รีวิว vivo X60 Pro 5G เรือธงกล้อง ZEISS ผสานกันสั่น Gimbal ขั้นเทพ! พร้อมสเปกจัดเต็มทุกด้าน

รีวิว vivo X60 Pro 5G เรือธงกล้อง ZEISS ผสานกันสั่น Gimbal ขั้นเทพ! พร้อมสเปกจัดเต็มทุกด้าน

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสุดยอดสมาร์ตโฟน 5G กล้องสวยขั้นเทพ ใช้ชิปทรงพลัง แบตอึด ชาร์จไว และจัดเต็มสเปกการใช้งานด้านต่าง ๆ

วันนี้เรามีบทความรีวิว vivo X60 Pro 5G สมาร์ตโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล X Series ที่มาพร้อมสโลแกน “Photography Redefined” หรือนิยามใหม่แห่งการถ่ายภาพ มาฝากให้ได้ชมกัน

vivo X60 Pro 5G ชูจุดเด่นกล้องถ่ายภาพที่ทาง vivo ได้ร่วมพัฒนากับ ZEISS นำคุณภาพด้วยเลนส์กล้อง ZEISS เพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพอันยอดเยี่ยม พร้อมมีเลนส์ Biotar สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้ชัดเจน และสมจริงมากขึ้น

นอกจากนี้กล้องหลักยังมาพร้อมเทคโนโลยีกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 แบบ 5 แกน ที่อัปเกรดขึ้นไปอีกขั้นจากรุ่นก่อนหน้า โดยเซ็นเซอร์หลักคมชัดถึง 48MP ผสานการทำงานร่วมกับเลนส์ Portrait ความละเอียด 13MP

มีโหมด Bokeh ให้ภาพสวยเนียนเป็นธรรมชาติ และเลนส์ถ่ายภาพ Super Wide Angle ความละเอียด 13MP เก็บภาพได้ครบทุกองศา พร้อมโหมดการใช้งานเด่น ๆ อีกเพียบ ส่วนกล้องเซลฟี่ก็คมชัดถึง 32MP

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 870 หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM 256GB รันบน Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11.1 และรองรับเครือข่าย 5G แบบ SA/NSA

ใช้จอดีไซน์ Ultra O Screen ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz ตัวเครื่องดีไซน์โค้งมน หรูหรา บางเบา และมีการไล่เฉดสีแบบ Gradient บนดีไซน์ 3 มิติสวยหรู ความบางเพียง 7.69 มม. และน้ำหนัก 179 กรัม

พร้อมใช้งานยาวนานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh สนับสนุน 33W FlashCharge ผ่านพอร์ต USB Type-C มาพร้อมตัวเครื่องสี Shimmer Blue ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 24,999 บาท

สามารถเป็นเจ้าของ vivo X60 Pro 5G ก่อนใครได้แล้ววันนี้ รับฟรีทันที VIP Card รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ปี 1 ครั้ง มูลค่า 8,200 บาท และหูฟัง vivo wireless sport lite มูลค่า 1,799 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ BaNANA, TG FONE, Jaymart, CSC, IT City,Kingkong, BKK,Maxling, Power Mall และช่อง vivo Official Online Store

รวมถึง vivo Flagship Store บนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้ง Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop เราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปก vivo X60 Pro 5G

