าจอแสดงผลแบบ Quad HD ขนาด 5.2 นิ้ว ในบอดี้บางเพียง 8.25 มม. ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 20,700 บาท  แต่มีทีเด็ดซ่อนอยู่ตรงที่ สามารถขยายการใช้งานให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบพกพาได้ ใช้งาน Microsoft Office และ Windows 10 ได้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง

ด้วยอุปกรณ์เสริมที่สามารถต่อพ่วงกับ Mouse, Keyboard, Joystick, LED Monitor, TV หรือ Projector ได้  แต่น่าเสียดายที่จุดเด่นเหล่านี้ แทบจะไม่มีใครรู้ และมองข้ามสมาร์ทโฟนดี ๆ รุ่นนี้ไป  เป็นเหตุผลที่อยากจะนำมารีวิว เพื่อแนะนำให้ผู้อ่านได้รู้จัก เห็นถึงความสามารถที่มีประโยชน์ ใช้งานทางธุรกิจได้จริง

 

คุณสมบัติเด่นและสเปค

• ครบทุกฟังก์ชันเด่นจากวินโดวส์ 10: Lumia 950 มอบประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ตามใจ ทำได้มากกว่าด้วยโปรแกรมและฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัว Cortana, Microsoft Office หรือวินโดวส์สโตร์¹
• Continuum และ Microsoft Display Dock: ใช้งาน Lumia 950 ได้ราวกับเครื่องพีซี เพียงเชื่อมต่อเข้ากับหน้าจอขนาดใหญ่ คีย์บอร์ด และเมาส์ ผ่านทาง Microsoft Display Dock อุปกรณ์เสริมที่ยกระดับประสบการณ์การใช้งานฟีเจอร์ Continuum บนแพลทฟอร์มวินโดวส์ 10 ทั้งยังสามารถชาร์จไฟเข้าโทรศัพท์ไปพร้อมกันในขณะใช้งาน เมื่อเชื่อมต่อกับหน้าจอแล้ว สามารถใช้แอปพลิเคชั่นวินโดวส์ได้อย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารใน Microsoft Office เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือเปิดภาพยนตร์ให้เด็ก ๆ ชม ยิ่งไปกว่านั้น สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อโทรออกหรือส่งข้อความได้ตามปกติ แม้ในขณะที่ยังมีการใช้งานแอปฯ อื่นๆ บนจอใหญ่²
• เก็บภาพคมชัด ตระการตา: กล้องถ่ายรูปความละเอียด 20 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี PureView ช่วยให้คุณเก็บบันทึกภาพประทับใจได้งดงามในทุกโอกาส จับสีสันเป็นธรรมชาติแม้ในที่มืดด้วยแฟลช LED 3 ดวง ส่วนฟีเจอร์ Rich Capture ช่วยเลือกโหมดกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในสภาวะแสนท้าทาย นอกจากนี้ ยังสามารถเก็บทุกรายละเอียดอย่างไม่มีตกหล่นด้วยฟังก์ชันบันทึกวิดีโอคุณภาพระดับ 4K

ตัวเครื่อง

• ระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ 10
• ขนาด 145 x 73.2 x 8.25 มม. น้ำหนัก 150 กรัม
• วัสดุเคส: โพลีคาร์บอเนต
• สี: ดำ ขาว³
• ปุ่มการใช้งาน: ปุ่มเปิด-ปิด ปุ่มปรับเสียง ปุ่มกล้อง

 

แกะกล่อง มาพร้อมอุปกรณ์เสริมเพื่อการทำงานที่สมบูรณ์แบบ

ลูกค้าที่ซื้อ Microsoft Lumia 950 ในชุดโปรโมชั่น จะได้รับอุปกรณ์เสริมเป็น Microsoft Display Dock และสายต่อครบชุด ดังในภาพ

Microsoft Display Dock วัสดุด้านข้างเป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูง มีพอร์ตเชื่อมต่อมากมาย

Input ด้านหน้าเป็นพอร์ต USB-C มีไฟ LED แสดงสถานะ

สาย USB-C to USB 3.0 สำหรับเชื่อมต่อ Lumia เข้ากับคอมพิวเตอร์

สาย USB-C to USB-C สำหรับเชื่อมต่อ Lumia เข้ากับ Display Dock

ที่ชาร์จแบบถอดสาย USB-C ไม่ได้ สำหรับชาร์จอย่างเดียว เพราะแยกสายถ่ายโอนข้อมูลเป็นอีกเส้นหนึ่งแล้ว

