รีวิว Nokia 5 รันระบบ Android 7.1.1 ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มีสแกนลายนิ้วมือ ราคาประหยัด!

รีวิว Nokia 5 รันระบบ Android 7.1.1 ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มีสแกนลายนิ้วมือ ราคาประหยัด!

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ หลังจากที่เราได้รีวิว Nokia 3 สมาร์ทโฟนน้องเล็กราคาเบาๆ กันไปแล้วก่อนหน้านี้ (ชมรีวิว Nokia 3 คลิก) ล่าสุดทางเราได้มีโอกาสสัมผัสกับเครื่อง Nokia 5 เลยจะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน สำหรับ Nokia 5 มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวขนาดเหมาะมือพกพาใส่กระเป๋าได้แบบสบายๆ

มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 6,490 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีเงิน, สีทอง และสีน้ำเงินเข้ม ด้านสเปคการใช้งานเรียกได้ว่ามีมาให้แบบครบครัน ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat เวอร์ชั่นล่าสุด มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม บอดี้ผิวสัมผัสเรียบลื่นใช้วัสดุอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 งานประกอบแข็งแรงดี พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปชมรีวิว Nokia 5 เครื่องนี้กันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค Nokia 5

Features	Nokia 5
วันเปิดตัว :	– พฤษภาคม 2560
ราคา :	– 6,490.- (ณ วันที่ 31 ก.ค. 60)
ระบบปฏิบัติการ :	– Android 7.1.1 Nougat
หน้าจอ :	– หน้าจอ IPS
	– ขนาด 5.2 นิ้ว
	– 1280×720 พิกเซล
	– ขอบโค้ง 2.5D
	– กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass
	– Touchscreen
CPU :	– Snapdragon 430 Octa Core ความเร็ว 1.4GHz
GPU :	– Adreno 505
RAM :	– 2GB
ความจำตัวเครื่อง	– 16GB
	– microSD Card สูงสุด 128GB
กล้องหลัง :	– 13 ล้านพิกเซล
	– dual tone LED flash
	– PDAF
	– ค่ารูรับแสง f/2.0
	– Auto Focus
	– Touch Focus
	– Face Detection
	– HDR
กล้องหน้า :	– 8 ล้านพิกเซล
	– auto focus
	– ค่ารูรับแสง f/2.0
Video :	– 1080p
Battery :	– 3000 mAh
ขนาด :	– 149.7×72.5×8.05 มม.
น้ำหนัก :	–
รองรับซิม :	– dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 2G : 850/900/1800/1900 MHz
	– 3G : WCDMA
	– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi
	– Bluetooth 4.1
	– OTG
	– NFC
	– Micro USB 2.0
	– 3.5mm jack
GPS	– GPRS
	– A-GPS
	– GLONASS
Sensor :	– Fingerprint
	– Accelerometer
	– Ambient light
	– E-compass
	– Hall
	– Gyroscope
	– Proximity
สี :	– ดำ
	– เงิน
	– น้ำเงินเข้ม
	– ทอง

แกะกล่อง Nokia 5

Nokia 5 ถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัด หน้ากล่องยังคงมีรูปคนจับมือกันตามคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมของแบรนด์ Nokia ในสโลแกน Connecting People ที่เชื่อมต่อมนุษย์กับเทคโนโลยีมือถือสมาร์ทโฟนเข้าด้วยกัน หน้ากล่องโดดเด่นด้วยหน้าจอสมาร์ทโฟนสีน้ำเงินเข้ม เผยรายละเอียดด้านหน้าแบบชัดเจน

ด้านหลังกล่องระบุสเปคการใช้งานคร่าวๆ ดังนี้ Nokia 5 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat, ตัวเครื่องอลูมิเนียนแบบไร้รอยต่อ, สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2GB ความจุ 16GB รองรับ microSD Card , ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon จาก Qualcomm, หน้าจอ HD ขนาด 5.2 นิ้ว และกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เป็นต้น  และมีภาพตัวเครื่องสีน้ำเงินเข้มโชว์ดีไซน์ให้เห็นกันแบบชัดๆ