Features	vivo X60 Pro 5G
วันเปิดตัว :	– 10 มิถุนายน 2564
ราคา :	– 24,999.-
	– (ข้อมูล ณ เดือน มิ.ย. 64)
OS :	– Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11.1
หน้าจอ :	– หน้าจอ AMOLED
	– ขนาด 6.56 นิ้ว
	– ความละเอียด 2376×1080 พิกเซล
	– รองรับ HDR10+
	– อัตรา Refresh Rate สูง 120Hz
	– กระจก Corning Gorilla Glass 6
CPU :	– Snapdragon 870 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
GPU :	– Adreno 650
RAM :	– 12GB
ROM :	– 256GB
กล้องหลัง :	– 48MP + 13MP + 13MP
	– f/1.48 + f/2.2 + f/2.46
	– LED flash
	– เลนส์ Zeiss Optics
	– PDAF
	– กันสั่น Gimbal
	– HDR
	– Panorama
กล้องหน้า :	– 32MP
	– ค่ารูรับแสง f/2.45
	– HDR
Video :	– 4K@30/60fps, 1080p@30/60fps
Battery :	– 4200mAh
	– 33W FlashCharge
ขนาด :	– 158.58×73.24×7.69 มม.
น้ำหนัก :	– 179 กรัม
รองรับซิม :	– Dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 4G LTE
	– 5G SA/NSA
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz, 5GHz
	– Bluetooth 5.1
	– USB Type-C
	– OTG
	– NFC
GPS :	– GPS
	– A-GPS
	– GLONASS
	– BDS
	– GALILEO
Sensor :	– Fingerprint Under Display
	– Accelerometer
	– Gyro
	– Proximity
	– Compass
สี :	– Shimmer Blue

แกะกล่อง vivo X60 Pro 5G

อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย

– vivo X60 Pro 5G ตัวเครื่องสี Shimmer Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน FlashCharge 33W
– สายชาร์จ USB Type-C
– หูฟังขนาด 3.5 มม.
– ตัวแปลงพอร์ตจาก 3.5 มม. เป็น Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน

อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้อย่างครบครันเลยค่ะ

ส่วนเคสกันรอยที่แถมมาให้เป็นเคสซิลิโคนแบบใส โชว์ดีไซน์ด้านหลังกันแบบชัด ๆ

ขณะที่ Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ vivo X60 Pro 5G รองรับเทคโนโลยี FlashCharge กำลังไฟ 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง

ทำความรู้จัก vivo X60 Pro 5G

ด้านหน้า vivo X60 Pro 5G ใช้จอแสดงผลแบบ Ultra O Screen ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ Full HD+ หน้าจอสีสันคมชัด สดใส สมจริง ทัชจอลื่นด้วยค่า Refresh Rate สูงถึง 120Hz และมีค่า Response Rate สูง 240Hz ทำให้หน้าจอสัมผัสตอบสนองได้เร็วยิ่งกว่าเดิม

พร้อมรองรับ HDR10+ มอบคุณภาพวิดีโอที่น่าทึ่งยิ่งขึ้น ครอบด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 6 รองรับ SGS Eye Care Display และ SGS Seamless ลดการปล่อยคลื่นแสงสีฟ้า จอแสดงผลชัดเจน และสามารถใช้งานได้อย่างสบายตา

ด้านหน้าส่วนบน มีการเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูง 32MP ไว้ตรงกลาง ซึ่งมีขนาดเล็กเพียง 3.96 มิลลิเมตร ทำให้ใช้งานได้อย่างสมดุล ไม่บดบังรายละเอียดบนหน้าจอ เหนือหน้าจอขึ้นไปเป็นลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา

ด้านหน้าส่วนล่าง มีปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางฝั่งซ้าย คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมืออันฉับไวไว้ใต้จอแสดงผลอีกด้วย

ด้านหลัง ตัวเครื่องใช้ดีไซน์สไตล์โค้งมนเหมือนกับรุ่น X50 Pro บอดี้บางเบาสวยงามแบบมีระดับ ผิวสัมผัสแบบด้าน พร้อมตกแต่งด้านบนด้วย Choker มีความประณีต และมีความซับซ้อนในรายละเอียด

ตัวเครื่องมุมโค้ง 3D หรูหรา กระชับฝ่ามือ มีขนาดบางเพียง 7.69 มม. และน้ำหนักเพียง 179 กรัม

ส่วนตัวเครื่องสี Shimmer Blue ที่เราได้นำมารีวิวให้ได้ชมกันนั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธีมสีดอกไม้ฤดูร้อน เฉดสีฟ้าและสีม่วงอ่อน บอดี้ไล่สีสันแบบสองโทนที่สวยงาม ดูละมุนไปทุกองศาเลยค่ะ