หูฟังแบบ Earbud

ตัวเครื่องที่นำมารีวิวครั้งนี้เป็นเครื่องสีดำ  กระจกหน้าจอดำสนิท เปื้อนรอยนิ้วมือได้ยาก ทำความสะอาดง่ายมาก

ฝาหลังเป็นพลาสติกสีดำด้าน เป็นรอยขีดข่วนได้ค่อนข้างยาก

หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว สีสันสดใสและความคมชัดสูงมากถึงระดับ QHD ตัวอักษรคมกริบ ไร้รอยหยักของขอบตัวอักษร

หน้าจอกว้าง แสดงผลได้เยอะ โดยไม่รู้สึกถึงความอึดอัดของ Tile และตัวอักษร

กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

ปุ่มทุกอย่าง ย้ายไปอยู่บนจอภาพทั้งหมด

ปุ่มด้านข้าง มีทั้งปุ่มชัตเตอร์กล้องแบบสองจังหวะ ปุ่มเปิด/ล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง

ช่องต่อหูฟัง

ด้านข้างฝั่งซ้าย ไม่มีปุ่มใด ๆ

มีโลโก้ไมโครซอฟท์เป็นโลหะ ที่ฝาหลัง

ไฟแฟลชเป็นแบบ LED 3 โทนสีผสมกันเพื่อให้ได้แสงที่เป็นธรรมชาติที่สุด

กล้อง PureView และเลนส์ ZEISS นูนขึ้นมาจากหลังเครื่องอยู่พอสมควร

ลำโพงหลัง อยู่ใกล้กับกล้อง

คราบมันจากนิ้วมือ ไม่ค่อยเปื้อนเลอะให้เห็นบนฝาหลัง

ในขณะที่หน้าจอถูกล็อค แต่มีการหยิบเครื่องขึ้นมาหรือมีการเคลื่อนไหวผ่าน Sensor ด้านหน้า หน้าจอก็จะปรากฏนาฬิกา วันที่ และการแจ้งเตือนแบบจาง ๆ ในส่วนนี้ มีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยมาก ไม่ต้องกังวลว่าจะเปลืองไฟหรือทำให้หน้าจอเกิดความร้อน

แกะฝาหลังออกมา พบว่ามีเสาอากาศฝังอยู่ด้านในของฝาหลัง

แบตเตอรี่ถอดได้

ต้องถอดแบตเตอรี่ออกกก่อนจึงจะใส่ microSD และ nano SIM ได้

แบตเตอรี่ขนาด 3000mAh เยอะเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งวัน

ปุ่มโครเมียม หรูหรา แวววาว แต่ขอบคมไปหน่อย

เริ่มต้นใช้งาน Continuum ขยายความสามารถให้ใช้งานได้เสมือนคอมพิวเตอร์

เมื่อเชื่อมต่อ Lumia 950 เข้ากับ Microsoft Display Dock และ LED Monitor  ก็จะปรากฏวิดีโอสาธิตแนะนำการใช้งาน

เชื่อมต่อ Mouse และ Keyboard เข้ากับ Microsoft Display Dock

ทดลองเปิด Microsoft PowerPoint เปิดเต็มจอเหมือนคอมพิวเตอร์ได้เลย

ในขณะที่เปิดใช้งาน PowerPoint  สามารถสลับใช้งานอย่างอื่นบนเครื่อง Lumia ได้ โดยไม่กระทบกับ PowerPoint ที่เปิดใช้งานอยู่บนจอใหญ่

หน้าจอ Lumia สามารถใช้งานเป็น TouchPad สั่งงานแทน Mouse บนจอได้

ใช้สองนิ้วขยุ้มบนจอ Lumia เพื่อ Zoom in / Zoom out วัตถุบนจอใหญ่ได้

ตั้งค่า Display และ Continuum ได้

แยกอิสระการใช้งาน บน Lumia กับแอปพลิเคชั่นบนจอใหญ่ ไม่รบกวนกัน

มี Lumia กับ Display Dock ก็เหมือนพกพาคอมพิวเตอร์ส่วนตัวไปทุกที่ เชื่อมต่อ Mouse กับ Keyboard ใช้งานได้สมบูรณ์แบบ ไร้ขีดจำกัด

ทดลองเปิดใช้ Microsoft Word แสดงผลได้ถูกต้อง ไม่ผิดเพี้ยน รวมทั้งภาษาไทยด้วยเช่นกัน

