OnePlus 10T 5G สมาร์ตโฟนเรือธง เร็ว แรง เพิ่มช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมยิ่งขึ้น เข้าถึงง่ายกว่าเดิม!

OnePlus 10T 5G สมาร์ตโฟนเรือธง เร็ว แรง เพิ่มช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมยิ่งขึ้น เข้าถึงง่ายกว่าเดิม!

ภายหลัง OnePlus 10T 5G สมาร์ตโฟนเรือธง เร็ว แรง ชาร์จไว ได้เปิดตัวในประเทศไทย ในราคาเริ่มต้นเพียง 24,990 บาท พร้อมจับมือเหล่าพันธมิตร เพื่อเพิ่มช่องทางการขายตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

โดย OnePlus 10T 5G จะเริ่มเปิดวางจำหน่ายผ่านช่องทางเพิ่มเติมทั้ง Lazada, JD Central และ Thisshop ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน นี้เป็นต้นไป

OnePlus 10T 5G ภายใต้สโลแกน ‘’Evolve Beyond Speed’’ เน้นความเร็วแรงที่มากขึ้นแบบเต็มสปีด – ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 8+ Gen 1 รุ่นล่าสุดของ Qualcomm และ OxygenOS เวอร์ชันล่าสุด

หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz, รองรับสี 10 บิตและมาตรฐาน HDR10+ ให้แรมสูงสุดถึง 16 GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4800mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว SUPERVOOC 150W

หายห่วงด้วยระบายความร้อน 3D Cooling System ซึ่งใช้แผงระบายความร้อนขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาจาก OnePlus

และฟังก์ชั่น Battery Health Engine ที่ช่วยรักษาคุณภาพของแบตเตอรี่เพื่อให้ใช้ในระยะยาวได้ รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 ยังมาพร้อมกับการอัพเดทระบบความปลอดภัยของตัวเครื่องเป็นเวลา 3 ปี

นอกจากนี้ยังรองรับการอัพเกรดระบบปฏิบัติการได้ถึง 2 เวอร์ชั่น ซึ่งทำให้โทรศัพท์ของคุณทันสมัยอยู่เสมอ ตอบสนองทุกคนที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

OnePlus 10T 5G วางจำหน่ายในประเทศไทย

• รุ่น 8GB + 128GB สีดำ Moonstone Black วางจำหน่าย ราคา 24,990 บาท

• รุ่น 16GB + 256GB สีเขียว Jade Green วางจำหน่าย ราคา 27,990 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.oneplus.com/th/10t

โปรโมชั่นเมื่อสั่งซื้อผ่านช่องทางผู้ให้บริการเครือข่าย AIS พร้อมแพ็คเกจรายเดือน Hot Deal 5G Max Speed Exclusive ในราคาเริ่มต้นเพียง 16,490 บาท เท่านั้น วันนี้ – 10 ตุลาคมนี้!

AIS Online Store : https://m.ais.co.th/EKH89BZcy

และสิทธิพิเศษเมื่อซื้อผ่าน OnePlus Official Store บน Shopee ใช้โค้ดช้อปปี้ ONEPLTETC รับ Coin Cashback คืนสูงสุด 1,000 Shopee coins ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2565

Shopee : https://bit.ly/3Rs6ypr

และเพื่อเพิ่มช่องทางการขายตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดย OnePlus 10T 5G จะเริ่มเปิดวางจำหน่ายผ่านช่องทางเพิ่มเติม ผ่านทาง Lazada, JD Central, Thisshop ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน นี้เป็นต้นไป