ด้านหลังส่วนบน ใช้ดีไซน์การออกแบบ Dual Tone Step ขั้นแรกเป็นพื้นสีดำสำหรับวางตัวกล้อง มีการจัดวางตัวกล้องอย่างมีมิติ จัดเรียงในระนาบเดียวกันอย่างเรียบง่ายและสม่ำเสมอ ขั้นสองพื้นเป็นสีเดียวกับฝาหลัง ส่วนขั้นที่สามเป็นฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่

ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ vivo สีเงินสกรีนอยู่ค่ะ

ด้านบนตัวเครื่อง พบรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และสกรีนข้อความ Professional Photographer บนพื้นโลหะสีเงิน

ด้านล่างตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด, รูไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type C และลำโพงเสียง ตามลำดับ โดยลำโพงเสียงรับรองคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ช่วยให้เพลิดเพลินไปกับภาพและเสียงด้วยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม

โดย vivo X60 Pro 5G มีถาดใส่ซิมแบบ Dual Slot รองรับซิมการ์ดแบบนาโนซิม ที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณ 5G แบบ SA และ NSA ในประเทศไทย

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ไร้ฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ

ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิดปิดหรือรีสตาร์ทเครื่องค่ะ

Performance

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 870 จาก Qualcomm ซึ่งมีประสิทธิเหนือกว่าในทุกด้านเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Snapdragon 865 ทำงานความเร็วสูงสุด 3.2GHz ผสานหน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 650 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11

อีกทั้งประสิทธิภาพของ CPU และ GPU เพิ่มขึ้นอีก 10% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในชีวิตประจำวัน และมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมมากกว่าเดิม

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Extended RAM เทคโนโลยีการเพิ่ม RAM ให้มีพื้นที่มากขึ้น โดยพื้นที่จัดเก็บ ROM ส่วนหนึ่งถูกจัดสรรมาใช้สำหรับ RAM ทำให้ X60 Pro 5G มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB + 3GB สามารถใช้แอปฯ พร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยใช้ ROM แบบ UFS 3.1 สามารถรับชมภาพยนตร์ ชมวิดีโอได้อย่างไม่มีสะดุด และอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ความละเอียดสูงได้อย่างรวดเร็ว

และเมื่อนำไปทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่าสามารถทำคะแนนรวมไปได้ 716,584 คะแนน ถือว่าเยอะพอควรเลย

พร้อมรองรับ 5G Dual Mode ทั้งแบบ SA (Standalone) และ NSA (Non-Standalone) ใส่ซิมการ์ด 5G ได้สองซิมเลยค่ะ

สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณ 5G ได้อย่างราบรื่น และใช้งานเครือข่ายได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดฮิตอย่าง PUBG MOBILE ปรับตั้งค่าภาพ HD ระดับสูง สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ตัวเกมไม่สะดุด ไม่มีอาการกระตุก ภาพสวยคมชัด ระบบเสียงดี

และอีกเกมคือ Garena Free Fire เล่นได้แบบเพลิน ๆ เลยค่ะ เครื่องไม่ร้อน เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น เกมสมูท ภาพสวยดี

ขณะที่ระบบเสียง จอใหญ่คมชัดแบบ Full Screen ทำให้ภาพมีความสวยคมชัด จอสีสันสดใส เสียงดังคมชัดด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ใช้งานได้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น

Interface

เริ่มที่หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน (หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า หรือรหัสผ่าน) แต่หากลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแล้ว บนหน้าจอจะแสดงไอคอนขึ้นมา 2 แบบ

สามารถสแกนลายนิ้วมือลงบนหน้าจอตรงไอคอนได้เลย หรือหากจะสแกนใบหน้าก็ปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อนแล้วปัดขึ้น รวมถึงเข้าถึงการโทรได้อย่างรวดเร็วที่มุมซ้ายล่าง และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพที่มุมขวาล่างค่ะ