ใช้สองนิ้วในการ Scroll หน้าเว็บหรือเอกสาร Word ได้เหมือน TouchPad ของ Notebook

ทดลองเปิดใช้ Microsoft Excel ใหญ่เต็มจอ เซลล์กว้างเห็นข้อมูลครบ เหนือชั้นกว่าคู่แข่งอย่าง Google Sheets

ทดลองใช้งาน Microsoft Outlook ดูอีเมลได้เต็มตาเหมือนเปิดบน PC ที่ใช้ Windows

ทดลองใช้งานแอปพลิเคชั่น Facebook ที่อยู่บน Lumia เอง  อันนี้ยังให้ประสบการณ์ไม่ดีเท่ากับการใช้งานผ่าน Browser ต้องปรับปรุงกันต่อไป

แอปพลิเคชั่น Weather บน Lumia เมื่อใช้งานบนจอใหญ่ แสดงผลได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หมายความว่าออกแบบให้ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ ทุกขนาดหน้าจอ

ส่งภาพจากกล้องแบบสด ๆ ออกไปยังจอ LED Monitor ได้  ส่วนบนจอ Lumia ก็ยังเป็น TouchPad

Continuum สามารถใช้งานได้กับแอปพลิเคชั่นของ Microsoft เองก่อน  เมื่อได้รับความนิยม ก็จะขยายไปสู่แอปพลิเคชั่นของ Third Party

มีพอร์ต USB เพียงพอสำหรับการเชื่อมต่อ Mouse / Keyboard / Flashdrive

หากไม่มีหรือไม่ได้พกพา Microsoft Display Dock  ก็สามารถเชื่อมต่อกับ TV หรือ Monitor แบบ Wireless ก็ได้ในกรณีที่หน้าจอรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย

ได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีมาก เมื่อใช้งาน Twitter บน Lumia เนื่องจากปรับพื้นหลังให้เป็นสีดำถนอมสายตาได้ และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย

 

ซอฟต์แวร์

Start screen สไตล์เดียวกับ Windows OS เวอร์ชั่นใหม่ และรายการแอปพลิเคชั่น

นาฬิกาปลุก และเวลาทั่วโลก

เครื่องคำนวณ และการตั้งค่ากล้องถ่ายภาพ

UI กล้องถ่ายภาพ และรายการไฟล์ล่าสุดที่บันทึกลงเครื่อง ดูแยกหรือไม่แยกตามประเภทก็ได้

ปฏิทินนัดหมายและการใช้พื้นที่เก็บข้อมูลบนตัวเครื่อง

ใครว่าแอปพลิเคชั่นบน Windows Store แทบไม่มีอะไรเลย?  ทั้งเกมดังและแอปพลิเคชั่นยอดนิยมที่ทุกคนต้องใช้งานเป็นประจำทุกวัน ก็มีครบให้ดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี  ส่วนแอปพลิเคชั่นของไมโครซอฟท์เอง ก็จัดเต็ม เพื่อให้ใช้งานทางธุรกิจได้อย่างประสิทธิผล คุ้มค่ากับราคาเครื่อง

รายงานสภาพอากาศปัจจุบันและพยากรณ์ล่วงหน้ารายชั่วโมง รายวัน ด้วย UI ที่สวยงามอย่างมาก ดูได้ง่าย  ในส่วนของ Lock screen สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ Hello Windows ปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนม่านตา แทนการใช้รหัสผ่าน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทำงานได้แม่นยำกว่าลายนิ้วมือ ใส่แว่นสายตา ก็ปลดล็อกได้ ขอแค่มองเห็นม่านตา ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัย

ปรับเร่งสีหน้าจอให้สดยิ่งขึ้นได้ สู้แสงกลางแจ้งได้ เก็บข้อมูลการเคลื่อนที่หรือเดินทางได้

Equalizer 7 แบนด์ ปรับชดเชยเสียงได้อิสระ พร้อมจำลองเสียงรอบทิศทางสำหรับหูฟังได้ด้วย

 

ตัวอย่างภาพถ่าย

ภาพถ่ายจาก Microsoft Lumia 950 สร้างความน่าทึ่ง อยู่ในระดับแถวหน้าของกลุ่มสมาร์ทโฟนไฮเอนด์อีกแล้ว  ด้วยกล้อง PureView ความละเอียดสูงมากถึง 20 ล้านพิกเซล เลนส์ ZEISS อันลือชื่อ บวกกับระบบประมวลผลที่ดีเยี่ยม  ทำให้ภาพถ่ายที่ได้มีความสวยคมอย่างมาก  วัดแสงเงาได้แม่นยำทั่วทั้งภาพ ถ้าปรับความสว่างเพิ่มอีกเล็กน้อย ภาพจะยิ่งสวย เพราะดูเหมือนว่าภาพถ่ายภายในอาคาร แสงดู Under เล็กน้อย  โดยรวมถือว่ายอดเยี่ยม เก็บภาพประทับใจได้ทุกโอกาส ไม่จำเป็นต้องพกกล้องถ่ายรูป ไม่พบปัญหาภาพสั่นไหวหรือเบลอง่ายอย่างที่เคยพบในสมาร์ทโฟนทั่วไป