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– Nokia 5 ตัวเครื่องสีดำ
– เคสซิลิโคนแบบใส
– ฟิล์มกันรอยแบบใส
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
– สายชาร์จ micro USB
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่

สายชาร์จ micro USB และหูฟังสเตอริโอของ Nokia 5 เป็นสายสีดำหนา ส่วน Adapter มีขนาดเล็กกะทัดรัดรองรับ micro USB ไม่ใช่ USB-C

ทำความรู้จัก Nokia 5

ด้านหน้า Nokia 5 มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด HD กันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ขอบโค้ง 2.5D ระบบทัชสกรีนลื่นไหล

ด้านหน้าส่วนบน ประกอบไปด้วย เลนส์กล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้างจับภาพได้แบบไม่ตกเฟรม ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Auto Focus (ไม่มีแฟลช), ลำโพงสนทนา, โลโก้แบรนด์ และเซ็นเซอร์ต่างๆ

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮมที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่ม Recent App โดยปุ่มนำทางจะใช้งานแบบสัมผัสมีไฟ Backlight ป้องกันการสับสนใช้งานในที่มืดได้สะดวกขึ้น

ด้านหลัง Nokia 5 ได้รับการออกแบบที่โค้งมนเพรียวบาง บอดี้เรียบง่ายใช้วัสดุอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ชิ้นเดียวงานประกอบแข็งแรงทนทาน สวยงามไร้รอยต่อ ด้านหลังเรียบเนียน เส้นเสารับสัญญาณอยู่ที่บริเวณขอบด้านบนและด้านล่าง

ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วย เลนส์กล้องถ่ายภาพความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 มีระบบออโต้โฟกัส มาพร้อม dual LED flash โดยจัดวางในแนวตั้ง ส่วนด้านบนของเลนส์กล้องเกือบถึงขอบจะเป็นรูไมคโครโฟน ขยับมาที่กึ่งกลางตัวเครื่องจะพบโลโก้แบรนด์ Nokia

ด้านหลังส่วนล่าง พบข้อความสกรีนฝาหลังระบุถึงรหัสโมเดลรุ่น การออกแบบดีไซน์ หรือสถานที่ผลิต เป็นต้น

ด้านบนตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย รูไมคโครโฟน, ช่องเสียบ micro USB (ไม่ใช่ USB-C) และลำโพงเสียง

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และช่องใส่ microSD Card ที่แยกกันอย่างชัดเจน

โดย Nokia 5 สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับการใช้งาน microSD Card

ด้านขวาตัวเครื่อง พบปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง รีเซ็ตเครื่องใหม่ และปุ่มปรับระดับเสียง

ปุ่มปรับระดับเสียงรวมถึงปุ่มพาวเวอร์ของ Nokia 5 จะเป็นขอบสีเงิน

การแคปภาพหน้าจอ กดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ทางด้านขวาตัวเครื่อง

ทดสอบประสิทธิภาพ

เมื่อนำ Nokia 5 ที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 430 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.4GHz เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด มีคะแนนรวมอยู่ที่ 45364 คะแนน ทำได้ดีขึ้นกว่า Nokia 3 ที่มีคะแนนรวมอยู่ที่ 27264 คะแนน การใช้งานดาวน์โหลดทำได้ดีในระดับนึง แต่ช่วงเล่นเกมหรือถ่ายรูปบางครั้งเกิดอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย ไม่เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่เน้นเล่นเกมแบบจริงจัง

เบื้องต้นสเปคการใช้งานของ Nokia 5 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุดระบุว่า มีรหัสรุ่นโมเดล TA-1053 รันระบบ Android 7.1.1 Nougat ชิปประมวลผลแบบ Octa Core แปดแกนสมอง จีพียู Adreno 505 หน้าจอความละเอียด HD กล้องหน้าความละเอียด 8MP กล้องหลังความละเอียด 13MP ความจุใช้ได้จริงราว 7.95GB ถือว่าค่อนข้างน้อย สนับสนุน NFC เพื่อการแชร์ มีสแกนลายนิ้วมือ และเซ็นเซอร์ต่างๆ