หลังจากปลดล็อกหน้าจอมาแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้ 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา UI มีความเรียบง่าย สวยงาม ใช้งานได้ลื่นไหลกว่าเดิมบน Funtouch OS 11.1 ที่มาพร้อมไอคอนใหม่ล่าสุดเพลิดเพลินไปกับการรับชมภาพคุณภาพสูง และใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อปัดหน้าจอด้านบนลงจะพบกับแถบแจ้งเตือน รวมถึงการเข้าถึงโหมดใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, ไฟฉาย หรือการแคปภาพหน้าจอพิเศษ เป็นต้น แต่หากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่อง

เมื่อกดค้างไปบนหน้า Home Screen จะมีให้เลือกตั้งค่าหน้าแรก, ตกแต่งวิดเจ็ต และเปลี่ยนภาพพื้นหลัง

รองรับแอปฯ จาก Google ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ V-Appstore และ Play Store

รองรับ iManager ช่วยตั้งค่าดูแลระบบต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะ, ล้างพื้นที่ในเครื่อง หรือสแกนหาปัญหาต่าง ๆ ขณะใช้งาน ช่วยให้สมาร์ตโฟนเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา

หน้าเมนูการโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ

พร้อมรองรับ Google Assistant ที่สามารถสั่งการค้นหา หรือเปิดใช้งานฟังก์ชันอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงพูด

รองรับแอปฯ วัดสภาพอากาศ, นาฬิกาปลุก, แอปฯ EasyShare

แอปฯ สมุดโน๊ต, ปฏิทิน และ Multi-Turbo

เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง

หน้าจอรองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดป้องกันดวงตา ที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวล พร้อมปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เอง, มีโหมดกลางคืน ที่สามารถตั้งค่าเวลาใช้งานได้ และตั้งค่าสีหน้าจอ

สามารถตั้งค่าเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก อาทิ ภาพเคลื่อนไหวของไอคอนสแกนลายนิ้วมือ, ฟีเจอร์จดจำใบหน้า และภาพเคลื่อนไหวเมื่อเสียบสายชาร์จ เป็นต้น

รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี

ตัวเครื่องมีระบบ AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ พร้อมจัดการการใช้พลังงานเบื้องหลังไม่ให้กินพลังงานแบตเตอรี่

ระบบรักษาความปลอดภัยของ vivo X60 Pro 5G ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และรองรับการสแกนใบหน้า ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบการล็อกหน้าจอก่อนนะคะ

รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

รองรับ Ultra Game Mode สามารถเปิดฟีเจอร์ห้ามรบกวน, ปิดกั้นข้อความ และบล็อกการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องเพลิดเพลิน ไม่มีช่วงขัดจังหวะ

รองรับการตั้งค่าทางลัดและการเข้าถึงต่าง ๆ อาทิ การจับภาพหน้าจอ, การเริ่มต้นใช้งานด่วน, ใช้ฟังก์ชันหลายหน้าจอ

การแจ้งเตือนด้วยแสงแฟลช, การใช้งานมือเดียว และการใช้ Beauty Mode ระหว่างวิดีโอคอลผ่านแอปฯ ต่าง ๆ เป็นต้น

รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อที่ไม่เป็นประโยชน์

รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วทำง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และการอัปเดตซอฟต์แวร์

สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ USB Type-C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC, ภาพถัดมาเป็นมุมมองหน้าจอขณะชาร์จแบตเตอรี่ ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว และสามารถเปิด-ปิด, รีสตาร์ทตัวเครื่อง หรือกดปุ่มฉุกเฉินด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

เริ่มกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.45

กล้องรองรับ HDR ถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม เป็นธรรมชาติ ภาพคมชัดทุกรายละเอียด

พร้อมรองรับ Eye Autofocus โหมดโฟกัสอัตโนมัติฉับไว ที่โฟกัสทั้งการเคลื่อนไหวแบบอัตโนมัติ จับที่ดวงตาซ้ายขวา