ส่วนภาพถ่ายจากล้องหน้า ถือว่าดีพอใช้ได้ เก็บรายละเอียดได้ดี มีความคม (Sharpness) ไม่ใช่สไตล์ภาพสว่างแต่ฟุ้งเบลอเหมือน Lumia รุ่นระดับล่าง  แต่สีผิวอาจดูผิดเพี้ยนไปในทางโทนแดงบ้าง แนะนำให้ถ่ายภาพ Selfie ด้วยแอปพลิเคชั่นอื่นอย่าง Lumia Selfie หรือ Camera365 ดีกว่า (ใน Windows Store ไม่มีแอปฯ ชื่อ Camera360)

 

สรุป

Microsoft Lumia 950 Dual SIM ราคาเปิดตัว 20,700 บาท  เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่น่าสนใจแต่หลายคนกลับมองข้ามไป  จากการทดสอบใช้งานมา 3 สัปดาห์  มีจุดที่น่าประทับใจหลายด้าน ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานทางธุรกิจนอกสำนักงาน การใช้งานด้านความบันเทิงด้วยจอภาพที่ดีเยี่ยม กล้องถ่ายภาพ แม้ภาพจะมืดไปนิด แต่สวยคมเหลือเชื่อ  ยังพอใจทุกอย่างใน Lumia 950 อยู่แล้ว รออีกนิด ก็จะปรับราคาลงอีกหลายพันบาท แล้วเวลานั้นอย่าพลาดที่จะเป็นเจ้าของ พร้อมอุปกรณ์เสริมอย่าง Display Dock ที่ต้องมีหรือแถมด้วย จึงจะเติมเต็มประสิทธิภาพให้คุ้มค่า

จุดเด่นที่น่าประทับใจ

• จอภาพสวย สีสดใส ตัวอักษรเนียนตา ภาพคมกริบ
• ต่อขยายเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อม ใช้งาน Microsoft Office ได้ รูปแบบเอกสารไม่ผิดเพี้ยน รองรับฟอนต์พิเศษ
• กล้องถ่ายภาพ ฉลาด วัดแสงเฉลี่ยได้ถูกต้อง ไม่วูบวาบ ภาพสวยคม เก็บรายละเอียดได้ดีมาก
• รองรับ 2 nano SIM และใส่ microSD ได้ ถอดแบตเตอรี่ออกได้
• มาตรฐานใหม่แห่งอนาคตด้วยสาย USB-C  สายคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ดีที่สุดในยุคนี้
• เร็ว ลื่น ใช้งานหนักก็ไม่มีหน่วง เสถียรภาพเป็นเลิศ ไว้ใจได้ในระบบปฏิบัติการ Windows 10
• ใช้งานแอปพลิเคชั่น Twitter ได้ดีมาก รวมทั้ง Microsoft Office ก็ทำงานได้ดี

ข้อสังเกต

• มีความร้อนพอสมควรเมื่อใช้งานหนัก
• แบตเตอรี่ ใช้งานได้ประมาณ 1 วันพอดี เพราะระบบแสดงผล ค่อนข้างใช้พลังงานมาก
• การบริการหลังการขายยังต้องปรับปรุง จุดรับซ่อมมีน้อย รอซ่อมนานมาก
• มีแอปพลิเคชั่นเฉพาะยอดนิยมเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น เท่าที่มีอยู่ ก็พบว่าการแสดงผลก็ยังขาดความสมบูรณ์
• Facebook กับ LINE บน Lumia ยังให้ประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดีเท่าสมาร์ทโฟนระบบอื่น
• วัสดุและดีไซน์ตัวเครื่อง ยังขาดความสวยงามและหรูหรา ไม่สมราคา
• พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ต้องพกสาย USB-C ไปด้วยเสมอ

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

• iPhone 6s
• Samsung Galaxy S7
• LG G5 (นำเข้าโดย TG fone)
• Sony Xperia Z5 Premium
• Samsung Galaxy Note5
• Huawei Mate 8
• Huawei P9
• Moto X Style