Interface

เริ่มต้นที่หน้าจอ Lock screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน เข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการสไลด์มุมขวาขึ้น และการแจ้งเตือนต่างๆ แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดบนหน้าจอ Lock screen

หน้า Home screen หลังจากที่ทำการปลดล็อกเครื่องจะมีมาให้เพียงแค่หน้าเดียว การจัดวางแอปฯ เป็นระเบียบ เมื่อสไลด์หน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปฯ และเมื่อสไลด์ปัดหน้าจอไปทางขวามือจะนำเข้าสู่แอปฯ Google อย่างรวดเร็ว

หน้ารวมแอปฯ การใช้งานทั้งหมดที่ติดมากับตัวเครื่องจัดวางอย่างเป็นระเบียบมีให้ใช้งานอย่างครบครัน หากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ให้กดค้างไปที่ตัวแอปฯ แล้วเลื่อนไปยังพื้นที่ที่ต้องการ หรือลบด้วยการเลื่อนไปยังด้านบนตรงข้อความที่ระบุไว้ว่า “นำออก”

เมื่อกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้าตั้งค่าภาพพื้นหลังวอลเปอร์ วิดเจ็ต และตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติม

สามารถเปลี่ยนวอลเปเปอร์ได้เอง จะใช้ที่มีมาให้หรือใช้ภาพจากอัลบั้มส่วนตัวก็ได้ค่ะ

เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง

Nokia 5 รองรับ NFC เพื่อการแชร์ข้อมูลในระยะเวลาเพียงสั้นๆ และสามารถตั้งค่าแจ้งเตือนแอปฯ ได้อีกด้วย

Nokia 5 เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ โดยจะรองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

ก่อนการบันทึกลายนิ้วมือจำเป็นต้องเลือกรูปแบบการปลดล็อกด้วย อาทิ ตั้งค่ารหัสผ่าน, รูปแบบการวาดรหัส และใส่พินไอดี เป็นต้น

หากต้องการรีเซ็ตการตั้งค่าต่างๆ หรือสำรองข้อมูลภายในตัวเครื่องให้เข้าไปที่ การสำรองข้อมูลและการรีเซ็ต

สามารถตั้งค่าการใช้งานเคลื่อนที่ได้อีกด้วย ซึ่งมีทั้งการพลิกโทรศัพท์เพื่อการตัดสายโทรเข้า หรือปิดเสียงเมื่อหยิบอุปกรณ์ขึ้นมา

Nokia 5 มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ที่สามารถช่วยได้จริงมาให้ใช้งานด้วย

หน้าแสดงหน่วยความจำทั้งหมดภายในเครื่อง ที่ใช้งานไปแล้ว และพื้นที่บันทึกข้อมูลว่างเหลือให้ใช้งาน

การอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชั่นใหม่ๆ สามารถเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับอัปเดตได้ที่หน้า เกี่ยวกับโทรศัพท์ > การอัปเดตระบบ

แอปฯ Play เกมมีให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย ขณะที่ Play Books มีหนังสือให้ดาวน์โหลดอ่านฟรี และแบบเสียเงิน

หน้า Home screen ที่ปรากฏพบแอปฯ Play Store และรวมแอปฯ การใช้งานของ Google ที่มีมาให้อย่างครบครันเข้าถึงง่าย

การโทรสนทนา และข้อความ

เครื่องคิดเลข และปฏิทิน

วิทยุ FM ที่ต้องเสียบหูฟังเพื่อใช้เป็นเสาสัญญาณ และนาฬิกา

แอปฯ Duo การใช้งานโทรวิดีโอคอลแบบง่ายๆ แค่มีเบอร์โทรศัพท์ก็สามารถใช้งานได้ทันที

เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะพาเข้าสู่หน้าเคลียร์แอปฯ ทั้งหมดที่ใช้งาน และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านตัวเครื่องจะเป็นการปิดหรือรีสตาร์ทเครื่อง

และเมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick setting ที่แสดงการแจ้งเตือน และเปิดใช้งาน หรือตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ภายในตัวเครื่อง

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

มาเริ่มที่กล้องหน้าของ Nokia 5 กันเลยค่ะ โดยมีมาให้ใช้ค่อนข้างน้อย มีโหมดถ่ายภาพปกติ และโหมดถ่ายภาพแบบทัชอัพผิวเนียนขาวใส สามารถเปิดใช้แฟลชหน้าจอ, HDR, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้ค่ะ

โหมดถ่ายวิดีโอของกล้องหน้า มีให้ใช้งานการตั้งค่าแบบเคลื่อนไหวช้าและเร็ว ความละเอียดสูงสุด Full HD

สำหรับโหมดทัชอัพจะคล้ายๆ โหมดบิวตี้ที่สาวๆ ชื่นชอบ มีให้เลือกปรับ 20 ระดับ สำหรับรุ่น Nokia 3 ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ปรากฏโหมดทัชอัพแต่ไม่แสดงรายละเอียดให้เลือกปรับเหมือนกับ Nokia 5 (ชมรีวิว Nokia 3 คลิก)

ถัดมาเป็นในส่วนของกล้องหลังกันบ้าง เช่นเดิมมีโหมดการใช้งานมาให้น้อยมาก ได้แก่ ถ่ายภาพปกติ, ทัชอัพผิว และแบบพาโนรามา สามารถเลือกเปิดใช้งานแฟลช, HDR, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้

โหมดถ่ายภาพพาโนรามามุมกว้างรอบทิศทาง

โหมดทัชอัพผิวปรับได้ 20 ระดับเช่นเดียวกับกล้องหน้า

โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD

กล้องสามารถตั้งค่าลายน้ำ, ตารางเส้น, เข็มทิศ, การควบคุมชัตเตอร์, เสียงชัตเตอร์, แท็กตำแหน่งที่ตั้ง, ขนาดของภาพถ่าย, เลือกคุณภาพวิดีโอ หรือรีเซ็ตการตั้งค่ากล้องทั้งหมดได้

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Nokia 5

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Nokia 5

จุดเด่น

– หน้าจอ IPS ขนาดพอเหมาะ 5.2 นิ้ว พร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass
– ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
– ชิปเซ็ต Snapdragon 430 แบบ Octa Core (8 แกนสมอง) ความเร็ว 1.4GHz จีพียู Adreno 505
– RAM 2GB + ROM 16GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128GB
– กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม dual tone LED flash, Auto Focus
– กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Auto Focus
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมโหมดประหยัดพลังงาน
-รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ควบคู่กับใช้งาน microSD Card
– สนับสนุน 4G LTE
– รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 4.1, OTG, NFC, Micro USB 2.0, 3.5mm jack, GPS, GPRS
– มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัด ราคาไม่ถึงหมื่น

ข้อสังเกต

– หน้าจอเป็นแบบ HD (1280×720) ไม่ใช่ Full HD (1920×1080 พิกเซล)
– หน่วยความจำ RAM + ROM เหลือให้ใช้งานน้อยไปนิด
– ใช้พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB ไม่ใช่ USB-C
– กล้องมีโหมดการใช้งานน้อย ปรับโฟกัสไม่ค่อยนิ่ง
– เมื่อใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ตัวเครื่องจะเกิดอาการอุ่นเพียงเล็กน้อย
– GPS นำทางยังไม่ค่อยเวิร์ค

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

– Asus ZenFone 3 Max
– Huawei GR5
– i-mobile IQ Z BRIGHT
– Lenovo VIBE K5 Note
– Lenovo K6 Power
– Moto E4 Plus
– Nubia Z11 mini
– OPPO A37
– Samsung Galaxy J7 Version2
– Samsung Galaxy J7 Core (2017)
– vivo Y55
– Wiko U feel
– Wiko U feel FAB

ขอขอบคุณ HMD Global