หรือจะโฟกัสวัตถุ โฟกัสที่ร่างกาย เป็นต้น นอกจากนี้ยังตั้งค่าเอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวขณะโฟกัสได้อีกด้วย เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ

เริ่มที่ Super Night Selfie Mode เซลฟี่ยามค่ำคืนได้คมชัดมากยิ่งขึ้น ลดการเกิดนอยส์บนภาพถ่าย พร้อมรองรับ Selfie Spotlight ช่วยให้ภาพถ่ายสว่างไม่มืดทึบ มีความเป็นธรรมชาติ ผสานการทำงานร่วมกับ AI สุดอัจฉริยะ เก็บครบทุกรายละเอียด

และรองรับ AI Face Beauty ที่ปรับค่าความงามได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Selfie Mode

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Selfie Mode + Selfie Spotlight

Portrait Mode เพิ่มลูกเล่นลงในภาพถ่ายให้ดูมีชีวิตชีวาด้วย Portrait Bokeh ที่มีการผสมผสานระหว่างฉากหน้าและฉากหลัง สามารถปรับค่า f ของการถ่ายภาพ Bokeh ความเบลอของฉากหลังได้เอง หากค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอ พร้อมโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว และรองรับ Selfie Softlight Flash เพิ่มความสว่างให้กับภาพถ่ายยามแสงน้อย

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

รองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวสวยเนียน พร้อมโหมด Make Up ที่มีให้เลือกหลายโทนเลย ทั้งส้ม, แดง หรือชมพู และ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพเซลฟี่แบบชิค ๆ มาให้ ไม่ว่าจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่คู่ หรือเซลฟี่กลุ่มก็มีให้เลือกใช้งาน

ตัวอย่างภาพถ่าย Make Up

ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master

นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สไตล์สีใหม่ ฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลอีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี

ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี

ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง

Auto Mode รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR มีฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้งานมากมาย แต่โหมดนี้จะไม่มี AI Face Beauty ให้ใช้งานนะ

ตัวอย่างภาพถ่าย Auto Mode 

ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี

ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง

Video Mode ความละเอียดคมชัดระดับ 1080p (Full HD) พร้อมด้วยโหมด AI Face Beauty ปรับค่าสวยงามของผิว ทำให้ถ่ายภาพวิดีโอได้สวยงามไร้ที่ติ อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ  ให้เล่นอีกมากมายด้วย

ตัวอย่าง Selfie VDO

นอกจากนี้โหมดวิดีโอของกล้องหน้ายังมีเส้นกรอบช่วยให้บันทึกวิดีโอได้เป๊ะกว่าเดิม ตั้งความละเอียดของวิดีโอที่จะบันทึกได้ และมีโหมดถ่ายวิดีโอภาพยนตร์อีกด้วย

ตัวอย่าง Selfie VDO Cinema

รองรับ Live Photo Mode สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ และ AR Stickers Mode มีสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานมากมาย เพิ่มความน่ารักให้กับภาพถ่ายได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่าย AR Stickers

ถัดมาเราจะไปดูกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังค่ะ โดย vivo X60 Pro 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟน vivo รุ่นแรก ที่มาพร้อมเลนส์ ZEISS ซึ่งทาง vivo และแบรนด์กล้องชื่อดังร่วมกันพัฒนากล้องให้มีประสิทธิภาพดีมากกว่าเดิม สามารถถ่ายภาพได้อย่างมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

vivo X60 Pro 5G มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ความละเอียด 48MP เซ็นเซอร์หลัก IMX598 คมชัดสูงเก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน ถัดมาเป็นเลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 13MP เก็บภาพมุมกว้าง 120 องศา และทำหน้าที่เป็นเลนส์ Super Macro มีระยะโฟกัสใกล้สุด 2.5 ซม.

จบท้ายด้วยเลนส์ Telephoto ความละเอียด 13MP ระยะโฟกัสเทียบเท่า 50 มม. ใช้ถ่ายภาพ Portrait ได้สวยสมจริง พร้อมรองรับระบบกันสั่นสุดล้ำ Gimbal Stabilization 2.0 VIS แบบ 5 แกน ที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้า ทำงานร่วมกันระหว่าง OIS และ EIS

กล้องถ่ายภาพนั้นมีค่ารูรับแสงที่กว้างยิ่งขึ้น ทำให้การถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืน หรือภาพเคลื่อนไหวดีมากขึ้น ด้านการถ่ายวิดีโอก็กันสั่นได้เต็มรูปแบบ อีกทั้งมีเลนส์ Biotar สร้างภาพถ่าย Bokeh ได้สวยคมชัด ถ่ายภาพคนนั้นสวยสมจริง และชัดเจนมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดการใช้งานเด่น ๆ อีกเพียบ อาทิ Superb Night Camera 2.0, Pro Sports Mode, Cinematic Master, Astro Mode, Super Moon และ Long Exposure Mode เป็นต้น เราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันต่อเลยค่ะ

เริ่มกันที่ Superb Night Camera 2.0 หรือโหมดถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืนที่ยอดเยี่ยม โดยจะช่วยสร้างภาพถ่ายเฉดสีกลางคืนได้อย่างหลากหลายด้วยฟิลเตอร์กลางคืนสุดพิเศษมากมาย และเพิ่มมุมมองการถ่ายภาพกลางคืนที่กว้างขึ้นด้วยโหมด Super Wide-Angle และ Panorama

สามารถใช้เอฟเฟกต์ HDR ถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้ และโหมดพาโนรามาช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีขึ้น ด้านเลนส์ Portrait มีอัลกอริธึมลดสัญญาณรบกวนแบบหลายเฟรม ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลในช่วงกลางคืนได้อย่างชัดเจน

มาพร้อมกับฟังก์ชั่น Extreme Night Vision 2.0 ที่อัปเกรดใหม่ มีอัลกอริธึมการลดนอยส์โดย AI ที่พัฒนาขึ้นใหม่ สำหรับถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่มืดมาก ๆ

ตัวอย่างภาพถ่าย Superb Night Camera 2.0

ภาพถ่ายมุมปกติ 1x

ภาพถ่ายมุม 2x

ภาพถ่ายมุมกว้างพิเศษ 0.6x

ภาพถ่ายมุมกว้าง Panorama

ภาพถ่ายฟิลเตอร์กลางคืนสุดพิเศษ

ถัดมาเป็น Portrait Mode ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างสวยงามเป็นมืออาชีพ มีการแยกภาพบุคคลและภาพพื้นหลังแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เลนส์ Portrait ระดับมืออาชีพด้วยทางยาวโฟกัส 50 มม.

หากถ่ายภาพ Night Portrait หรือถ่ายช่วงกลางวันจะมีเอฟเฟกต์ Bokeh เพิ่มลูกเล่นเก๋ ๆ ให้กับภาพถ่ายได้ โดยสามารถเพิ่มลูกเล่นเปลี่ยนดวงไฟให้เป็นดีไซน์อื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น รูปหัวใจ, ดวงดาว, ผีเสื้อ หรือดอกซากุระ เป็นต้น

พร้อมสามารถปรับค่า Bokeh หน้าชัดหลังเบลอได้เอง โดยค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอ และรองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวเนียน, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, ใบหน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, แก้มเรียว, กราม, ดวงตากลมโต, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก, ช่วงตา และหน้าผาก

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

ตัวอย่างภาพถ่าย Night Portrait

มีสไตล์สีสวย ๆ ฟิลเตอร์สีที่หลากหลาย และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลให้เลือกใช้งานมากมาย

ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี

ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี

ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง

และรองรับ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพทั้งเซลฟี่คนเดียว, เซลฟี่กลุ่ม, ถ่ายภาพบุคคล และแบบกลุ่มอีกด้วย

Auto Mode รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR ถ่ายภาพปกติได้ 3 ระยะ คือ 1x, 2x และมุมกว้าง 0.6x มีโหมดถ่ายภาพ Super Macro ระยะโฟกัสใกล้สุด 2.5 ซม.

ตัวอย่างภาพถ่าย Auto Mode ระยะต่าง ๆ

ภาพถ่ายระยะ 1x

ภาพถ่ายระยะ 2x

ภาพถ่าย Super Wide-Angle ระยะ 0.6x

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro

พร้อมรองรับฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลด้วยค่ะ

Video Mode บันทึกที่ความละเอียดระดับ 4K, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) รองรับการเปิดไฟแฟลช, เส้นกรอบ, ปรับความละเอียดวิดีโอ, อัตราเฟรม และการบันทึกแบบภาพยนตร์หรือ Cinema Mode พร้อมมีกันสั่น Gimbal ที่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้แบบมาตรฐาน หรือแบบพิเศษ

ตัวอย่าง VDO กันสั่นพิเศษ

ตัวอย่าง VDO 4K

รองรับ Cinema Mode ถ่ายวิดีโอภาพภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมด้วยอัตราส่วนกว้างยาว 2.35:1 และรับการซูมเสียงที่ชาญฉลาด มีการติดตามทิศทางเสียงด้วยการตั้งค่าไมโครโฟน 3 ตัว ขณะเดียวกันยังมีซอฟต์แวร์ช่วยลดเสียงรบกวน เสียงลม ขณะบันทึกวิดีโอ ทำให้เสียงของผู้พูดชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง VDO Cinema

ทั้งยังมีฟีเจอร์ AI Face Beauty ปรับรายละเอียดโทนสีผิวได้หลากหลายระหว่างบันทึกวิดีโอ อาทิ ผิวนวล, โทนสีผิว, หน้าบางเรียว, กระชับผิว รวมถึงมีฟิลเตอร์สีมากมายให้เลือกใช้งานด้วย

นอกจากนี้ยังมี Ultra HD 48MP ถ่ายภาพด้วยความคมชัดสูงสุด ชัดเจนในทุกพิกเซลอย่างสมบูณ์แบบ เก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน

ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra HD 48MP

Panorama Mode เก็บภาพในแนวกว้างเต็มสายตา ทั้งแบบขนาดมาตรฐาน และแบบ Super Panorama

ตัวอย่างภาพถ่าย Panorama

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Panorama

Slo-Mo Mode บันทึกวิดีโอสโลวโมชั่น เก็บภาพวิดีโอได้อย่างช้า ๆ แต่มีความชัดเจน

ตัวอย่าง VDO Slo-Mo

Pro Sport Mode จับทุกการเคลื่อนไหวของภาพด้วยกล้องกันสั่น Gimbal อัลกอริธึมการตรวจจับการเคลื่อนไหวทำงานร่วมกับ Object Autofocus และ EFB Autofocus สามารถถ่ายภาพการเคลื่อนไหวได้อย่างไร้ที่ติ ช่วยลดระยะเวลาในการเปิดรับแสง เพื่อจับภาพเคลื่อนไหวให้ดีเลย์ใกล้เคียงกับ 0 ทำให้สามารถถ่ายภาพการเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย

ตัวอย่างภาพถ่าย Pro Sport

Mode Supermoon ใช้ถ่ายภาพดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์ให้ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ สามารถจับภาพโดยซูมได้ไกลสูงสุด ระบบ AI จะประมวลผลพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพอย่างดีเยี่ยมเพื่อเก็บภาพที่สวยที่สุด

ตัวอย่างภาพถ่าย Supermoon

Time-Lapse Mode ถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เองอีกด้วย

ตัวอย่าง VDO Time-Lapse

AR Stickers Mode มีสติ๊กเกอร์สวย ๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานมากมาย เพิ่มความน่ารักให้กับภาพถ่ายได้ดีทีเดียว ขณะที่ Live Photo Mode นั้นช่วยสร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ

ตัวอย่างภาพถ่าย AR Stickers

โหมดแก้ไขเอกสาร จับภาพเฉพาะ Text ในเอกสาร และ Mode Pro สามารถปรับตั้งค่า White Balance, ควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ หรือ Auto Focus ได้เอง

Astro Mode ใช้เก็บภาพดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืนได้อย่างชัดเจนและสวยงาม

ตัวอย่างภาพถ่าย Astro Mode

Long-Exposure Mode ใช้ถ่ายภาพเส้นแสงได้แบบง่าย ๆ ช่วยให้การถ่ายภาพเปิดรับแสงนานยิ่งขึ้นในฉากต่าง ๆ อาทิ หมอกควัน, ดอกไม้ไฟ, ภาพรถเคลื่อนไหว เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่าย Long-Exposure

พร้อมมีสไตล์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานคู่กันอีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก vivo X60 Pro 5G

สรุป

• ใช้จอแสดงผลแบบ Ultra O Screen ขนาด 6.56 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ จอใหญ่เต็มตา รับชมภาพได้สวยคมชัด สมจริง ใช้งานลื่นไหลด้วยค่า Refresh Rate สูงถึง 120Hz และ Response Rate สูง 240Hz จอสัมผัสตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม พร้อมรองรับ HDR10+ และ SGS Eye Care Display กับ SGS Seamless อีกด้วย
• ใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธง Snapdragon 870 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz ผสานชิปกราฟิก Adreno 650 พร้อมหน่วยความจำ RAM 12GB + ROM 256GB และมาพร้อม Extended RAM เทคโนโลยีการเพิ่ม RAM ให้มีพื้นที่มากขึ้นเป็นขนาด 12GB + 3GB

• ครั้งแรกกับกล้องเลนส์ ZEISS รุ่นแรกของค่าย กล้องหลังความละเอียดสูง 48MP เซ็นเซอร์หลัก IMX598 + เลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 13MP เก็บภาพมุมกว้าง 120 องศา และทำหน้าที่เป็นเลนส์ Super Macro มีระยะโฟกัสใกล้สุด 2.5 ซม. + เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13MP ระยะโฟกัสเทียบเท่า 50 มม. ใช้ถ่ายภาพ Portrait ได้สวยสมจริง พร้อมรองรับระบบกันสั่นสุดล้ำ Gimbal Stabilization 2.0 VIS แบบ 5 แกน
• กล้องหลังมีโหมดถ่ายภาพมากมาย อาทิ Superb Night Camera 2.0, Pro Sports Mode, Cinematic Master, Astro Mode, Super Moon และ Long Exposure Mode เป็นต้น

• กล้องหน้าความละเอียด 32MP พร้อม AI Face Beauty ได้ภาพถ่ายสวยงามเป็นธรรมชาติมากเลยค่ะ
• ตัวเครื่องดีไซน์ Ultra Slim สไตล์โค้งมนหน้าจอโค้ง 2.5D บอดี้บางเบาสวยงามมีระดับ ผิวสัมผัสแบบด้าน ตัวเครื่องสี Shimmer Blue บอดี้ไล่สีสันแบบ Gradient สองโทน ผสานดีไซน์แบบ 3 มิติ ดูละมุน หรูหรา ถือจับกระชับฝ่ามือ มีขนาดบางเพียง 7.69 มม. และน้ำหนักเพียง 179 กรัม
• แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh สนับสนุน 33W FlashCharge ผ่านพอร์ต USB Type-C สามารถใช้งานต่อเนื่องยาวนาน

ข้อสังเกต

• ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แต่จะใช้ตัวแปลงพอร์ตจาก 3.5 มม. เป็น Type-C แทนค่ะ
• ไม่รองรับ microSD Card

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

• iPhone 12 mini
• Sony Xperia 5 II
• OnePlus 8T
• Samsung Galaxy S21 5G
• Huawei P40
• OPPO Reno 10x Zoom
• realme X50 Pro 5G

ขอขอบคุณ vivo Service (Thailand) Co.Ltd